ราล้วนเคยเป็นเด็ก และในสมัยยังเด็กเรามักเต็มไปด้วยความฝัน หนึ่งในความฝันของผู้เขียน และอาจจะรวมไปถึงท่านผู้อ่าน ก็คือการได้ควบรถสปอร์ตสุดหรู พุ่งทะยานไปตามถนนที่ทอดยาวผ่านท้องทุ่งอันเขียวขจีในชนบท เรื่อยไปยังถนนริมชายหาดฝ่าหยดน้ำที่สาดกระเซ็นจากเกลียวคลื่น สำหรับผู้เขียนแล้ว Forza Horizon 4 คือเกมที่มาเติมเต็มความฝันที่ว่า แม้มันอาจจะยังไม่สมบูรณ์แต่มันก็ให้ความรู้สึกของการมาเติมเต็มความฝันนั้นได้ ไม่ใช่ก็ใกล้เคียง
Forza Horizon คือซีรีส์เกมแข่งรถที่หลายคนยกให้มันมีทั้งความเป็น Arcade ที่เข้าถึงง่าย และเน้นความสนุกเป็นหลัก แต่ก็ยังเจือไปด้วยองค์ประกอบในแบบเกม Simulation ที่มีทั้งความลึกของระบบ และต้องใช้ความเชี่ยวชาญในการขับขี่ บนโลกเกมแบบ Open-World ที่เปิดกว้างและเต็มไปด้วยสภาพแวดล้อมที่น่าประทับใจ และมันก็ยังสร้างอยู่บนรากฐานของเทศกาลดนตรี เทศกาลแห่งการปลดปล่อยที่มันจะทำให้เราได้ล่องลอยไปกับเสียงเพลง และ Forza Horizon 4 ก็คือโลกใบใหม่ที่พร้อมให้เราได้ปลดปล่อยความเหนื่อยล้าไปกับท่วงทำนอง และเสียงเครื่องยนต์
Forza Festival
Dan Greenawalt ผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์ของสตูดิโอ Turn 10 ได้เคยกล่าวไว้ในตอนที่พวกเขากำลังพัฒนาเกม Forza Horizon ภาคแรกว่า แนวคิดในการสร้างเกมนี้เกิดขึ้นมาจากเทศกาลดนตรีที่ชื่อว่า Coachella หรือชื่อเต็มคือ Coachella Valley Music and Arts Festival ที่เริ่มจัดมาตั้งแต่ 1999 เรื่อยมาจนถึงปัจจุบันเป็นประจำทุกปีที่แคลิฟอร์เนีย มันคือสถานที่แห่งการพักผ่อนที่ทุกคนล้วนมุ่งมาด้วยเป้าหมายเดียวกัน ในการแฮงก์เอาท์ไปกับเพื่อนฝูง ท่ามกลางเทศกาลที่เต็มไปด้วยความสนุกและความบันเทิง
และสิ่งที่ Dan Greenawalt ได้บอกไว้มันก็ไม่ได้เกินเลยจากความเป็นจริงนัก เพราะ Forza Horizon ก็สามารถถ่ายทอดความรู้สึกของเทศกาลดนตรีให้กับผู้เล่นได้เป็นอย่างดี มาจนถึง Forza Horizon 4 ที่ตัวผู้เขียนกำลังสัมผัสอยู่ ณ ขณะนี้ มนต์เสน่ห์ของเสียงยางที่บดไปกับพื้นถนน เสียงเครื่องยนต์ที่กรีดร้องผ่านอากาศด้วยความเร็วสูง และเสียงดนตรีที่ดังเป็นท่วงทำนอง (ผ่านวิทยุในเกมที่คัดสรร Playlist มาได้เป็นอย่างดี) ก็ยังไม่เสื่อมคลาย และซ้ำยังทวีความสนุกที่ยิ่งขึ้นกว่าเดิม
เพียงแค่แรกสัมผัสหลังจากเปิดเกมขึ้นมา สิ่งที่เกม Forza Horizon 4 มอบให้กับผู้เล่นก็คือความพึงพอใจยามที่ได้ขับขี่ McLaren Senna รถสปอร์ตสุดหรูพุ่งทะยานผ่านท้องถนนในแถบชนบทที่ทอดยาวสุดลูกหูลูกตาของเมืองสมมติแห่งหนึ่งที่เกมอิงมาจากประเทศในหมู่เกาะอังกฤษที่เต็มไปด้วยทัศนียภาพอันสวยงาม และยังมาพร้อมกับการควบคุมรถที่ง่ายดั่งใจปรารถนา แม้ผู้เล่นจะไม่เชี่ยวชาญเกมแข่งรถมาก่อน แต่ผู้เขียนก็เชื่อว่าเกมสามารถมอบความคุ้นเคยให้ได้ในเวลาทันท่วงทียามเมื่อใช้คอนโทรลเลอร์ในการควบคุม
เจ้า McLaren Senna ที่เกมมอบให้ในฉากเปิด มันไม่ได้ดื้อด้านเป็นม้าพยศแม้จะสามารถทำความเร็วในระดับ 180 ไมล์ต่อชั่วโมง แต่ในขณะเดียวกันมันก็ยังคงความสมจริงไว้เท่าที่มันจะทำได้ เพื่อเป็นการมอบความสนุกในการขับขี่ที่ผู้เขียนเชื่อว่า ณ ตอนนี้ก็ยังไม่มีเกมไหนที่สามารถทำได้เทียบเคียง และมันก็เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของความสนุกในงานเทศกาลครั้งนี้ ก่อนที่มันจะพาเราโจนทะยานสู่ฤดูใหม่ที่แท้จริง ของเทศกาลดนตรีและการแข่งรถ ที่เต็มไปด้วยกิจกรรมต่างๆ มากมายก็ตาม
Season Change
ในขณะที่ผู้เล่นกำลังพึงพอใจกับการขับขี่เจ้า McLaren Senna เกมก็พาเราไปพบกับระบบใหม่ของ Forza Horizon 4 นั่นคือระบบฤดูกาลที่จะทำให้ทัศนียภาพบนเมืองจำลองที่ดูเหมือนกับหมู่เกาะอังกฤษแห่งนี้เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ไล่เรียงมาตั้งแต่ฤดูใบไม้ร่วงที่เต็มไปด้วยใบไม้สีแดงที่ปลิวไสวไปตามท้องถนน ฤดูหนาวที่แม่น้ำกลายเป็นน้ำแข็ง ลุยโคลนไปกับฤดูใบไม้ผลิ และฤดูร้อนที่แสงอาทิตย์สาดส่อง มันพาเราในฐานะนักซิ่งหน้าใหม่ไปแนะนำตัว และทำความรู้จักกับทั้งสี่ฤดูผ่านการทำอีเวนต์ต่างๆ ในช่วงต้นเพื่อทำความคุ้นเคยกับสภาพอากาศในแต่ละฤดูที่จำเป็นที่จะต้องใช้ทักษะการควบคุมรถที่แตกต่างกัน
มันเป็นเพียงปฐมบทที่อาจใช้เวลานานไปเสียหน่อย ก่อนที่เกมจะพาผู้เล่นเข้าสู่เทศกาลของเหล่านักแข่งรถที่แท้จริง ที่ฤดูกาลทั้ง 4 นั้นจะปรับเปลี่ยนไปตามสัปดาห์ต่อสัปดาห์ และมันก็จะมาพร้อมกับกิจกรรมมากมายให้ผู้เล่นได้ท้าทายเพื่อมุ่งสู่ปลายสุดของเจ้าแห่งท้องถนนและเสียงเพลง
เต็มไปด้วยกิจกรรม
