สำหรับแนวทางของ Need for Speed Heat เหมือนว่าเป็นการปรับปรุงตัวเกมจากภาคก่อน ๆ และหันมาเอาใจผู้ที่ชื่นชอบซีรีส์นี้ทุกแนวทาง ทั้งการแข่งรถปกติและใต้ดิน โดยความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นหลายอย่าง มีทิศทางที่น่าสนใจพอสมควร
ในบทสัมภาษณ์กับสำนักข่าว Ulvespill คุณ Yoni Rabinowitz พูดถึงความแตกต่างระหว่างระบบการปรับแต่งรถของภาค Heat กับ Payback ในภาคก่อน ผู้เล่นต้องเลือกแม่แบบของรถเวลาซื้อคันใหม่ (เวลาคุณซื้อรถ คุณต้องตัดสินใจว่าจะให้รถคันนี้เป็นรถประเภทดริฟต์หรือรถแข่ง) แต่ใน Heat จะอิสระมากกว่า “มันเกี่ยวกับว่าคุณจะปรับแต่งและพัฒนารถอย่างไร คุณจึงสามารถซื้อยางรถยนต์ แต่งช่วงล่าง และ ดึงลักษณะพิเศษของรถไปในทางที่แตกต่าง ดังนั้น คุณมีตัวเลือกมากมายสำหรับผู้เล่น” แต่คุณ Rabinowitz ก็ยังเน้นว่าการปรับแต่งรถยังคงรายละเอียดเหมือนเดิม
เขายังพูดถึงการเปลี่ยนแปลงในด้านความสะดวกสบายของผู่เล่น เอื้ออำนวยต่อผู้เล่นที่ไม่ค่อยมีเวลาเล่นเกม อย่างการที่ผู้เล่นไม่ต้องกลับไปยังโรงรถเพื่อพัฒนาหรือสลับชิ้นส่วนรถอีกต่อไป “หลังจากคุณซื้อชิ้นส่วนให้รถคุณ คุณเพียงแค่ไปยังเมนู และเปลี่ยนชิ้นส่วนรถคุณ แค่นั้นเลย ไม่ต้องขับกลับไปยังโรงรถหรือไปหยุดที่อื่นเพื่อเปลี่ยนชิ้นส่วน” คุณ Rabinowitz กล่าว
นอกจากนั้นเขาพูดถึงการปรับปรุงฟิสิกส์ในการควบคุมรถจากภาค Payback “ใช่เลย พวกเราลงแรงไปเยอะในการควบคุมรถสำหรับ Need for Speed Heat ผมคิดว่าหนึ่งในสิ่งที่มุ่งความสนใจมาตลอดคือการเปลี่ยนแนวทางที่เหมาะกับการดริฟต์ หนึ่งในสิ่งดังกล่าวคือการดริฟต์โดยปกติแล้วเนี่ยมักถูกเริ่มจากเบรกมือหรือการปล่อยและเหยียบคันเร่งเพื่อให้ล้อหมุนฟรี”
Need for Speed Heat วางจำหน่ายบน PC, Xbox One และ Playstation 4 และเปิดให้เล่นสำหรับผู้ที่ซื้อตัวธรรมดาในวันที่ 8 พฤศจิกายน