R. Talsorian Games ผู้จัดจำหน่าย Cyberpunk ฉบับ tabletop RPG ได้วางจำหน่าย Cyberpunk Red ชุดเริ่มต้นสำหรับผู้เล่นหน้าใหม่ที่ต้องการเข้ามาสู่จักรวาลนี้อย่างเร่งด่วน ซึ่งคุณ Jon Ryan นักเขียนจากสำนักข่าว IGN ได้สรุปเรื่องราวของ Cyberpunk Red โดยเป็นเนื้อหาที่จะส่งผลกระทบต่อ Cyberpunk 2077 ไม่ว่าจะเป็นด้านการเมือง สังคม สิ่งแวดล้อม และเทคโนโลยี ซึ่งทำให้เราคาดเดาบริบทที่อาจเกิดขึ้นใน Cyberpunk 2077
ช่วงเวลาแห่งความแดงฉาน
Red อยู่ในช่วงกลางยุค 2040 ประมาณ 32 ปีก่อนเหตุการณ์ใน Cyberpunk 2077 เป็นช่วงการฟื้นฟูเมือง Night City ที่เสียหายอย่างย่อยยับ เป็นผลพวงจากสงครามองค์กรครั้งที่สี่ (Fourth Corporate War) ซึ่งเกิดจากความขัดแย้งระหว่างสององค์กรใหญ่ระดับโลก MiliTech กับ Arasaka Security
โดยสงครามจบลงทันทีเมื่อในปี 2023 ทาง MiliTech ทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ลูกเล็กลง ณ ตึกสำนักงานใหญ่ในเมือง Night City ของ Arasaka Security ทิ้งซากปรักหักพัง หมอกฝุ่น และฝุ่นกัมมันตรังสี (รวมไปถึงสารเคมีอื่น ๆ และส่วนตกค้างของการใช้อาวุธยิบย่อยในสงคราม) แพร่กระจายไปในอากาศ ปกคลุมไปด้วยหมอกสีแดงทั่วทั้งโลก ช่วงเวลาดังกล่าว รู้จักกันในนาม
ช่วงเวลาแห่งความแดงฉาน (THE TIME OF THE RED)
“เราค่อนข้างมองซีรีส์ Cyberpunk ราวกับเป็นหนังสือการ์ตูน” คุณ Mike Pondsmith ผู้พัฒนาซีรีส์ Cyberpunk กล่าว “และคุณก็รู้วิธีการที่หนังสือการ์ตูนล้างไพ่,มีปม, มีการเปลี่ยนแปลง เป็นต้น ในเกมสวมบทบาท ในจุดที่ตัวละครกับสถานการณ์มันคงที่ ฝั่งเราทรงอำนาจเกินกว่าจะหยุด ผู้เล่นทรงอำนาจเกินกว่าจะหยุด งั้นคุณต้องล้างไพ่ แต่คุณมีหนทางชาญฉลาดจะทำมัน”
ผลจากสงครามและระเบิด
หลังจากสงคราม รัฐบาลสหรัฐเข้ากำกับดูแลและเกณฑ์ทรัพย์สินเกือบทั้งหมดของ MiliTech ถึงแม้ว่ามีการสนับสนุนกองกำลังติดอาวุธของพวกเขา รัฐบาลก็ยังคงมีอำนาจควบคุมเหนือรัฐที่อยู่ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำมิสซิสซิปปี
ส่วนอีกหลายรัฐในทางตะวันตกตอนเหนือของประเทศ (Pacific Northwest) ได้แก่ รัฐวอชิงตัน, รัฐออริกอน, รัฐไอดาโฮ, ตอนเหนือของรัฐแคลิฟอร์เนียพร้อมด้วยรัฐบริติชโคลัมเบียของประเทศแคนาดาประกาศอำนาจอธิปไตยเหนือตนเอง ก่อตั้งรัฐบาลเฉพาะกิจ นามว่า Pacifica Confederation ความแตกแยกดังกล่าวจึงทิ้งให้เมือง Night City ต้องประสบความโดดเดี่ยว ต้องฟื้นฟูด้วยกำลังของตัวเอง หลังจากที่ทางรัฐบาลสหรัฐประกาศว่าเป็นพื้นที่ซึ่งไม่สามารถฟื้นฟูได้