แก่นหลักของ Forza Horizon คือความเป็นเกมแข่งรถในรูปแบบ Open World ที่เต็มไปด้วยกิจกรรมต่างๆ ให้ผู้เล่นได้เข้าแข่งขันทั่วทั้งแผนที่อันมหึมา และมันก็มาพร้อมกับรูปแบบการแข่งรถที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันแบบ Street Race ที่เป็นการแข่งกันบนท้องถนนในตัวเมืองเป็นหลักด้วยรถแต่งสุดเท่ Road Race การแข่งขันที่เป็นการประชันความเร็วผ่านท้องถนนที่ทอดยาวด้วยรถสปอร์ตสุดหรู มาจนถึง Dirt Race รูปแบบการแข่งที่เราอาจคุ้นเคยกับคำว่าการแข่งรถแรลลี ไปจนถึงการแข่ง Cross Country ที่เป็นการแข่งวิบากในระยะทางที่ยาวนาน และมันก็ยังมีการแข่งเล็กๆ อย่างการประชันความเร็วในระยะสั้นๆ ที่เรียกว่า Drag Race และอื่นๆอีกมากมาย
ทิ้งท้ายด้วยจุดขายของเกมกับการแข่งขันสุดพิสดารอันน่าตื่นเต้นที่เรียกว่า Showcase ที่ผู้เล่นจะได้มาแข่งขันกับยานพาหนะอื่นๆ ที่ไม่ใช่รถหรือยานพาหนะทั่วไป หากแต่เป็นเครื่องบินเจ็ต,เรือโฮเวอร์คราฟต์ ไปจนถึงการสวมบทบาทเป็น Master Chief จากเกม Halo ที่มาพร้อมกับรถ M12 Warthog ที่ต้องควบตะบึงฝ่าฝูงบินรบ Banshee บนสนามที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อโชว์ลีลาผาดโผนดุจดั่งหนังแอ็กชันของฮอลลีวูด
แต่ถึงแม้เกมจะมีรูปแบบการแข่งขันเตรียมมาให้ในแผนที่อันแสนกว้างใหญ่ด้วยปริมาณจำนวนมากอยู่แล้ว แต่รูปแบบการแข่งทั้งการแข่งทั้ง Street Race, Road Race, Dirt Race และ Cross Country เกมก็ยังเปิดโอกาสให้ผู้เล่นได้สามารถสร้างรูปแบบการแข่งขันได้ในแบบเฉพาะตัวหรือตามแต่ที่ผู้เล่นถนัดผ่านระบบ Blueprints เช่นการกำหนดให้การแข่งขันอยู่ในช่วงกลางวันหรือกลางคืน จำกัดการแข่งขันเฉพาะรถยี่ห้อใดยี่ห้อหนึ่ง หรือกำหนดจำนวนรอบการแข่งและอื่นๆ และยังสามารถแชร์รูปแบบการแข่งขันที่เราเป็นผู้กำหนดในการเล่นร่วมกันกับเพื่อนก็ได้ ทั้งการแข่งแบบ Co-op ช่วยกันสู้กับ AI ไปจนถึงการแข่งขันในรูปแบบ PvP
บนโลกออนไลน์
นอกจากการแข่งขันอันมากมายมหาศาลที่อยู่ทุกหัวมุมถนนของแผนที่ในเกมแล้ว Forza Horizon 4 ยังมาพร้อมกับความเป็นเกมกึ่ง Online ตามสมัยนิยม และมาพร้อมกับระบบในการจูงใจให้ผู้เล่นติดพันไปกับตัวเกม เพราะในแต่ละฤดูกาล (ที่จะมีการเปลี่ยนแปลงตามเวลาที่เกมกำหนดสัปดาห์ต่อสัปดาห์) นั้นมันก็มาพร้อมกับกิจกรรมให้ผู้เล่นได้ท้าทาย ทั้ง Daily Challenge และ Weekly Challenge
