Starbreeze Studios ผู้พัฒนาเกม Payday ได้แถลงผลประกอบการในไตรมาสที่ 2 ของปี 2021 ออกมาอย่างเป็นทางการแล้ว (via. Gamesindustry.biz) โดยพวกเขามีรายได้ที่เพิ่มขึ้น 2.3 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบแบบปีต่อปีมาอยู่ที่ 3.6 ล้านเหรียญ โดยเป็นผลมาจากการวางจำหน่ายส่วนเสริมของ Payday 2 ที่ชื่อว่า City of Gold
โดยเกม Payday 2 ยังคงสร้างรายได้ให้กับทาง Starbreeze อย่างต่อเนื่องและเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมากในไตรมาสที่ 2 ที่ผ่านมา ซึ่งตัวเกมมียอดขายเกมบน Steam ที่เพิ่มมากขึ้น 22 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า
แต่อย่างไรก็ดีรายได้ก่อนคิดคำนวณ ดอกเบี้ย, ภาษี, ค่าเสื่อม, และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ของบริษัทกลับลดลงจาก 1.7 ล้านเหรียญมาเป็นติดลบ 5.9 ล้านเหรียญลดลง 434 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบปีต่อปี และรายได้ขาดทุนก่อนคำนวณภาษีของไตรมาสที่ผ่านมายังเพิ่มขึ้นถึง 832 เปอร์เซ็นต์มาอยู่ที่ 9.1 ล้านเหรียญเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าในช่วงเวลาเดียวกันที่อยู่ที่ 8.5 ล้านเหรียญ
โดยการขาดทุนในครั้งนี้เป็นผลมาจากการตัดสินใจครั้งเดียวของทาง Starbreeze ในการเซ็นสัญญาร่วมงานกับทาง PopReach ผู้พัฒนาเกมมือถือเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา เพื่อให้พวกเขาเข้ามารับช่วงต่อในการให้บริการและทำการตลาดเกม Payday Crime War หลังจาก NBC Universal ผู้ให้บริการเดิมได้ปิดตัวลงไปเมื่อปีที่แล้ว
อย่างไรก็ดีทาง Starbreeze ยืนยันว่าเกม Payday 3 ยังคงพัฒนาเป็นไปตามแผนที่วางเอาไว้ และยังคงมีกำหนดวางจำหน่ายในปี 2023 หลังจากที่ทางบริษัทได้มีการเซ็นสัญญาร่วมงานกับทาง Koch Media ให้เข้ามาทำหน้าที่ในการผลิตและจำหน่ายเกมเป็นมูลค่ากว่า 50 ล้านเหรียญเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา
