อย่างที่เราทราบว่า Call Of Duty จะมีการปรับปรุงเอนจินทุกภาคที่ออกมา ไม่ว่าจะเล็กน้อยหรือจนถึงขั้นยกเครื่องก็ตาม แต่ใน Call Of Duty: Modern Warfare จะเป็นการใช้เอนจินใหม่เต็มตัว ซึ่งใช้พัฒนาถึงเวลาห้าปี และบางส่วนของเอนจินก็เคยนำไปใช้กับภาค Infinite Warfare มาแล้ว แต่ในภาคใหม่ที่กำลังจะออกวางจำหน่ายนี้มันก็จะเป็นการยกระดับมันให้ก้าวไปอีกขั้น
คุณ Michal Drobot ผู้ทำหน้าที่ในตำแหน่ง rendering engineer ของทีม Infinity Ward ได่ออกมาพูดถึงที่มาที่ไปของเอนจินตัวใหม่ “เราต้องย้อนไปช่วงก่อนการจำหน่ายเกมภาคก่อน [Infinite Warfare] ตอนนั้นทีมคิดได้ว่าเอนจินตัวนี้มันไปต่อไปได้แล้ว พวกระบบใหม่ ๆ เอาไปใส่ก็ลำบาก แถมยังแสดงผลไม่ค่อยดีกับเทคโนโลยีที่มีอยู่ ซึ่งมันก็ไม่ได้เป็นเรื่องหนี้ทางเทคนิค (tech debt หรือ technical debt เป็นสิ่งที่ทีมพัฒนาตัดสินใจจะตัดความคงทนของซอฟต์แวร์ออกไปเพื่อปัจจัยทางด้านประสิทธิภาพหรือแก้ไขข้อผิดพลาดภายใต้เงื่อนไขทางเวลา) แต่เป็นเรื่องปัจจัยการออกแบบอันเป็นรากฐานสำคัญ ซึ่งตอบสนองความต้องการได้ดี”
คุณ Drobot กับทีมของเขาจึงรวมตัวกันพัฒนาเอนจินใหม่ ด้วยการวางให้เป็นเอนจินในระยะยาวของทีม Infinity Ward “มันชัดเจนว่าพวกเราต้องทำใหม่หมดทุกอย่าง ไม่ใช่สิ่งที่คุณจะทำเสร็จในเร็ววัน ในขณะที่จำหน่ายเกมในระดับของแฟรนไชส์” โดยบางส่วนของเอนจินใหม่นำไปใช้กับภาค Infinite Warfare เช่น เอนจินด้านแสงเงา ในขณะที่ส่วนอื่นที่ถูกปรับปรุงก็ค่อนข้างทำงานได้ดีกับส่วนใหม่ ๆ
เป็นตอนที่เราเห็นการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดในด้านคุณภาพ แต่เราก็มีอะไรอีกมากให้ทำ
ทีมได้วางแผนว่าเอนจินตัวใหม่จะใช้เวลาพัฒนาห้าปี เป็นช่วงกำหนดจำหน่าย Modern Warfare พอดีหลังจากจำหน่าย Infinite Warfare ทีมก็ทำการพัฒนาเอนจินใหม่หมด แล้วพัฒนาต่อเนื่องจนกลายเป็นเอนจินตัวนี้ที่นำมาใช้กับ Modern Warfare ในปัจจุบัน