ที่เมื่อผู้เล่นสามารถพิชิต Challenge ได้ตามเงื่อนไข และเวลาที่กำหนดเกมก็จะมอบแต้มที่เรียกว่า Forzathon ให้เป็นรางวัลในการจับจ่ายใช้สอย ในร้านค้า Forzathon Shop ของเกมที่โดยส่วนมากมักเป็นของตกแต่งเพื่อความสวยงามให้กับตัวละคร Avatar ของผู้เล่นเช่น เสื้อผ้า และ Emote แสดงอารมณ์ หรือ รถยนต์รุ่นพิเศษ (ที่ไม่ได้ดีกว่ารถที่ขายทั่วไปมาก) หรืออาจใช้เพื่อการเสี่ยงดวงโดยนำไปหมุนรูเล็ตเพื่อลุ้นรางวัลใหญ่ก็ได้เช่นกัน ซึ่งไอเทมบางชิ้นใน Shop ก็อาจมีการจำหน่ายในเวลาที่จำกัดตามแบบฉบับของเกมออนไลน์สมัยใหม่ มันจึงทำให้การเก็บสะสมแต้ม Forzathon จากทั้ง Daily Chellenge และ Weekly Challege ดูจะมีความสำคัญขึ้นมาทันที
นอกจาก Daily Challenge และ Weekly Challenge แล้วอีกหนึ่งวิธีการที่จะได้แต้ม Forzathon มาก็คือการเข้าร่วม Forzathon Live Event ที่จะเกิดขึ้นแบบสุ่มทั้งเวลาและสถานที่ อย่างที่ผู้เขียนได้บอกไว้ในข้างต้นว่า Forza Horizon 4 คือเกมกึ่งออนไลน์ ดังนั้นโลกของผู้เล่นจึงเปรียบเสมือน Session ที่ผู้เล่นหลายๆ คนจะเข้ามาร่วมเล่นกันใน Session นั้นๆ โดยในแต่ละ Session ก็จะมีการจำกัดปริมาณผู้เล่นถึง 72 คนในหนึ่ง Session นั่นหมายความว่าเมื่อผู้เล่นเข้าไปเล่นเกมและเชื่อมต่อเข้ากับอินเทอร์เน็ต (แต่เกมก็สามารถเล่นแบบ Offline ได้เช่นกัน) ผู้เล่นก็จะพบเพื่อนร่วมโลกอีกถึง 72 คนที่กำลังแข่งขันกันอยู่นั่นเอง
และระบบ Forzathon Live Event นี้ก็จำเป็นที่จะต้องใช้ความร่วมมือของผู้เล่นทุกคนใน Session มันเป็นระบบที่ผู้เล่นทุกคนจะต้องมารวมตัวกันในการพิชิตภารกิจผ่านด่านการท้าทายต่างๆ ที่เกมจะสุ่มขึ้นมาให้ทันเวลาตามที่เกมกำหนด ซึ่งผู้เล่นทุกคนที่เข้าร่วม และช่วยกันทำภารกิจได้จนสำเร็จ ก็จะได้แต้ม Forzathon มาเป็นรางวัลนั่นเอง
แต่หลายสิ่งหลายอย่างใน Forza Horizon 4 ก็ดูเหมือนจะเยอะเกินความจำเป็น บางสิ่งบางอย่างที่ไม่สนุกในเกมภาคก่อนในภาคนี้ ก็ยังคงตามมาหลอกหลอนอยู่เช่นเคย โดยเฉพาะ ระบบจิปาถะย่อยๆ อย่างการไล่ชนป้ายตามสถานที่ต่างๆ การขับผ่าน Speed Zone ให้ได้ความเร็ว หรือการดริฟท์ไปตามโค้งที่เกมกำหนดเพื่อให้ได้มาซึ่งค่าชื่อเสียง (ซึ่งเปรียบเสมือนค่าประสบการณ์ในเกมอื่นๆ) แม้เกมจะไม่ได้บังคับให้เล่น แต่มันก็เป็นสิ่งกวนใจสำหรับผู้เขียนที่ต้องการจะเก็บสิ่งเหล่านี้ให้ได้อย่างสมบูรณ์ ซ้ำร้ายยิ่งกว่าคือการจะเก็บกิจกรรมยิบย่อยเหล่านี้ (ซึ่งมีเยอะมาก) ให้ได้อย่างครบถ้วนก็จำต้องอยู่ภายใต้สภาวะที่ถูกที่ถูกเวลาด้วยเช่นกัน มันจึงจะทำได้
