Assassin’s Creed ภาคต่อไปอาจจะพาเราไปยังหลายยุคหลายสมัยในภาคเดียว

ยุคใหม่ของ Assassin’s Creed ใน Generation หน้า

ไล่เรียงมาตั้งแต่สงครามครูเสด,ยุคเรอเนซองส์,ปฎิวัติอเมริกา,โจรสลัดคาบสมุทรแคริบเบียน,อังกฤษในยุคปฎิวัติอุตสาหกรรม จนพาเรากลับมาสู่ยุคอียิปท์โบราญและย้อนกลับมายังอารยธรรมกรีกใน Assassin’s Creed Odyssey เกมภาคล่าสุดที่จะออกวางจำหน่ายในปีนี้ Assassin’s Creed เป็นเกมที่พาเราท่องไปยังเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์โลกผ่านทางเครื่อง Animus มานักต่อนัก และบางทีภาคต่อไปของมันก็เป็นอีกหนึ่งการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของซีรี่ส์ที่จะพาเราไปสำรวจยังประวัติศาสตร์ของโลกที่มากกว่าเดิม

ตลอดเวลาที่ผ่านมา Assassin’s Creed เป็นเกมที่มีจุดขายอยู่ที่เซตติ้งประวัติศาสตร์ของแต่ละภาคมาโดยตลอด ที่มักจะทำให้แฟนๆต้องมาคาดเดากันว่าภาคต่อไปของมันจะเป็นเซ็ตติ้งที่อ้างอิงจากประวัติศาสตร์ในช่วงไหนของประวัติศาสตร์โลก แต่ด้วยแนวทางที่เปลี่ยนไปของ Assassin’s Creed Origins และ Assassin’s Creed Odyssey ที่มีการนำเสนอประวัติศาสตร์มีที่มีความเกี่ยวโยงกันอย่างชัดเจนนั้น ก็อาจจะเป็นตัวแปรที่ทำให้ทาง Ubisoft ที่กำลังมองหาแนวทางใหม่ๆให้กับซีรี่ส์ Assassin’s Creed อยู่ได้เจอกับแนวทางใหม่แล้วก็เป็นได้ กับการที่มันอาจจะเป็นประวัติศาสตร์หลายๆช่วงหลายยุคสมัยในเกมภาคเดียว

Assassin's Creed Odyssey Action

คุณไลโอเนล เรย์นาวด์ (Lionel Raynaud) รองประธานของ Ubisoft ได้เปิดเผยเรื่องราวความน่าจะเป็นกับอนาคตของซีรี่ส์ Assassin’s Creed ผ่านทาง Ubi Blog ที่เป็นเว็บไซต์สำหรับอัพเดทข่าวสารของทีมงาน Ubisoft โดยเขาได้ให้เปรยออกมาว่า ผู้เล่นอาจจะสามารถที่จะเดินทางไปมาในหลายช่วงเวลาของประวัติศาสตร์ได้ด้วยเทคโนโลยีของเครื่องเกมในยุคหน้าผ่านทางเครื่อง Animus ใน Assassin’s Creed ภาคต่อไป

“เราอาจจะยังสามารถอยู่บนโลกเดียวกันได้ และก็มีช่วงของยุคสมัยที่หลากหลาย อย่างเช่นใน Assassin’s Creed ที่เราสามารถใช้เครื่อง Animus ในการเดินทางจากยุคหนึ่งไปยังอีกยุคหนึ่งได้”

“ซึ่งระบบดังกล่าวนั้นอาจจะนำมาใช้ในเกมอย่าง Watch Dogs และ Far Cry ก็ได้เช่นกัน หรือไม่ก็เกมที่มีพื้นที่ๆแตกต่างกันบนโลกที่มีการเชื่อมต่อกันโดยระบบการเดินทาง เช่นเกมอย่าง Far Cry และ Watch Dogs ที่อาจจะมีเหตุการณ์ในรูปแบบเดียวกันเกิดขึ้นในประเทศต่างๆก็เป็นได้”

ซึ่ง Ubisoft นั้นอาจจะเรียกได้ว่าเป้นผู้นำเทรนด์ของเกมวางจำหน่ายเกมในรูปแบบ Game as a Service ก็เป็นได้ในระยเวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ ที่ผู้คนในวงการเกมต่างเริ่มเบื่อหน่ายกับการวางขาย DLC ที่เป็นการแบ่งแยกชนชั้นผู้เล่น และระบบ Game as a Service นั้นก็ได้เข้ามาแทนที่ด้วยการอัพเดทคอนเทนท์เกมต่างๆอย่างต่อเนื่องและขายบริการอัพเดทเป็นรายปีแทน ซึ่ง Assassin’s Creed Odyssey ก็เป็นอีกหนึ่งความพยายามของทีมงาน Ubisoft ในการผลักดันให้มันเป็นเกมในรูปแบบ Game as a Service อีกด้วย ที่อาจจะทำให้ในอนาคตเกม Assassin’s Creed อาจจะสิ่นสุดการทำภาคต่อแบบเต็มตัวที่จะแทนที่ด้วยคอนเทนท์ใหม่ที่ๆตัวเกมอัพเดทมาให้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเส้นแบ่งระหว่างเกมแบบปกติและเกมในรูปแบบ Game as a Service นั้นก็เริ่มที่จะมองเห็นได้ยากขึ้นเรื่อยๆทุกปี

Assassin's Creed Odyssey Cover Gameplay

“เส้นแบ่งที่ว่านั้นเริ่มที่จะพร่าเลือนขึ้นในทุกๆปี เรามีช่วงเวลาหลังจากที่เกมออกวางจำหน่ายที่ใหญ่โตมาก และแต่ละเกมของเราก็มีชิวิตอยู่ได้อย่างยาวนานไม่เว้นแม้แต่เกมที่เป็นเกมเล่นเดี่ยวอย่างเกมแอ็คชั่นผจญภัยที่ในทุกวันนี้มันก็ยังมีชีวิตหลังจากวางจำหน่ายที่ยังคงแข็งแรง และผู้คนก็ยังอยู่ในโลกที่พวกเราสร้างขึ้นมาได้อย่างยาวนาน ดังนั้นมันจึงเป็นอะไรที่พร่าเลือนมากขึ้นเรื่อยๆ”

“เราทุกคนคงได้เห็นกันแล้วว่าอนาคตของเกมนั้นจะเป็นแบบไหนในช่วงหลังการออกวางจำหน่าย และประสบการณ์รูปแบบใหม่อีกด้วย แต่เราจะมีเทคโนโลยีที่จะเป็นการปลดล็อคหน่วยความจำที่ถูกจำกัดอยู่เพราะเรามีเทคโนโลยีใหม่ที่กำลังจะมาถึงแล้ว”

ซึ่งมันก็อาจจะหมายถึงเครื่องคอนโซลใน Generation ใหม่นั่นเองที่กำลังจะมาถึง ซึ่งก็อาจจะมาเร็วกว่าที่พวกเราคาคคิดก็เป็นได้ เพราะเกมอย่าง Starfield ของ Bethesda Games Studios นั้นก็เริ่มที่จะเตรียมตัวเพื่อเปิดตัวในยุคใหม่ของเครื่องคอนโซลแล้วเช่นกัน ไม่แน่ว่าบางทีปี 2019 ที่กำลังจะมาถึงเราก็อาจจะได้ยลโฉมเจ้าเครื่องคอนโซลใน Generation ใหม่กันแล้วก็เป็นได้

แหล่งข้อมูลอ้างอิง:


ข่าวอื่นๆที่น่าสนใจในรอบวัน:

Share this article
0
Share
0 Share
0 Tweet
0 Share
0 Share
Shareable URL
Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

0
Share