อย่างที่ทราบกันดีว่าทาง Blizzard Entertainment เคยพัฒนาเกมแนว MMO ที่มีชื่อโครงการว่า Titan ในปี 2007 ก่อนจะยกเลิกในปี 2014 เนื่องจากปัญหาในการพัฒนา และกลายมาเป็นเกม Overwatch ในเวลาต่อมา
โดย Titan ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในโครงการที่ยิ่งใหญ่และทะเยอทะยานที่สุดของ Blizzard Entertainment เกมที่คาดหมายว่าจะเป็น MMO ในรูปแบบใหม่ เปลี่ยนแปลงมุมมองของเกมแนวนี้อย่างที่ World of Warcraft ได้ทำมาก่อนหน้า แต่ด้วยความยิ่งใหญ่และทะเยอทะยานกลับส่งผลอย่างร้ายแรงต่อตัวมันเอง
คุณ Mike Morhaime หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งและอดีตประธานกรรมการของ Blizzard ได้พูดถึงเรื่องราวของ Titan ที่งานสัมมนา Gamelab ปี 2019 จัดในเมือง Barcelona “เราพลาดในการกำหนดขอบเขต [ของเกม]” คุณ Morhaime กล่าว “มันเป็นจักรวาลใหม่ และกำลังจะกลายเป็น MMO ยุคหน้า ซึ่งค่อนข้างจะเป็นสิ่งที่แตกต่างออกไป มันมีหลายโหมดที่แตกต่างกัน เราเหมือนสร้างสองเกมควบคู่กันไป และมันยากลำบากมากที่จะนำมายึดโยงเข้าด้วยกัน”
คุณ Morhaime และผู้นำของทีมอื่นต้องตัดสินใจยกเลิกเกมนี้ อย่างที่คุณ Jeff Kaplan ผู้กำกับเกม Overwatch เคยกล่าวไว้ก่อนเกม Overwatch จำหน่าย “คุณมีทีมที่เจ๋งมาก ๆ ที่กำลังทำเกม Titan พวกเขาแต่ละคนเปี่ยมไปด้วยความสามารถ แต่พวกเราล้มเหลวอย่างหนัก (horrifically) ในทุกทาง ทุกหนทางที่โครงการมันจะล้มเหลวได้ มันก่อให้เกิดหายนะ”
แต่สุดท้าย เกม Overwatch ก็เกิดขึ้นจากเศษซากของ Titan “เราคิดว่าเราอาจสร้างเกมที่น่าสนใจในขอบเขตที่จำกัดมากขึ้น” คุณ Morhaime กล่าว “และคิดว่านี้อาจเป็นหนึ่งในการตัดสินใจที่ดีที่สุดที่เรามี เราทำให้เกมที่ไม่น่าจะได้วางจำหน่ายไปอีกนาน และอาจไม่มีวันที่จะได้จำหน่าย กลายเป็นเกมที่เจ๋งได้”
แต่ก็คิดกันว่าแล้วถ้า Titan ได้ออกสู่สายตาสาธารณะจริง ๆ มันจะเป็นอย่างไร แต่คุณ Morhaime กล่าวว่า ปรัชญาของ Blizzard คือการจำหน่ายแค่เกมที่ ‘ยอดเยี่ยม’ เท่านั้น ข้อความดังกล่าวทางองค์กรได้จากความสำเร็จของ Diablo หลังจากมีการเลื่อนวันวางจำหน่ายหลายครั้งในปี 1996 “บทเรียนที่เราได้มา [จากกรณี Diablo] คือ สิ่งสำคัญมากกว่าคือเกมจะออกมายอดเยี่ยม สิ่งที่สำคัญน้อยกว่าคือการจำหน่ายตรงตามวันที่กำหนด”