เช่นเดียวกับกิจกรรม Weekly Challenge และ Daily Challenge ที่ยังต้องต้องฝากความหวังไว้กับการอัปเดตในแต่ละสัปดาห์ว่ามันจะมาพร้อมกับกิจกรรมที่เข้าท่าหรือไม่ แต่โดยส่วนมากกิจกรรมเหล่านี้ก็ไม่ได้เป็นเรื่องที่เหลือบ่ากว่าแรงและใช้เวลาไม่นานก็สามารถเก็บได้ครบจนหมด ระบบ Forzathon Live Event ก็ไม่ได้ออกมาดีอย่างที่คิดเพราะมันเต็มไปด้วยกิจกรรมที่ไม่สนุกและผู้เล่นก็จะต้องทำซ้ำไปซ้ำมา
เช่นในบางครั้งเกมก็จะสุ่มด่านที่ผู้เล่นจะต้องมาช่วยกันขับรถผ่าน Speed Zone เพื่อสะสมแต้มตามที่เกมกำหนด ซึ่งหากไม่มีผู้เล่นใน Session มาช่วยจนมากพอ ผู้เล่นที่เหลือก็จะต้องเล่นกิจกรรมเดิมซ้ำไปเรื่อยๆ จนกว่าจะมันจะผ่านหรืออาจไม่ทันเวลาที่เกมกำหนดเสียด้วยซ้ำ แต่ที่น่าหนักใจคือแต้ม Forzathon ที่ได้มาจากการทำกิจกรรมเหล่านี้ ก็ดูไร้ค่าในบางที เพราะสิ่งของฟุ่มเฟือยเพื่อความงามและความเก๋ในร้านค้าของเกมมันไม่ดึงดูดพอจะให้เอาไปจับจ่ายเอาเสียเลย
กว่า 450 เอกลักษณ์
ด้วยฤดูกาลของเกมที่เปลี่ยนแปลงไปสัปดาห์ต่อสัปดาห์ ก็ส่งผลให้รูปแบบของกลยุทธ์และการปรับแต่งรถจำต้องเปลี่ยนแปลงไปด้วยเช่นกัน ใน Forza Horizon 4 มีรถยนต์ให้เราได้เลือกใช้กว่า 450 คัน และเกมก็ยังจะทยอยเพิ่มเติมเข้ามาเรื่อยผ่านการอัปเดตในแต่ละครั้ง ซึ่งรถแต่ละคันก็มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน รถบางคันอาจจะเหมาะสำหรับการแข่งขันในรูปแบบ Street Race บางคันอาจจะเหมาะสำหรับ Dirt Race แต่มันก็ไม่ได้ตายตัวเสมอไป
เพราะเกมมาพร้อมกับระบบการปรับแต่งเครื่องยนต์และช่วงล่างที่ลึกพอตัว รวมไปถึงระบบการแข่งขันทั้งหลายรูปแบบอย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้น มันก็ไม่ได้จำกัดประเภทรถยนต์เอาไว้ ซึ่งให้อิสระถึงขั้นว่าผู้เล่นอยากจะขับขี่เจ้า Ferrari 488 GTB ซิ่งผ่านถนนอันแสนขรุขระและเต็มไปด้วยโคลนตมในการแข่งแบบ Dirt Race ก็ได้ตามใจปรารถนา (แม้มันจะมาพร้อมกับการควบคุมที่แสนยากเพราะความไม่เหมาะสมของตัวรถก็ตามที)
