การลอบเร้นที่เปลี่ยนไปจะเป็นกลไกหลักใน Shadow of the Tomb Raider

ถ้าดูจากตัวอย่างหลายๆ ตัวของ Shadow of the Tomb Raider ก็ดูเหมือนกับว่าระบบต่างๆ ของมันดูจะไม่ได้มีการพัฒนาอะไรเพิ่มเติมจากเกมในภาคที่แล้วมากนัก สำหรับการเป็นภาคต่อที่จะปิดฉากไตรภาค “Survivor ไทม์ไลน์” ของ Lara Croft แต่แท้จริงแล้วมันอาจจะมีหลายสิ่งหลายอย่างที่เปลี่ยนแปลงไปโดยที่เราไม่ทันสังเกตก็เป็นได้ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือระบบการลอบเร้น (Stealth) ของ Shadow of the Tomb Raider ที่จะมีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม จนอาจจะเรียกได้ว่ามันแทบจะเป็นเกมคนละเกม


ข้อมูลเบื้องต้นของ Shadow of the Tomb Raider

  • ผู้พัฒนา: Eidos Montreal
  • ผู้ผลิต: Square Enix
  • ผู้ออกแบบเกม: Heath Smith
  • ผู้เขียนบทเกม: Jason Dozois และ Jill Murray
  • เครื่องเกมที่วางจำหน่าย: PC, Xbox One, PlayStation 4
  • วันวางจำหน่าย: 14 กันยายน 2018
  • แนวเกม: Action-Adventure

Shadow of Tomb Raider จะเป็นภาคสุดท้ายของไตรภาค Suvivor ที่มันจะดำเนินเรื่องราวบนพื้นที่แห่งใหม่ที่เรายังไม่เคยได้ไปเหยียบย่างมาก่อน กับอารยธรรมของ “ชาวมายัน” และ “ชาวอินคา” ลึกลงไปในผืนป่าดงดิบของทวีปอเมริกาใต้ ที่จะเป็นส่วนสำคัญของเรื่องราวของ Lara Croft และมันก็ยังเป็นสถานที่ที่ทำให้ทางทีมพัฒนา สามารถใส่องค์ประกอบหลายๆ อย่างลงเพื่อให้ Lara Croft กลายเป็นนักล่า (Predator) อย่างเต็มตัวได้อีกด้วย

Shadow of the Tomb Raider Combat Concept

คุณ Heath Smith หัวหน้าทีมออกแบบของ Shadow of the Tomb Raider ได้เคยให้สัมภาษณ์เอาไว้ว่า หนึ่งในเหตุผลหลักที่ทำให้พวกเขาตัดสินใจเลือกป่าดงดิบมาเป็นฉากหลังในภาคนี้ ก็เพราะว่ามันจะเป็นสถานที่ที่ทำให้พวกเขาสามารถเติมเต็มทักษะของ Lara ได้อย่างสมบูรณ์

“มันคือเกมลำดับที่สามของไตรภาคนี้ ที่จะเป็นบทสรุปทั้งหมดของเรื่องราวต้นกำเนิดของเธอ และนั่นก็ทำให้เราอยากที่จะโยนเธอลงไปในสถานที่ที่ซึ่งเธอจะได้เรียนรู้ความสามารถใหม่ๆ ได้ผ่านกลไกต่างๆ ของสภาพแวดล้อมที่อยู่ในอเมริกาใต้ที่เต็มไปด้วยถ้ำที่ลึกลับและซับซ้อนและพื้นที่ใต้บาดาลที่ยังรอการสำรวจ”

และนอกจากมันจะทำให้ Lara ได้เรียนรู้กลไกใหม่ๆ แล้ว ส่วนสำคัญของป่าดงดิบนั้นก็จะทำให้ขีดความสามารถในการต่อสู้ของ Lara เพิ่มมากขึ้นยิ่งกว่าเกมในภาคก่อนๆ และมันก็จะทำให้เธอกลายเป็นนักล่าโดยสมบูรณ์

“Lara จะตระหนักได้ว่ากำลังของเธอไม่สามารถต่อกรกับเหล่าศัตรูได้ และอาวุธของเธอก็ดูเหมือนกับว่าจะร่อยหรอลงเรื่อยๆ นั่นทำให้เธอต้องกลายเป็นนักล่าที่ต้องใช้ผืนป่าเพื่อเอาตัวรอดโดยการใช้สภาพแวดล้อมต่างๆ รอบตัว ไม่ว่าจะเป็นการดำลงไปในโคลนหรือซุ่มอยู่ตามพุ่มไม้เพื่อพรางตัว และนั่นก็เป็นเพียงตัวอย่างเท่านั้น

