เป็นอีกหนึ่งความประหลาดใจกับเกม Star Wars Jedi: Fallen Order ที่ทางผู้พัฒนาอย่าง Respawn Entertainment เลือกใช้เอนจิน Unreal Engine 4 แทนที่จะเป็น Frostbite ซึ่งเป็นเอนจินสามัญประจำ EA จากนโยบายที่ให้ทุกทีมในสังกัดใช้เอนจินดังกล่าวแทนที่จะใช้เอนจินนอก แล้วเหตุใดพวกเขาจึงเลือกใช้ Unreal Engine 4?
คุณ Stig Asmussen ผู้กำกับ และคุณ Vince Zampella ในฐานะ CEO ของ Respawn Entertainment เปิดเผยว่า “Frostbite ไม่ใช่แม้แต่ตัวเลือก” เมื่อต้องเลือกว่าจะใช้เอนจินอะไรใน Fallen Order
โดยในบทสัมภาษณ์จาก Game Informer คุณ Stig Asmussen อธิบายเพิ่มเติมถึงสาเหตุที่เขาเลือกใช้ Unreal Engine 4 ในโครงการนี้ “เมื่อเราตั้งทีม ก่อนที่จะได้ทำเกม Star War ผมเป็นเพียงคนเดียวในทีม และพวกเรารู้ว่าต้องจ้างคนมาเพิ่มอีกหลายคนแน่ ๆ เราต้องเริ่มสร้างทีมกันใหม่หมด ผมหาข้อมูลของ Unreal ไปเล็กน้อย มีตัวเลือกอื่น ๆ อีก แต่ผมจำได้ว่า ตอนนั้นเราไม่ได้เป็น EA ฉะนั้น Frostbite จึงไม่ใช่แม้แต่ตัวเลือก ผมเริ่มทำการทดลองกับมัน [Unreal Engine 4] แล้วผมคิดว่า ‘ว้าว มันมีทรงพลังมากเลยนะ กับสิ่งที่นักพัฒนาคนเดียวจะทำได้ แล้วลองนึกภาพสิ่งที่ทั้งทีมสามารถทำได้สิ’” เขากล่าวก่อนที่จะกำชับว่า
‘ทีมมีความสุขกับการตัดสินใจดังกล่าว’
คุณ Stig Asmussen ได้กล่าวอีกว่า “ไม่มีคำสั่งที่จะให้เราใช้ Frostbite หรือให้เปลี่ยนแปลงแนวทางของเรา ที่เราทำเป็นปกติใน Respawn” (อย่าลืมว่าเกมของ Respawn ไม่เคยใช้ Frostbite เช่นกัน)
ส่วนทางคุณ Vince Zampella ก็กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า “Frostbite เป็นเอนจินที่ EA ใช้กันภายใน ซึ่งตอนนั้นเราเป็นทีมนอก จึงไม่สามารถใช้ได้ แต่ตอนนี้เราเป็นส่วนหนึ่งของ EA มัน [Frostbite] สามารถใช้งานได้แล้ว แต่เราคงเลือกสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเกม เพราะในที่สุดแล้ว เรากำลังสร้างบางสิ่งที่ต้องมีความสนุกในการเล่น มันจึงเป็นเทคโนโลยีที่เหมาะสมกับสิ่งที่คุณพยายามทำ”