รถทุกคันใน Forza Horizon 4 นอกจากจะมีความแตกต่างทางด้านสมรรถนะแล้ว มันยังมาพร้อมกับระบบ Perks หรือความสามารถพิเศษในแต่ละคัน ด้วยรูปแบบการปลดล็อกที่คนเล่นเกมน่าจะคุ้นเคยกันดีกับระบบ Skill Tree ที่ผู้เล่นจะต้องเก็บแต้มทักษะ (Skill Points) เพื่อนำมาใช้ในการปลดล็อกความสามารถต่างๆ ของตัวรถไปเรื่อยๆ แต่ระบบ Perks หรือความสามารถที่ว่า ก็ไม่ได้ทำให้ผู้เล่นเกิดความได้เปรียบในการแข่งขันแต่อย่างใด
โดยส่วนใหญ่ความสามารถของ Perks มักเป็นความสามารถที่ใช้เพื่อเพิ่มพูนค่าชื่อเสียงหรือเพิ่มความสามารถในการเก็บแต้มทักษะให้ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น และ Perks ของรถแต่ละคันก็จะสะท้อนถึงภาพลักษณ์อย่างสมเหตุสมผล เช่น หากเราใช้รถสปอร์ตสุดหรูมันก็จะมี Perks ที่เมื่อผู้เล่นปลดจะได้รับค่าชื่อเสียงเป็นจำนวนมากทันที หรือรถบางคันอาจจะเหมาะกับการแข่งขันในแบบ Dirt Race มันก็จะมาพร้อมกับ Perks ที่เป็นการช่วยเพิ่มพูนความสามารถในการเก็บค่าทักษะเมื่อขับขี่บนสภาพื้นถนนที่ไม่ราบเรียบเป็นต้น
และการที่จะได้มาซึ่งแต้มทักษะเพื่อนำมาใช้ในการปลดล็อก Perks ต่างๆ นั้นก็สามารถทำได้ด้วยการ ออกลีลาท่าทางขับขี่ให้ได้ต่อเนื่องกันใหม่มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการขับรถเบียดเฉียดด้วยความเร็วสูง การทำดริฟท์ด้วยเบรกมือ การกลับรถ 360 องศาแบบเฉียบพลัน การพุ่งเข้าชนสิ่งกีดขวาง โจนทะยานผ่านเนินสูง และอื่นๆ อีกมากมาย สิ่งเหล่านี้แม้ไม่ได้อยู่ในการแข่งขันก็สามารถให้แต้มทักษะแก่ผู้เล่นได้ และแต้มทักษะนั้นก็ไม่ผูกติดอยู่กับรถคันใดคันหนึ่ง แต่มันคือทักษะของผู้เล่นเอง ที่สามารถนำเอาแต้มทักษะที่ได้มาจากรถคันอื่น มาปลดล็อก Perks ของรถคันใหม่ที่ผู้เล่นเพิ่งซื้อก็ได้
แม้เกมจะมีระบบการปรับแต่งรถที่ลึกในระดับเกือบที่จะเป็นเกมแข่งรถ Simulation แต่เกมก็มีระบบที่คอยช่วยเหลือผู้เล่นใหม่มากมาย รถแต่ละคันสามารถนำมาอัปเกรดปรับแต่งได้ในหลายแนวทาง รถบางอันอาจเหมาะสมทั้งการแข่ง Street Race และ Dirt Race รวมไปถึง Cross Rally และมันยังแบ่งออกเป็น Class ที่เป็นการจำแนกสมรรถนะ และแรงม้าของรถตั้งแต่ระดับ F ที่แรงม้าน้อยที่สุดไปจนถึงระดับ R1 ที่ต้องใช้ทักษะในการควบคุมเป็นอย่างสูง ซึ่งรถแต่ละคันก็จะเริ่มต้นด้วยคลาสที่แตกต่างกัน และมีขีดจำกัดในการอัปเกรดไปเป็นคลาสอื่นๆ ที่แตกต่าง เราสามารถอัปเกรดรถ Mazda RX-7 ให้มีความแรงไปพอฟัดพอเหวี่ยงกับ Lamborghini Veneno ได้ แต่มันก็ต้องแลกมาด้วยการปรับจูนรถที่สมดุล ที่อาจทำได้ยากหากเราไม่เชี่ยวชาญ
