เป็นเกมที่ขึ้นชื่อในด้านเนื้อหา, การเล่าเรื่องและการสร้างโลกในแบบฉบับของจักรวาล World of Darkness สำหรับ Vampire: The Masquerade – Bloodlines 2 ซึ่งในภาคนี้แน่นอนว่าจะสานต่อความสุดยอดของเรื่องราวในจักรวาล ที่ได้ฝากฝังไว้ให้ผู้เล่นเมื่อ 15 ปี ปีก่อน
ซึ่งทางคุณ Cara Ellison ผู้ออกแบบการเล่าเรื่องระดับอาวุโสได้ออกมาพูดถึงเบื้องลึกถึงกระบวนการเขียนเรื่องราวเพื่อสร้างเมือง Seattle ในรูปแบบจักรวาล World of Darkness ของภาคต่อนี้ จากบันทึกของผู้พัฒนา ซึ่งก็มีประเด็นที่น่าสนใจอยู่ใช่ย่อย
ใน Bloodlines 2 คุณไม่สามารถทำสิ่งใดบรรลุได้โดยไร้ซึ่งการลงไม้ลงมือหรือทำให้พวกเขามีโทสะ คุณจะเลือกได้เพียงว่าคุณจะจัดการกับ ‘ใคร’ ในเมื่อคุณเป็นอมตะ เรื่องราวของการเมืองมันเป็นเรื่องระยะยาว แค้นนี้ กี่ปีก็ไม่เคยสาย เพราะพวกคุณไร้ซึ่งความตาย ตัวอย่างเช่น ถ้าคนธรรมดาตายเป็นผักปลาละ คุณจะใช้ชีวิตอย่างไรเมื่อไม่มีแหล่งอาหาร? คุณจะทำอย่างไรไม่ให้คนรู้ว่าเผ่าพันธุ์ของคุณมีตัวตนอยู่? เรื่องราวของการเมืองจากคนปกติจะส่งผลต่อพวกคุณเพียงใด? และอีกหลากหลายกรณีที่คุณต้องคิดว่า คุณจะจัดการกับมันอย่างไร
โดยคุณต้องอยู่ในแวดวงของสังคม vampire อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ vampire ทุกตนที่คุณเผชิญหน้า ล้วนอยู่ในวัฏจักรนี้มาก่อนคุณ คุณอยู่ในโลกของพวกเขา คุณไม่ใช่ผู้กล้าในนิทานหลอกเด็ก พวกเขาก็เช่นกัน แต่คุณก็เป็นเพียงเบี้ยตัวเล็ก ๆ ในโลกสุดลึกล้ำเท่านั้น เบี้ยที่อยู่ในกำมือของผู้ควบคุมเกมการเมือง อย่างว่า คุณถูกผูกติดไว้กับพวกนี้แล้ว
ซึ่งใน Bloodlines 2 จะเต็มไปด้วยการสนทนาที่อัดแน่นไปด้วยตัวเลือกมากมาย แน่นอนว่าก็จะตามาด้วยผลลัพธ์หลายทิศทางที่จะส่งผลต่อตัวคุณไปจนถึงตัวโลกเช่นกัน vampire ในเมือง Seattle ก็เต็มไปด้วยพวกเส็งเคร็ง บทสนทนาของพวกเขาจะทำให้เราเข้าใจสิ่งที่เกิดในโลกมากขึ้น รวมไปถึงผลลัพธ์จากการกระทำของคุณ ซึ่งตัวละครต่าง ๆ ก็จะมีความเป็นมนุษย์อยู่ (หมายถึงมิติตัวละคร แต่พวกเขาก็เป็น vampire อยู่ดีนะ) ไม่ใช่ว่าคุณมาตลกกับมุกที่พวกเส็งเคร็งเล่นกับคุณ จะทำให้พวกมันเป็นคนเลวน้อยลง
เรื่องราวเพิ่มเติมในจักรวาล World of Darkness
- ‘คัลท์คลาสสิก’ และการคืนชีพของ Vampire: The Masquerade – Bloodlines 2
- ‘Cainites’ เผ่าพันธุ์แวมไพร์ชีพอนันต์ใน Vampire: The Masquerade
- สำรวจ ‘อาการทางจิต’ อย่างละเมียดละไม ใน Vampire: The Masquerade – Bloodlines 2