คุณ Ryan กล่าวว่ามีความเป็นไปได้ที่ในระหว่างช่วง Red และ 2077 ทางเมือง Night City ก่อสงครามกับรัฐบาลสหรัฐ หรือเอาตรง ๆ คือ รัฐบาลสหรัฐพยายามจะก่อสงครามกับเมือง Night City และล้มเหลวไปเสีย จากหนังสือเรื่องราวของโลก Red ที่ให้ข้อมูลการฟื้นฟูของเมือง Night City อธิบายไว้ว่ารัฐบาลสหรัฐทอดทิ้งเมือง Night City หลังจากเกิดระเบิด และปิดโอกาสของรัฐอิสระในการกลับเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของสหรัฐอเมริกา ดังที่เขียนเอาไว้ “[รัฐบาลสหรัฐกำลัง] จะเข้าร่วมสำหรับสงครามสุดน่ารังเกียจและยาวนาน ถ้าพวกเขาต้องการให้พื้นที่อิสระ (Free Zone) ดังกล่าวกลับเข้ามาในกลุ่ม พวกเขาอาจร้องขอ Arasaka สำหรับความช่วยเหลือ ถ้าเป็นแบบนั้น”
ซึ่งใน 2077 เราเห็นตึก Arasaka ตั้งอยู่ตระหง่านกลางเมือง ซึ่งมีการกล่าวว่า Arasaka หวนคืนวงการ “อย่างลับ ๆ” เป็นไปได้ว่าพวกเขาทำงานภายใต้หน้ากากโดยอาศัยชื่อองค์กรเล็ก ๆ หรือแก๊งข้างถนนรับจ้าง ในช่วงการฟื้นฟูของเมือง Night City สภาเทศบาลเมืองที่เคยถูกครอบงำโดยองค์กร กลายเป็นการผสมระหว่างแก๊ง Edgerunner และสมาชิกดั้งเดิม ในช่วงเวลาดังกล่าวเป็นช่วงที่เต็มไปด้วยความขัดแย้ง มักแก้ปัญหาด้วยการใช้กำลังแทนการเจรจา โครงสร้างขององค์กรไม่มั่นคงอย่างที่จะเกิดใน 2077 ในหนังสือเรื่องราวของโลก Red กล่าวไว้
ในช่วงเวลาแห่งความแดงฉาน เมือง NIGHT CITY มันคือ คาซาบลังกาแบบไซเบอร์เนติกส์
จากการเกิดระเบิด ก่อให้เกิดแผ่นดินไหว เมืองส่วนใหญ่จมน้ำ เลยมีการคาดเดาว่าอาจจะมีระเบิดนิวเคลียร์อีกลูกซ่อนอยู่ที่ไหนสักแห่งในเมือง Night City ในขณะที่ตึก Arasaka ถูกทำลายโดยระเบิดของ MiliTech ทาง Arasaka เองก็มีระเบิดซุกซ่อนอยู่ใต้ฐานของสำนักงานใหญ่ หลังจากผลกระทบของระเบิดนิวเคลียร์ภาคพื้นดิน ระเบิดอีกลูกก็ถูกฝั่งไว้ใต้ดินและคาดว่าหายสาบสูญไปพร้อมซากปรักหักพัง อย่างที่ใน Red กล่าวไว้ “ไม่มีใครรู้ว่าระเบิดของ Arasaka ไปอยู่ที่ไหน หลังจากการถล่มของตึก และแม้ว่ามีพวกตำแหน่งระดับสูงขององค์กร (อย่าง Kei และพ่อของเขา Saburo) รู้ถึงเรื่องนี้ แต่ความรู้ของอาวุธ Arasaka กลายเป็นตำนานไปเสียแล้ว”
ส่วนอีกเรื่องราวน่าสนใจที่จะเจอใน 2077 ก็คือ หลังจากสงครามเช่นกัน บริษัทที่ตั้งในรัฐวอชิงตันและรัฐออริกอน นาม BioTechnica ได้รับสิทธิตามกฎหมายให้ปล่อยชนิดพันธุ์ที่ถูกตัดต่อพันธุกรรมของพืชและสัตว์ด้วยความหวังที่ว่าจะสร้างความมั่นคงให้กับระบบนิเวศที่ย่อยยับนี้ยังชายฝั่งตะวันตก ซึ่งต้องใช้เวลา 30 ปีในการเติบโต ผลมันจะเป็นอย่างไรใน 2077?