ผ่านการปรับแต่ง
ซึ่งเกมก็มาพร้อมระบบออนไลน์ในรูปแบบ User Generated Content ที่พร้อมช่วยเหลือผู้เล่นมือใหม่ โดยเปิดโอกาสให้ผู้เล่นแต่ละคนสามารถทำอัปโหลดรูปแบบการอัปเกรดและปรับจูนรถในแบบฉบับของตัวเองขึ้นไปยังระบบเซิร์ฟเวอร์หลักของตัวเกม เพื่อแบ่งปันให้กับเพื่อนๆ คนอื่นๆ ที่อาจจะไม่เชี่ยวชาญ ให้สามารถดาวน์โหลดการปรับแต่งที่มีคนอัปโหลดเอาไว้ไปใช้ได้ทันที เช่นเดียวกับการแต่งลวดลายต่างๆ ของตัวรถ เกมก็อนุญาตให้ผู้เล่นสามารถนำเอาลวดลายที่เป็นแบบฉบับของผู้เล่นเองเข้ามาใส่ในเกมได้ และยังสามารถทำการอัปโหลดรูปแบบที่ตกแต่งเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้วขึ้นสู่ระบบเพื่อแบ่งปันให้กับผู้เล่นคนอื่นๆ ได้นำไปใช้อีกด้วย
สิ่งหนึ่งที่เป็นความชาญฉลาดของทีมงานผู้พัฒนา Forza Horizon 4 ก็คือเกมจะมอบความท้าทายให้กับผู้เล่นได้อยู่ตลอดเวลา และมันก็ไม่ทำให้ผู้เขียนรู้สึกเบื่อ มันคือระบบที่ตัวเกมจะทำการปรับแต่งปัญญาประดิษฐ์ให้มีความสามารถสูสีผู้เล่นตลอดเวลา และมันก็มาพร้อมกับระดับความยาก-ง่ายแบบแปรผัน เมื่อผู้เล่นรู้สึกว่าเอาชนะคู่แข่งที่เป็นปัญญาประดิษฐ์ง่ายเกินไป เกมก็จะแนะนำให้ผู้เล่นเพิ่มระดับความยากให้มากขึ้น ซึ่งระบบก็จะทำการลดตัวช่วยในการขับขี่ลงเป็นสัดส่วนเพื่อเพิ่มความท้าทาย และทำให้ผู้เล่นต้องงัดเอาทุกทักษะที่มี มาใช้ในการเอาชนะการแข่งขัน ยิ่งระดับความยากมากเท่าไหร่ เกมก็จะยิ่งตอบแทนเป็นค่าชื่อเสียงมากและเงินรางวัลที่มากขึ้นเท่านั้น
เติมเต็มความสนุก
แต่สิ่งที่จะเสริมความสนุกให้ Forza Horizon 4 ได้เป็นอย่างมากก็คือระบบการเล่น Online Multiplayer ที่ได้รับการออกแบบมาเป็นอย่างดี ที่มันจะเป็นการผนวกเขากับกิจกรรม Weekly Challenge ที่เกมจะอัปเดตมาในแต่ละ Season อีกด้วย แม้ผู้เล่นจะสามารถทำการแข่งขันในรูปแบบ Online Multiplayer ในการแข่งขันใดๆ ก็ได้ แต่การมาของ Season ก็จะทำการตีกรอบให้ผู้เล่นมาแข่งขันกันใน Weekly Challenge ที่เกมกำหนดกันมากขึ้นโดยไม่จำเป็นที่จะต้องเสียเวลาในการค้นหาการแข่งขันอื่นๆ