“ป่าดงดิบที่หนาแน่นไปด้วยธรรมชาติจะทำให้ Lara กลมกลืนและหายตัวไปกับสภาพแวดล้อมได้อย่างสมบูรณ์ เธอได้นำมันไปสู่การโจมตีด้วย “ยุทธวิธีแบบกองโจร” กับการจู่โจมและหายตัวไป ที่นอกจากนี้ Lara ยังได้รับความรู้เกี่ยวกับพืชพันธุ์ต่างๆ ในผืนป่า “แอมะซอน” ที่ทำให้เธอสามารถใช้มันเป็นสมุนไพร เพื่อที่จะทำให้เธอมีความสามารถในการตั้งสมาธิและชะลอเวลาในระหว่างที่เล็งประทับศูนย์ได้อีกด้วย”

Shadow of the Tomb Raider Jungle

และสิ่งเหล่านั้นก็ไม่ได้ทำให้ Lara กลายเป็น “ผู้ถูกล่า” เหมือนที่แล้วมาอีกต่อไป เพราะใน Shadow of the Tomb Raider นั้น บทบาทของเธอก็คือการตามล่าและล้างแค้น ด้วยทักษะทุกอย่างที่เธอได้เรียนรู้มา

“นับตั้งแต่ Tomb Raider 2013 เป็นต้นมา Lara ก็จะเป็นฝ่ายกระทำมากมากกว่าเป็นผู้ถูกกระทำมากขึ้นเรื่อยๆ จากบทบาทของการเป็นผู้รอดชีวิต (Survivor) ในญี่ปุ่นที่เป็นจุดเริ่มต้นของการรีบูต มาสู่บทบาทของการเป็นนักสำรวจ (Explorer) ใน Rise of the Tomb Raider ก็ทำให้ Lara ตระหนักได้ถึงทักษะต่างๆ ที่เธอมีอย่างเต็มเปี่ยมแล้วใน Shadow of the Tomb Raider” Jason Dozois ผู้อำนวยการด้านการเล่าเรื่องได้อธิบายเพิ่มเติมให้เราได้ฟังในส่วนนี้

“แต่นั่นก็ได้นำเธอไปสู่ปัญหาใหม่ เธอมีเจตจำนงและความหมกมุ่นในการพยายามทำความเข้าใจและพยายามที่จะแก้ไขในสิ่งที่องค์กร Trinity ได้ทำลงไปกับพ่อของเธอ ซึ่งในเกมนั้น เธอก็ได้พบกับเหตุการณ์ที่นำพาให้เธอได้กลายเป็นหนึ่งเดียวกับผืนป่า ด้วยการใช้กลยุทธ์เข้าโจมตีและถอยหนี พร้อมด้วยกลไกของการลอบเร้นที่ได้ถูกปรับปรุงมากขึ้น ที่จะทำให้เธอสามารถใช้ข้อได้เปรียบของสภาพแวดล้อมได้อย่างเต็มที่ ในการเอาตัวรอดจากเหตุการณ์เสี่ยงตายที่เธอจะต้องพบเผชิญ”

และจากในงาน Playstation Experience 2018 SEA ที่ผ่านมา พวกเรา Gamerism.co ก็ได้ไปสัมผัสตัวเกม Shadow of the Tomb Raider ก่อนที่มันจะได้ออกวางจำหน่ายแล้ว ซึ่งก็ต้องบอกว่าสิ่งที่คุณ Heath Smith และคุณ Jason Dozois นั้นไม่ได้เป็นเรื่องที่พวกเขาพูดเกินเลยนัก เพราะ Shadow of the Tomb Raider จากประสบการณ์ที่พวกเราได้สัมผัสมา ก็ดูเหมือนกับว่ามันเป็นภาคที่มีความท้าทายมากที่สุดเท่าที่เคยมีมา และมันก็จะต้องใช้ทุกความสามารถของ Lara ในการเอาชีวิตให้รอดผ่านการผจญภัยบทสุดท้ายของเธอในไตรภาคนี้อย่างแน่นอน


เกร็ดเล็กที่ไม่น้อย: 

  • Eidos Montreal ผู้รับช่วงต่อจากทีมพัฒนา Crystal Dynamic ผู้พัฒนาเกม Tomb Raider คือู้สร้างเกม Deus Ex: Human Revolution และ Deus Ex: Mankind Divided
  • เกม Deus Ex: Human Revolution คือเกมที่ใช้เทคโนโลยีเดียวกันกับ Tomb Raider (2013) 
  • Tomb Raider ภาคต้นฉบับเมื่อปี 1996 เป็นเกมแรกๆที่มีการใช้โมเดล 3 มิติเต็มรูปแบบ ซึ่งเป็นผลงานการพัฒนากว่า 3 ปีของทีมงาน Core Design ที่มีพนักงานเพียงแค่ 6 คนเท่านั้น

แหล่งข้อมูลอ้างอิง: 

Share this article
0
Share
0 Share
0 Tweet
0 Share
0 Share
Shareable URL
Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

0
Share