เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมาสำหรับ Project Resistance ผลงานใหม่ของทาง Capcom เกมภาค Spin-off ของ Resident Evil 2 ที่จะมาพร้อมกับรูปแบบการเล่นในโหมดมัลติเพลเยอร์เป็นหลักแบบ 4 vs.1 ผิดจากความคาดหวังของแฟนๆ เป็นอย่างมาก แต่อย่างไรก็ดีตัวโปรเจกต์เกมนี้อาจจะไม่ได้มีการออกวางจำหน่ายก็เป็นได้
หลังจากเปิดตัวเกมเพลย์ของ Project Resistance ออกมาอย่างเป็นทางการด้วยรูปแบบของเกมแนวกึ่ง Co-op ที่ผู้เล่นทั้ง 4 นั้นจะต้องรับบทเป็นผู้รอดชีวิตและต้องร่วมมือกันในการเอาตัวรอดออกไปจากเมือง Raccoon ไปให้ได้ โดยจะมีผู้เล่นอีกฝ่ายที่รับบทเป็นจอมวายร้ายนักวางแผนที่จะทำหน้าที่ในการขัดขวางเหล่าผู้รอดชีวิตทั้ง 4 ด้วยการวางกับดักต่างๆ ,บงการเหล่าซอมบี้, สัตว์ประหลาดจากเชื้อไวรัส หรือด้วยวิธีการอื่นๆ ที่เกมมีในการปิดทางรอดของเหล่าผู้เล่นชีวิต ซึ่งมันก็ทำให้แฟนๆ ของเกม Resident Evil เรียกได้ว่าผิดหวังไปพอสมควรหลังจากที่ตั้งตารอคอยภาคต่อหรือเกมที่มีเนื้อเรื่องเล่นเดี่ยวออกมา จนล่าสุดนั้นก็ทำให้ยอดดิสไลค์เกมเพลย์ที่ทาง Capcom ปล่อยออกมาบนเว็บไวต์ยูทูบพุ่งขึ้นจนมากกว่ายอดไลค์เป็นจำนวนมาก
อย่างไรก็ดีในระหว่างการเปิดให้ทางสื่อมวลชนได้ทดสอบตัวเกมเมื่อช่วงเดือนที่ผ่านมานั้น ก็เป็นทางเว็บไซต์อย่าง Eurogamer (via. Official Xbox Magazine) ที่ได้ออกมาให้ข้อมูลว่าตัวเกม Project Resistance นี้อาจจะไม่ได้ออกวางจำหน่ายก็เป็นได้ ซึ่งก็เป็นสาเหตุที่ทำให้มันยังคงใช้คำว่า ‘Project’ นำหน้าชื่อของตัวเกมอยู่นั่นเอง
สำหรับ Project Resistance นั้นมันคือโปรเจกต์ทดลองที่ถูกสร้างขึ้นด้วย RE Engine ขุมพลังตัวใหม่ของทาง Capcom โดยทีมงานภายในที่ชื่อว่า Neobards Entertainment ทีมงานจากไทเป ประเทศไต้หวัน ที่เคยร่วมงานกับทาง Capcom มาก่อนหน้านี้ในการทำการรีมาสเตอร์เกม Onimusha ออกวางจำหน่ายอีกครั้งในชื่อ Onimusha Warlods นั่นเอง ซึ่งในการปล่อย Beta ของตัวเกมที่ได้เปิดให้ทดสอบบน PlayStation 4 และบน Xbox One เมื่อวันที่ 4-7 ตุลาคม นั้นก็จะเป็นตัวชี้วัดว่ามันจะได้ถูกนำมาวางจำหน่ายหรือไม่ โดยอิงจากเสียงตอบรับของผู้เล่นเป็นหลัก
โดยทางคุณ Matt Walker ผู้ควบคุมการผลิตของ Resident Evil และ Project Resistance ก็ได้ออกมายอมรับถึงกระแสในช่วงเปิดตัวเกมที่ออกมาไม่ค่อยสู้ดีนัก พร้อมกับให้สาเหตุในการทดลอง Project Resistance นี้เอาไว้ว่า “เห็นได้เลยว่ามันมีผู้คนมากมายที่ไม่ค่อยปลื้มกับแนวคิดในการสร้าง Project Resistance ซึ่งมันก็ชัดเจนว่าผู้คนอยากที่จะได้แก่นประสบการณ์การเล่นที่มีคุณภาพอย่างที่เราได้เคยทำใน RE2 และ RE7 เราในฐานะของบริษัทจำเป็นที่จะต้องมีการขยายกิ่งก้านของมันไปให้ได้เท่าที่ทำได้ในการนำเสนอรูปแบบการเล่นใหม่ที่เพิ่มเติมขึ้นจากประสบการณ์ที่ผู้คนคาดหวังจากเรา ถ้าเรานำเสนออะไรเหมือนเช่นที่ผ่านมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า ผู้คนก็จะเริ่มไม่สนใจอีกต่อไปว่าเราจะสร้างอะไรออกมาอีก”