เทคโนโลยีใหม่แบบเก่า ๆ
“ผ่านมาเกือบ 20 ปีแล้ว ตอนนี้” คุณ Pondsmith กล่าว “เรานั่งลงแล้วพูดว่า เราต้องรื้อระดับของเทคโนโลยี เราจะทำอย่างไรโดยไม่ให้มันพังแบบความคลั่งของ Mad Max?”
แม้ว่าจะเป็นพื้นที่อิสระแยกจากสหรัฐอเมริกา ที่ประเทศอื่นและรัฐบาลสามารถจัดสรรการค้าและธุรกิจได้ เมือง Night City ในช่วงเวลาแห่งความแดงฉานเผชิญกับปัญหาความตกต่ำทางเทคโนโลยี ซึ่งเราจะได้เห็นผลลัพธ์ใน 2077 “สังคมเทคโนโลยีขึ้นอยู่กับสิ่งเฉพาะทางมาก ๆ” คุณ Pondsmith กล่าว “ยกตัวอย่าง คุณเอาน้ำมันไม่ได้ ถ้าไม่มีถัง คุณเอาอาหารไม่ได้ ถ้าไม่มีการขนส่ง คุณเอาโทรศัพท์ไม่ได้ จนกว่าคุณจะได้วัตถุดิบหายาก เอาไปยังโรงงาน เอาไปแปรรูป เอาไปทำให้กลายเป็นแผ่นไมโครชิป ให้แผ่นไมโครชิปส่งไปยังอีกที่ จากนั้นทำโทรศัพท์”
เมื่อขาดห่วงโซอุปทานที่แน่นอน หลายเทคโนโลยีของ Cyberpunk Red ขึ้นอยู่กับการดัดแปลงเทคโนโลยีเก่า ๆ สำหรับการใช้งานรูปแบบใหม่ อย่างที่หนังสือเรื่องราวของโลก Red กล่าว “มันไม่ใช่ยุคทองของช่วง 2020 แต่มันก็ใช้การได้”
อย่างที่เห็นกันชัดเจนก็คือ Netrunner (อาชีพนักเจาะระบบในจักรวาล Cyberpunk) ซึ่ง NET ถูกทำลายไปในช่วงสงครามแล้ว เมื่อก่อนที่สามารถเสียบหัวแจ็คเข้าไปยังอินเทอร์เน็ตจากที่ใดก็ได้ ในยุค Red เหล่า Netrunner ต้องไม่อยู่ติดกับที่ อย่างการใช้ cyberdeck (เหมือนเครื่องเล่น VR) พกพาและกระชับกว่าก่อน ซึ่งมี AR HUD นำทางพวกเขาไปยังจุดเชื่อมต่อเครือข่ายท้องถิ่น ซึ่งเราได้เห็นแล้วในตัวทดลองของ 2077 ซึ่งเชื่อมต่อ NET ได้ง่ายขึ้น
อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับโลกของ Cyberpunk 2077 เพิ่มเติมได้ที่
- การสร้างเมือง Night City ที่เต็มไปด้วยเรื่องราว ใน Cyberpunk 2077
- การเล่าเรื่องผ่านแฟชั่นในโลกของ Cyberpunk 2077
- เรื่องราวสามวีรบุรุษในวัยเด็กของ V กับ Cyberpunk 2077