Sekiro: Shadow Die Twice เกมชื่อแปลกเกมนี้ เป็นผลงานการสร้างของทีมงาน FromSoftware ภายใต้การควบคุมงานสร้างโดยคุณ Hidetaka Miyazaki ผู้ให้กำเนิดเกมในซีรีส์ “Dark Souls” และ “Bloodborne” ที่คอเกมหลายคนน่าจะรู้จักกันเป็นอย่างดี โดยเฉพาะ “Dark Souls” ที่อาจจะเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในปรากฏการณ์ของวงการเกมก็ว่าได้ กับการนำเสนอความยากและท้าทายให้กับผู้เล่นได้อย่างลงตัวท่ามกลางกระแสของเกมที่มักจะจับผู้เล่นจูงมือที่มีอยู่เกลื่อนตลาด
Souls-like กับจุดเปลี่ยนของ FromSoftware
ด้วยส่วนผสมของเกมการเล่นในยุคสมัยใหม่ และกลไกของเกมโบราณที่ลงโทษกับความผิดพลาดที่เกิดขึ้นโดยผู้เล่นในทุกฝีก้าว ก็ทำให้มันได้กลายเป็นหนึ่งใน “วัฒนธรรมย่อย” ของวงการเกมไปแล้วในฐานะแนวเกมใหม่ ที่หลายคนขนานนามให้กับมันว่าเป็ฺนเกมแนว “Souls-like” ที่ซึ่งได้กลายเป็นแบบอย่างให้กับเกมอีกหลายๆ เกมที่ออกวางจำหน่ายตามหลังมันมาในช่วงเวลาหลายปีจวบจนปัจจุบัน
แต่เมื่อกาลเวลาผ่านไปหลายสิ่งหลายอย่างก็เหมือนจะเข้าสู่สภาวะที่เรียกได้ว่าเป็น “ความอิ่ม ตัว” ไม่ว่าจะเป็นจากทั้งผู้สร้างและผู้เล่นเองก็ตาม ซึ่งทีมงาน FromSoftware ได้เคยพยายามที่จะนำเสนอเกมการเล่น Soul-like รูปแบบใหม่มาแล้วกับ “Bloodborne” ที่เป็นการดัดแปลงเกมการเล่นที่พวกเขาถนัดให้มีความคล่องตัว และความท้าทายที่มากขึ้น แต่นั่นก็อาจจะยังไม่ทำให้พวกเขาสามารถหลุดพ้นจากความเป็น Souls-like กับภาพเดิมๆที่คุ้นตาพวกเราได้อยู่ดี
แต่สุดท้ายแล้วงานเลี้ยงก็ต้องมีวันเลิกราเมื่อเกม Dark Souls ได้ปิดไตรภาคลงอย่างสมบูรณ์ในภาคที่ 3 คำถามก็คือเกมต่อไปของ FromSoftware จะเป็นเกมอะไรกันล่ะ? พวกเขามีทั้งแฟรนไชส์อย่าง Armored Core, Bloodborne หรือแม้แต่ Tenchu อยู่ในมือซึ่งเป็นเกมที่ล้วนแล้วเป็นไตเติลที่อยู่ในระดับที่ขายได้ทั้งนั้น แต่ถึงกระนั้นพวกเขาก็ยังพยายามที่จะเริ่มต้นกับสิ่งใหม่ๆ อีกครั้งกับเกมๆ นี้ ที่ชื่อว่า Sekiro: Shadows Die Twice เกมชื่อแปลกที่หลังจากที่เราได้ชมเกมเพลย์ของมันอย่างเต็มๆ ในงาน Playstation Experience SEA 2018 ที่เพิ่งจะได้ผ่านพ้นไปนั้น ก็อาจจะอนุมานได้ว่า Sekiro: Shadows Die Twice นั้นอาจจะเป็นผลลัพธ์ที่เกิดจากการตกผลึกจากช่วงเวลาที่ยาวนานของในแวดวงอุตสาหกรรมเกมในตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมาของ FromSoftware ก็ว่าได้
แล้ว Sekiro: Shadows Die Twice มันต่างจากเกม Souls-like ตรงไหน?
