ถึงแม้ว่าเกมจะมีเสียงตอบรับในช่วงแรกไม่ค่อยจะดีสักเท่าไร สำหรับเกม Star Wars Battlefront II โดยฝีมือของ DICE แต่ตัวเกมก็ได้รับการสนับสนุนจากผู้พัฒนามาตลอด จนตัวเกมมีความสมบูรณ์มากขึ้นตามลำดับ และในปีนี้ก็ยังมีการสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง
โดยสำหรับการอัปเดตที่จะมาในเดือนกันยายนก็คือโหมด Instant Action ซึ่งเป็นโหมดที่อยู่ในตัว Battlefront ภาคต้นฉบับ เป็นโหมดการเล่นคนเดียว ซึ่งผู้เล่นสามารถเลือกแผนที่และเข้าสู่สนามรบพร้อมกับ AI รวมเคียงบ่าเคียงไหล่ได้ทันที ซึ่งจะมีแผนที่ในโหมด Capital Supremacy ของดาว Naboo, Kamino, Kashyyyk, Geonosis และแผนที่ในดาวใหม่อย่าง Felucia ดาวจากภาพยนตร์ในภาคที่สาม Revenge of the Sith ซึ่งทางสหภาพ (Confederacy) ต้องจัดการฝั่งสาธารณรัฐ (Republic) และยานขนส่งของพวกเขา มีเนื้อหาในช่วงที่การรุกรานจากกลุ่มแบ่งแยกดินแดน (The Separatists) ของดาว Felucia ใกล้จะจบลง
และยังมีอีกโหมดใหม่ในรูปแบบของการ Co-op คือโหมด PvE ซึ่งจับกลุ่มเล่นได้ถึงสี่คน นอกจากนั้นยังมีการปรับปรุงสมดุลของโหมด Capital Supremacy ที่รวมไปถึงการให้เลือกจุดเกิดที่ Command Post ไหนก็ได้ เหมือนกับในตัวเกมต้นฉบับ แต่ส่วนที่ถือว่าเป็นที่น่าสนใจที่สุดในการอัปเดตครั้งนี้ก็คือ การกลับมาของสุดยอดหน่วยรบโคลนอย่าง Clone Commando
ส่วนการอัปเดตปิดท้ายแผนการสนับสนุนเกมของปี 2019 ก็คือการอัปเดตที่อ้างอิงจากภาพยนตร์ที่กำลังจะเข้าฉาย The Rise of Skywalker คล้ายคลึงกับแผนการสนับสนุนของปีที่แล้วที่มีการอ้างอิงจากภาพยนตร์ The Last Jedi และ Solo แต่ยังไม่มีข้อมูลรายละเอียดจาก EA แต่อย่างใด