หากกล่าวถึงจักรวาลอันลุ่มลึก, ยิ่งใหญ่ และทรงคุณค่าที่สุดในวงการเกม อันมีต้นกำเนิดมาจากเกม tabletop นอกจากจักรวาล BattleTech ที่ผู้เขียนหลงใหลยิ่งแล้ว ยังมีอีกจักรวาลที่เป็นหนึ่งในความคลั่งไคล้ของใครหลาย ๆ คน แน่นอน นั้นก็คือ จักรวาล Warhammer
ผ่านการกลั่นกรอง บ่มหมักด้วยกาลเวลา เสริมคุณค่าดุจไวน์หลายศตวรรษ จึงเป็นวัตถุดิบชั้นเยี่ยมในการนำไปต่อยอดในสื่อบันเทิงรูปแบบอื่นนอกจากเกม tabletop ซึ่งก็คือวิดีโอเกม เราจึงเห็น Warhammer ถูกดัดแปลงเป็นวิดีโอเกมจนชินหน้าค่าตา ล่าสุดสำหรับ Warhammer: Chaosbane ด้วยรูปแบบเกมแนว Diablo-like
Warhammer ชื่อเดิมคือ Warhammer Fantasy Battle (หรือ Warhammer Fantasy) คือเกม tabletop ประเภท Wargame ธีมแฟนตาซียุคกลางที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากนิยายของคุณ J. R. R. Tolkien และคุณ Michael Moorcock เป็นจำลองการต่อสู้ระหว่างกองทัพจากต่างก๊กต่างเผ่าพันธุ์ เกมสร้างโดยคุณ Rick Priestley จัดจำหน่ายโดยบริษัท Games Workshop วางจำหน่ายรุ่นแรกในปี 1983 ต่อเนื่องมาจนวางจำหน่ายรุ่นสุดท้ายในวันที่ 10 กรกฎาคม 2010 ซึ่ง Warhammer ไม่ได้รับการสนับสนุนจาก Games Workshop แต่ผู้เล่นสามารถใช้โมเดลในการเล่น Warhammer Age of Sigmar แทน
ซึ่งนอกจากเกม tabletop ก็มีการนำ Warhammer มาดัดแปลงเป็นเกมกันอย่างนับไม่ถ้วน อย่างเช่น Warhammer: Chaosbane
Warhammer: Chaosbane พัฒนาโดยฝีมือของทีม Eko Software ผลงานที่เรารู้จักเป็นอย่างดีก็คือเกม How to Survive จัดจำหน่ายโดย Bigben Interactive ซึ่ง Warhammer: Chaosbane เป็นเกมที่ตั้งอยู่บนเรื่องราวของ Warhammer Fantasy ในช่วงหลังจากสิ้นสุดเหตุการณ์มหาสงครามประจัน Chaos (The Great War against Chaos) บนทวีป The Old World ใน Warhammer World
อาณาจักรที่เกี่ยวข้องในเหตุการณ์มหาสงครามประจัน Chaos
The Old World เป็นพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ที่ใหญ่ที่สุดในซีกโลกตะวันออกของ Warhammer World ประกอบไปด้วยรัฐของเผ่ามนุษย์ อย่างเช่น The Empire (หรือ Empire of Man) โดยตอนเหนือของรัฐ เป็นที่ตั้งของ Kislev อาณาจักรที่ถูกเหล่า Chaos รุกรานในเหตุการณ์ข้างต้น โดยฝีมือของเผ่า Chaos จากทวีป The Chaos Wastes
ซึ่ง The Chaos Wastes ตั้งอยู่ในทั้งบริเวณขั้วโลกเหนือและขั้วโลกใต้ของ Warhammer World โดยตรงใจกลางของโลกขั้วโลกเหนือและขั้วโลกใต้ (Northern Wastes และ Southern Wastes ตามลำดับ) จะมีประตูมิติยักษ์ที่เชื่อมไปสู่อาณาจักรของ Chaos (Realm of Chaos) เป็นสถานที่อันความฝันและฝันร้ายต่าง ๆ นานา กลายเป็นความจริง ไร้ซึ่งเหตุและผล ทุกสิ่งล้วนเป็นไปได้ ณ ที่แห่งนี้ เป็นมิติที่เป็นดั่งบ้านของเหล่า Chaos