ในเกมเพลย์ที่เราได้ชมนั้นเป็นเกมเพลย์ยาว 12 นาทีที่ไม่มีมีแม้แต่คัตซีนมาอธิบายเราเลยว่ามันมีเรื่องราวเกี่ยวกับอะไร นอกไปจากเกมเพลย์ล้วนๆ ที่ทางทีมงานนำมาแสดง ซึ่งในฉากที่เราเห็นนั้น มันก็เป็นฉากที่ตัวเอกของเรื่องจะต้องลอบเข้าไปยังสถานที่แห่งหนึ่งที่เต็มไปด้วยศัตรูที่เฝ้าระวังกันเต็มที่
ข้อมูลเบื้องต้นของ Sekiro: Shadows Die Twice
- ผู้พัฒนา: FromSoftware
- ผู้ผลิต: Activision
- ผู้กำกับ: Hidetaka Miyazaki
- เครื่องเกมที่วางจำหน่าย: PC, Xbox One, PlayStation 4
- วันวางจำหน่าย: 22 มีนาคม 2019
- แนวเกม: Action-Adventure
สิ่งแรกที่เราสังเกตได้เลยคือภาพกราฟิกของตัวเกมนั้น เรียกได้ว่าไม่มีความแตกต่างไปจากเกม Dark Souls 3 มากนัก แต่ดูเหมือนกับว่ามันจะได้รับการปรับปรุงเรื่องของสภาพอากาศเล็กน้อย โดยในฉากที่เราได้ชมนั้นมันก็เป็นฉากที่ฐานทัพที่เหมือนกับปราสาทญี่ปุ่นในยุคโบราญที่เต็มไปด้วยหิมะ ก่อนที่มันจะตัดฉากมาเป็นอีกฉากหนึ่งที่เป็นฉากต่อสู้กับศัตรูอันแสนดุเดือดบนสะพาน ที่มีใบไม้สีแดงปลิวสไวไปทั่ว ซึ่งการแสดงผลในด้านพืชพันธุ์ต่างๆ นั้น ก็ดูเหมืนกับว่ามันจะได้รับการใส่ใจมากขึ้นกว่าที่แล้วมา เพราะใน Sekiro: Shadows Die Twice นั้นกลไกของการลอบเร้นในพงหญ้าก็ดูจะมีความสำคัญมากทีเดียว
การลอบเร้นจะเป็นส่วนสำคัญของเกมการเล่นใน Sekiro Shadows Die Twice
เมื่อพูดถึงกลไกของการลอบเร้นแล้ว ก็อย่างที่ได้บอกไปว่ามันเป็นส่วนที่สร้างความแตกต่างให้กับ Sekiro: Shadows Die Twice จากเกมก่อนหน้าของ FromSoftware เป็นอย่างมาก เนื่องจากตัวเอกใน Sekiro: Shadows Die Twice นั้นเป็นนินจาเหมือนกับเกม Tenchu อันเป็นผลงานในช่วงแรกของ FromSoftware ก็ทำให้ความสามารถเกี่ยวกับนินจานั้น จำเป็นที่จะต้องมีบทบาทเป็นอย่างมากใน Sekiro: Shadows Die Twice ไม่ว่าจะเป็น “Grappling Hook” ที่เป็นปืนยิงตะขอที่ทำให้การเคลื่อนที่ไปมาระหว่างสถานที่เป็นไปอย่างรวดเร็วมากขึ้น มันสามารถทำให้เราเดินทางจากที่ต่ำไปยังที่สูง จากกำแพงหนึ่งไปยังต้นไม่อีกต้นหนึ่งได้อย่างง่ายดาย ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่เคยมีมาก่อนในเกม Souls เกมอื่นๆ
และด้วยความสามารถของ Grappling Hook นั้น เกมก็มาพร้อมกับแผนที่ที่มีความเป็นพื้นที่เปิดมากขึ้น ซึ่งอย่างที่เราได้กล่าวไว้ข้างต้น ฉากที่เราชมนั้นมันเป็นฉากฐานทัพที่เหมือนจะเป็นปราสาทแห่งหนึ่ง โดยเราสามารถที่สังเกตพฤติกรรมของศัตรูได้แทบจะทั้งหมดในฉากผ่านการลอบเร้นด้วย Grappling Hook ไปยังส่วนต่างๆ ก่อนที่จะตัดสินใจทำการโจมตี หรือแม้แต่จะลอบสังหารเหล่าศัตรูที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ให้ตายด้วย “ดาบเดียว” เลยก็ยังได้ เพราะเกมก็มีระบบการลอบสังหารในดาบเดียวเหมือนกับเกมแนวลอบเร้นเกมอื่นๆ ซึ่งทำให้การสังหารศัตรูจากเชิงชายก็เป็นไปได้อย่างง่ายดายเหมือนกับเกมอย่าง Assassin’s Creed ไม่มีผิดเพี้ยน รวมไปถึงการลอบสังหารจากที่กำบังก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน
แต่ถึงกระนั้นแล้วเราก็ยังไม่แน่ใจนักว่า เราจะสามารถใช้การลอบสังหารทั้งเกมได้หรือไม่ เพราะหลังจากที่เกมโชว์ระบบการลอบสังหารได้ไม่นานมันก็พาเรากระโจนไปเข้าฟาดฟันกับศัตรูตัวหนึ่งที่เหมือนจะเป็น “มินิบอส” ของเกม ซึ่งเมื่อเราเข้ากระโจนใส่เหล่าศัตรูทั่วทั้งฉากก็พร้อมจะโจมตีเราทันที จากเสียงระฆังที่ดังไม่หยุดเพราะมันเป็นสัญญาณเตือนว่าผู้เล่นได้ถูกตรวจพบแล้ว
ระบบการต่อสู้ที่ดุเดือดและรวดเร็วยิ่งกว่า
หลังจากที่มันพาเรากระโจนเข้าใส่ศัตรู เกมก็พาเรามาชมกับระบบการต่อสู้ของมันเต็มๆ ที่ดูจะมีความรวดเร็วที่มากขึ้นกว่าเกมก่อนหน้าเป็นอย่างมาก แม้รากฐานของมันจะอยู่บนพื้นฐานของเกมในตระกูล Souls แต่สิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดคือการให้ความสำคัญกับการโจมตีแต่ละครั้งที่ต้องผ่านการพินิจพิเคราะห์ที่มากกว่าเดิม เหมือนการดวลดาบของซามูไร ซึ่งมันไม่เหมือนกับเกมอย่าง Dark Souls ที่ศัตรูมักจะไม่กันหรือปัดป้องการโจมตีของเรามากนัก และก็ไม่เหมือนกับเกมอย่าง Bloodborne ที่ผู้เล่นไม่สามารถปัดป้องการโจมตีได้
Sekiro: Shadows Die Twice ได้นำเสนอสูตรการเล่นใหม่ที่ผู้เล่นยังคงยกดาบขึ้นป้องกันการโจมตีได้ แต่ศัตรูต่างๆ ก็พร้อมจะปัดป้องการโจมตีในตลอดเวลาได้เช่นกัน และนั่นก็นำไปสู่กลไกของการสวนกลับที่น่าจะเป็นส่วนที่มีบทบาทมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม โดยมันจะแสดงขึ้นบนหน้าจอเป็นตัวอักษรสีแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่ามันเป็นการโจมตีแบบรุนแรงของศัตรู ที่ผู้เล่นสามารถกดป้องกันเพื่อทำการสวนกับการโจมตีให้ศัตรูชะงักได้
และ Sekiro: Shadows Die Twice ก็มาพร้อมกับมิติที่มากกว่า
และนอกจากนี้การโจมตีเพียงไม่กี่ครั้งก็สามารถปลิดชีพเหล่าศัตรูได้แล้ว และมันก็มีลูกเล่นใหม่ที่เพิ่มเติมเข้ามาคือในส่วนของ “Finishing Move” หรือท่าจบคอมโบแบบเท่ๆ ที่ แอนิเมชันของตัวละครจะเปลี่ยนไปเมื่อผู้เล่นอยู่ในจังหวะที่สังหารศัตรูได้อีกด้วย นอกจากนี้ผู้เล่นก็สามารถเข้าโจมตีและฉากหนีออกมาจากรัศมีของการโจมตีเหมือนกับ Bloodborne ได้เช่นกัน แต่มันจะมีวงรัศมีของการฉากหลบที่กว้างขึ้นและรวดเร็วกว่าเดิมเป็นอย่างมาก และยังมีการเพิ่มมิติในการกระโดดเข้ามาอีกด้วย