และเกมก็ยังมาพร้อมกับระบบ Team Adventure ที่สนุกมากๆ มันคือระบบการแข่งขันที่ผู้เล่นจะต้องมาร่วมทีมกันเอาชนะทีมคู่แข่งขันผ่านรูปแบบการแข่งหลายการเพื่อเก็บสะสมคะแนนในรูปแบบ Championships ที่ผู้เล่นในทีมจำเป็นต้องทำผลงานให้ดีที่สุดเพื่อที่จะเอาชนะคู่แข่ง ซึ่งรางวัลที่ได้รับก็จะลดหลั่นลงไปตามลำดับ
นอกจากแต้ม Forzathon แล้วเกมยังมีอีกหนึ่งค่าเงินคือ Credit ที่เอาไว้จับจ่ายใช้สอยในการซื้อรถยนต์ในร้านค้าทั่วไปและใช้ในการอัปเกรดรถ และอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ ที่เกมมี (เกมมีระบบการซื้อบ้าน แต่มันก็ไม่ได้ให้อะไรมากกว่าการเป็นจุด Fast Travel และเป็นเมนูของเกมในการบริหารจัดการสิ่งต่างๆ) ซึ่งข้อดี (และอาจจะเป็นข้อเสีย) ก็คือ เกมให้สมดุลกับระบบการเงินที่ไม่ทำให้ผู้เล่นได้ระบบ Credit ง่ายจนเกินไป และราคาของให้จับจ่ายก็ดูสมเหตุสมผลโดยไม่จำเป็นที่จะต้องซื้อ Credit ในเกมด้วยเงินจริง (ซึ่งก็มีขาย)
เกมมาพร้อมกับระบบสุ่มตามแบบฉบับสมัยนิยมเมื่อผู้สะสมค่าชื่อเสียงได้จนครบเลเวล หรือทำกิจกรรมอื่นๆ (ซึ่งมีมากมาย) เกมก็จะมีระบบรูเลตทั้งเล็กและใหญ่ที่ให้รางวัลที่หลากหลายตั้งแต่ เครื่องแต่งกายเพื่อความสวยงาม ค่า Credit ตั้งแต่น้อยยันมาก ไปจนถึงรถหายากราคาแพง ซึ่งรถในเกมก็แบ่งออกเป็นระดับความหายากตั้งแต่ Common, Rare, Epic และ Legendary (ที่อาจจะให้ความได้เปรียบในการแข่งขันแต่ก็ไม่ได้เหลือบ่ากว่าแรงผู้เล่นในการสรรหามาใช้)
ที่สุดของเกมแข่งรถ
กล่าวโดยสรุป Forza Horizon 4 เต็มไปด้วยองค์ประกอบทุกสิ่งอย่างที่เกมแข่งรถพึงมี ซ้ำด้วยแก่นของเกมที่แน่น การขับขี่ที่สนุก และเสียงดนตรีที่ผู้ชื่นชอบในเสียงเพลงเป็นคนคัดสรร มันให้ความรู้สึกและผ่อนคลายทุกครั้งยามที่เราได้เข้าไปขับขี่ บนท้องทุ่งของโลกจำลองอันแสนสวยงามตระการตาที่แปรเปลี่ยนลวดลายและสีสันไปตามฤดูกาล แม้จะมีหลายสิ่งหลายอย่างที่มากจนเกินไปสำหรับผู้จริงจังในความสมบูรณ์ รวมไปถึงกิจกรรมที่น่าเบื่อหน่ายในบางที แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า Forza Horizon 4 คือเกมแข่งรถที่ดีที่สุดในตอนนี้ แม้ผู้ที่ไม่ได้ชื่นชอบเกมขับรถก็คงยากปฏิเสธกับความสุขที่มันมอบ