Deathgarden: Bloodharvest ผลงานต่อยอดจากเกม Dead by Daylight ของทีมพัฒนา Behavior Interactive ได้มาถึงทางตันของการพัฒนาตัวเกมแล้ว หลังจากที่ได้มีการปล่อยให้ได้เล่นกันมาเป็นเวลาร่วมปี
สำหรับการยุติการพัฒนาเกมในครั้งนี้เป็นการยืนยันจากจดใหม่เปิดผนึกของทางทีมงานที่ได้ส่งให้กับผู้เล่นเกมทั้งหมด โดยทางทีมพัฒนาเกม Deathgarden ได้ออกมายืนยันว่าเซิร์ฟเวอร์ของเกมจะยังมีการเปิดให้บริการอยู่จนถึงสิ้นปีนี้เป็นอย่างน้อยและจะยังคงเป็นเกม free-to-play อยู่อย่างเช่นเดิม ซึ่งปัญหาหลักๆ ที่ทีมงานได้เผชิญอยู่สำหรับเกมนี้ก็คือการที่มันมีฐานผู้เล่นที่ไม่เพียงพอสำหรับการพัฒนาเกมในระยะยาวนั่นเอง
“ตลอดช่วงสองสามสัปดาห์ที่ผ่านมาทางทีมงานของเราไม่ได้มีการกล่าวถึงการพัฒนาเกม Deathgarden มากนัก และเฝ้าสังเกตการลดลงเรื่อยๆ ของกลุ่มฐานผู้เล่น เราได้มีการทำงานกันในการค้นหาวิธีการแก้ไขปัญหา เราได้มีการปรึกษา และพูดถึงความเป็นไปได้ที่หลากหลาย และวิธีการที่แตกต่าง แต่น่าเสียดายยิ่งนักที่ทั้งหมดนั้นไม่มีอะไรที่สามารถมาเปลี่ยนแปลงชะตากรรมของโปรเจกต์นี้ได้”
“โปรเจกต์เกมนี้สำหรับเราแล้วมันเหมือนกับการได้ขึ้นรถไฟเหาะตีลังกา ตั้งแต่เวอร์ชันแรกของเกมไปจนถึงการีบูตใหม่ และเราก็ภูมิใจในสิ่งที่เราได้ทำจนสำเร็จ เราได้เติบโตขึ้นมากจากประสบการณ์ในฐานะของทีมงานและความเป็นปัจเจก และเราก็จะก้าวเดินต่อไป เราจะน้อมรับทุกความเสี่ยงและจะมีนวัตกรรมที่จะเข้ากับความคาดหวังของผู้เล่นให้มากยิ่งขึ้น สำหรับในอนาคตทีมงาน Deathgarden จะได้ไปอยู่กับโปรเจกต์เกมอื่นๆ ของทาง Behavior ทั้งโปรเจกต์เกมที่มีอยู่ในตอนนี้และที่ยังไม่มีการเปิดตัวออกมา”
นอกจาก Dead by Daylight และเกมอื่นๆ ของ Bahavior Interactive ก็เต็มไปด้วยปัญหามากมายทั้ง Westworld ที่เป็นเกมบนแพลตฟอร์มมือถือที่โดนปัญหาด้านลิขสิทธิ์จากการที่เกมมีความคล้ายคลึงกับเกม Fallout Shelter ของทาง Bethesda เป็นอย่างมาก ซึ่งพวกเขาเองก็ยังเป็นทีมงานที่ทำหน้าที่ในการพัฒนาเกม Fallout Shelter เองอีกด้วย
รวมไปถึงการที่พวกเขายังมีปัญหาในการพัฒนาร่วมกับทาง Cloud Imperium Games ในการร่วมพัฒนาเกม Star Citizen หลังจากที่พวกเขาได้ซื้อสิทธิ์ของเกม Dead by Daylight กลับคืนจากทาง Starbreeze เมื่อปีที่ผ่านมา