โดยลูกเล่นหนึ่งที่ทำออกมาได้เท่มากๆ ก็คือผู้เล่นสามารถใช้ Grappling Hook ยิงเข้าใส่โล่ของศัตรูได้เป็นการเข้าชาร์จใส่ ก่อนที่ตัวละครของผู้เล่นจะใช้โล่ของมันเป็นแท่นในการลังกาหลังและพร้อมโจมตีต่อไปในทันที
Disclaimer:
เราไม่แน่ใจว่า “พลังชีพ” (HP) หรือ “ค่าความเหน็ดเหนื่อย” (Stamina) ที่แท้จริงของผู้เล่นจะสามารถทนทานต่อการโจมตีและสามารถโจมตีอย่างต่อเนื่องได้มากขนาดไหน เพราะดูเหมือนว่าเกมเพลย์ที่ทีมงานนำมาแสดงนั้นจะผ่านการปรับแต่งมาเพื่อให้สามารถนำมาโชว์ฟีเจอร์ต่างๆ ของตัวเกมได้โดยไม่ขวยเขินและไม่ทำให้เกิดความสะดุดระหว่างการรับชมโดยเฉพาะ
และมันก็แสดงให้เราได้เห็นว่า Shadows Die Twice หมายถึงอะไร
และชื่อ Shadows Die Twice นั้นก็ไม่ใช่ชื่อที่ถูกตั้งขึ้นมาเก๋ๆ แต่มันคือหนึ่งในกลไกของหลักของตัวเกมที่ทำให้ผู้เล่นสามารถฟื้นคืนชีพได้เมื่อตายไปครั้งหนึ่ง โดยในตัวอย่างที่เราได้ชมนั้น มันก็ได้จงใจตายโชว์ให้เราได้ดู ที่ปรากฏเป็นหน้าจอ You Died ที่แฟนๆ เกมน่าจะคุ้นเคย แต่แทนที่เราจะกลับไปยังจุดเซฟหรือ Bonfire หน้าจอของเกมก็สว่างวาบขึ้นมาอีกครั้งพร้อมด้วย ตัวละครของผู้เล่นที่ลุกขึ้นมาต่อสู้ได้ต่อด้วยพลังที่เหมือนจะมากขึ้นกว่าเดิม และยังมาพร้อมกับพลังบางอย่างที่ทำให้ดาบมีเปลวไฟเคลือบอยู่ตลอดเวลาอีกด้วย ซึ่งแน่นอนว่ามันก็ทำให้การจัดการศัตรูที่พลังรวยรินนั้นก็เป็นเรื่องที่ดูจะไม่ยากอีกต่อไป
“แขนกล” คนนินจา
และลูกเล่นของ Sekiro: Shadows Die Twice ก็ยังไม่หมดลงแค่นั้น เพราะตัวเอกของเกมก็ยังมาพร้อมกับแขนกลอีกข้างของเขาด้วยที่สามารถสลับสับเปลี่ยนเป็นอาวุธต่างๆ ได้หลายโหมด ซึ่งทำให้การโจมตี การคอมโบต่างๆ มีความหลากหลายมากขึ้นกว่าเกมก่อนของทีมงาน FromSoftware เป็นอย่างมาก ซึ่งเราก็ยังไม่รู้ว่าในเกมนั้นแขนกลจะสามารถสลับไปได้กี่รูปแบบ ซึ่งเท่าที่เราได้เห็นนั้นมันก็ทำหน้าที่เป็นทั้งดาบใหญ่สำหรับการโจมตีหนักและยังเป็นโล่ที่สามารถป้องกันการโจมตีได้อีกด้วย
และหลังจากที่ผ่านฉากแรกไปแล้ว เราก็ได้พบกับฉากใหม่ที่เป็นการโชว์การลอบเร้นของเกม ซึ่งถ้าใครที่ได้ชมตัวอย่างของ Sekiro: Shadows Die Twice ที่ได้มีการแสดงให้ชมในงาน E3 2018 ไปก็คงจะได้เห็นว่าในตอนท้าย มันจะมีงูยักษ์ตัวใหญ่ออกมา ซึ่งในเกมเพลย์ที่เราได้ชมในงาน Playstation Experience SEA 2018 นั้นก็เหมือนว่ามันจะเป็นฉากที่ต่อจากเกมเพลย์นั้นเพราะมันเป็นฉากที่ผู้เล่นจะต้องลอบเร้นเพื่อหลบหนีไอ้เจ้างูยักษ์ตัวที่ว่านั่นเอง ซึ่งมันก็ทำออกมาได้อย่างอลังการเลยทีเดียว