ในมหาสงครามครั้งนี้จะมีความเกี่ยวข้องกับ The Chaos Wastes ทางฝั่งขั้วโลกเหนือ (Northern Wastes) ส่วนฝั่งขั้วโลกใต้ (Southern Wastes) ไม่ค่อยเป็นที่กล่าวถึงใน Warhammer Fantasy สักเท่าไร เนื่องจากดินแดนดังกล่าวไม่มีเผ่าอื่นอยู่อาศัย และไม่มีทางเชื่อมต่อกับดินแดนอื่น ไม่มีเหตุผลใด ๆ สำหรับการรุกราน
จากแผนที่ข้างต้นที่เขียนว่า ‘HIC SUNT DEMONES‘ หมายถึง here be deamons หรือหมายความว่า ไม่มีอะไรเลยนอกจากความตายและเหล่าปีศาจ Chaos
มหาสงครามประจัน Chaos
มหาสงครามประจัน Chaos (The Great War against Chaos) เป็นเหตุการณ์ที่เกิดในช่วงปี 2301-2304 IC ซึ่งเป็นการรุกรานของกองทัพ Chaos จาก The Chaos Wastes มุ่งหน้าสู่ The Old World ภายใต้การบัญชาของ Asavar Kul
มหาสงครามเริ่มจากการที่กองทัพฝูง Chaos มุ่งตรงลงสู่ทิศใต้ โจมตีเมือง Praag ที่เป็นเมืองในตอนเหนือของกรุง Kislev เผ่า Orc ถูกบีบบังคับให้มุ่งลงใต้สู่ The Empire และ Worlds Edge Mountains (แนวสันภูเขาระนาบยาวจาก Chaos Wastes สู่ The Southlands ซึ่งเป็นพื้นที่การปกครองของเหล่าคนแคระ) บ้างก็เข้าร่วมกับฝั่ง Chaos บ้างก็ต่อสู้กับกองทัพ Chaos ที่เดินทางผ่าน ในเวลาเดียวกันก็เกิดการรุกรานของ Dark Elves ด้วยความร่วมมือจากเหล่า Chaos เพื่อเข้าโจมตีอาณาจักร Ulthuan ที่เป็นปิตุภูมิของ High Elves
ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าวเป็นช่วงที่เกิดความวุ่นวายใน The Empire เกิดความแตกแยกจากสงครามกลางเมือง ไร้เสถียรภาพจากการไม่มีจักรพรรดิ ทาง The Tzar หรือผู้นำของกรุง Kislev ขอความช่วยเหลือไปยังบรรดา Elector Count ของ The Empire (คล้ายกับเจ้านครรัฐผู้คัดเลือกของจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์) ซึ่งโดนปฏิเสธความช่วยเหลือ แต่ปรากฏว่ามีขุนนางจากนครรัฐทางใต้อย่าง Nuln นามว่า Magnus ทำการรวบรวมกองทัพเพื่อเข้าต่อต้าน Chaos ด้วยตนเอง จากความช่วยเหลือของหลากหลายเผ่าพันธุ์ ทั้งมนุษย์, คนแคระ และ High Elves (จากความช่วยเหลือของ Teclis – High Loremaster แห่ง Hoeth)
ในท้ายที่สุดด้วยความร่วมมือของทั้งสามฝ่าย Magnus ก็เอาชนะเหล่า Chaos และปราบ Asavar Ku ได้ที่ยุทธการปากประตูเมือง Kislev (Battle at the Gates of Kislev) หลังจากนั้น Magnus ที่แสดงความกล้าหาญและความสามารถในการรวมใจให้เป็นหนึ่งจากหลายเผ่าพันธุ์ เขาได้รับเลือกให้เป็นจักรพรรดิ โดยเปลี่ยนชื่อเป็น Magnus the Pious ภายใต้การครองราชย์ประมาณหกสิบกว่าปี ได้รับการยกย่องว่าเป็นจักรพรรดิที่เยี่ยมที่สุดนับตั้งแต่ Sigmar เลยทีเดียว
สามสิ่งที่ทำให้จักรวรรดิเกรียงไกร ศรัทธา, เหล็กกล้า และห่าดินปืน
– จักรพรรดิ Magnus ผู้เปี่ยมศรัทธา