และก็มาถึงสุดท้ายกับไฮไลต์ที่ทางทีมงานได้นำมาแสดงกับฉากการต่อสู้ตัวต่อตัวกับศัตรูที่น่าจะเป็นบอสตัวหนึ่งของเกม บนสะพานไม้ที่โปรยปรายไปใบไม้ที่กำลังผลัดใบ มันเป็นศัตรูที่ใช้ชื่อว่า “Corrupted Monk” ที่อยู่ในรูปของมนุษย์กึ่งภูตผีหรือ “โยไค” ที่มาพร้อมกับอาวุธง้าวขนาดยาวที่พร้อมจะเข้าฟาดฟันใส่ผู้เล่นได้ในทุกระยะ
แต่ถึงกระนั้นด้วยความสามารถต่างๆ ของตัวละครของผู้เล่นก็ดูจะทำให้มันไม่น่าจะเป็นอะไรที่ยากเย็นมากนักเพราะผู้เล่นสามารถกระโดดเข้าและออกจากช่วงของการโจมตีได้โดยง่ายและ Grappling Hook ก็เพิ่มมิติของการโจมตีเข้าไปอีก และมันก็ยังมีระบบการป้องกันและการสวนกลับ ที่ทำให้ไม่นานนักเจ้าศัตรูตัวนั้นก็ถูกจัดการได้โดยง่ายดาย แต่ดูเหมือนว่า Shadows Die Twice นั้นอาจจะไม่ได้หมายถึงผู้เล่นเพียงอย่างเดียวเสียแล้ว เพราะเจ้าศัตรูตัวนั้น ก็ได้ฟื้นกลับมาในอีกร่างหนึ่งพร้อมกับหมอกที่ปกคลุมทัศนวิสัย ก่อนทีมันจะหายไปกลายเป็นเงาที่เข้าโจมตีเราจากทุกทิศทาง จนเราแทบจะไม่สามารถคาดเดาการโจมตีของมันได้เลย
และการเกมเพลย์ที่ทางทีมงานนำมาโชว์ก็จบลงแค่นั้น แต่เราก็คิดว่ามันน่าจะเพียงพอที่จะทำให้เหล่าแฟนๆ เกมได้เห็นภาพแล้วว่าเกม Sekiro: Shadows Die Twice นั้นจะมีรูปแบบการเล่นเป็นอย่างไร และมีความแตกต่างไปจากเกมก่อนหน้าของ FromSoftware มากขนาดไหน ซึ่งจากที่เราได้ชมกันไปแล้วนั้นก็ต้องบอกว่ามันเป็นย่างก้าวที่น่าสนใจมากทีเดียวทีเดียวสำหรับ FromSoftware กับความพยายามอีกครั้งของพวกเขาในการที่จะฉีกแนวทางการเล่นเดิมๆ ออกไป โดยที่ยังคงไว้ซึ่งจิตวิญญาณและปรัชญาในการทำเกมที่เขายึดถือตลอดช่วงเวลานับทศวรรษที่ผ่านมา
และ Sekiro: Shadows Die Twice ก็จะมีภาษาไทยอย่างเป็นทางการ
และที่น่าสนใจไปกว่านั้นก็คือ Sekiro: Shadows Die Twice นั้นเป็นเกมระดับ AAA อีกเกมที่ทาง Playstation Asia ประกาศออกมาอย่างเป็นทางการแล้ว ว่ามันจะได้รับการ ดัดแปลงให้เป็นภาษาไทยอย่างเป็นทางการ ซึ่งล่าสุดมันก็ได้มีการประกาศวันวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการแล้ว กับวันที่ 22 มีนาคม 2019 ที่จะวางจำหน่ายพร้อมกันทั้งบน Playstation 4, PC และ Xbox One พร้อมเปิดตัวชุด Collector’s Edition ที่น่าจับจองเป็นอย่างมากเลยทีเดียว
เกร็ดเล็กที่ไม่น้อย:
- ‘ชิโนบิ’ คือคำที่ใช้เรียกนินจากผู้ชาย (ผู้หญิงเรีกยว่า ‘คุโนะอิจิ’) โดย’ นินจา’ คือสรรพนามที่ใช้ร่วมกัน
- นินจากใช้ศาสตร์การต่อสู้ที่เรียกว่า ‘นินจุสึ’ (Ninjutsu)
- เกม Sekiro: Shadows Die Twice ได้ทาง Activision มาเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่าย
- Sekiro เป็นคำที่เกิดจากการรวมกันของตัวอักษรคันจิสองตัวที่แปลว่า ‘หมาป่า’ และ ‘ชายผู้สูญเสียแขน’
