“ไซเบอร์พังก์” (Cyberpunk) กลายเป็นแนวเรื่องย่อยที่กลายเป็นที่รู้จักกันในวงกว้างไปแล้วนับตั้งแต่ที่เกม Cyberpunk 2077 ของ CD Projekt Red เริ่มได้รับความสนใจจากแฟนเกมทั่วโลกอันเป็นผลมาจากความสำเร็จของ The Witcher 3: Wild Hunt พร้อมกับทำให้เหล่านักพัฒนาเกมทั้งรายเล็กและรายใหญ่จำนวนมาก เริ่มกระโดดเข้ามาสร้างเกมในสไตล์ไซเบอร์พังก์กันมากขึ้นโดยเฉพาะในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา และ FORECLOSED ผลงานชิ้นใหม่ของทีมพัฒนาเกมอิสระอย่าง Antab Studio ก็ขอมาร่วมขบวนกับเขาด้วย หลังจากผลิตผลงานการเกมขนาดเล็กที่ไม่ได้รับการกล่าวถึงมานาน มันเป็นเกมแอ็กชันผจญภัยฝันใหญ่ ที่เต็มไปด้วยศักยภาพและความเป็นไปได้ แต่กลับไปไม่ถึงฝั่งฝันอย่างน่าเศร้าด้วยความโบราณที่สวนทางกับแนวเรื่อง และความสั้นที่น่าใจหาย
ในแวดวงเกมจากทีมพัฒนาอิสระ เกมแนวแอ็กชันผจญภัยในมุมมองบุคคลที่สาม เป็นเกมที่เราจะไม่ค่อยได้เห็นกันบ่อยนัก และเหล่านักพัฒนาเองก็มักจะหลีกเลี่ยงในการสร้างเพราะมันเป็นการยากที่จะสร้างเกมในรูปแบบนี้ให้ได้ตามมาตรฐานเกมในยุคปัจจุบันที่เหล่าค่ายเกมยักษ์ใหญ่ครอบครองตลาดอยู่ และมันยังเป็นเกมที่ต้องลงทุนลงแรงมากกว่าเกมประเภทอื่นเป็นอย่างมาก แต่ทาง Antab Studio ก็ยังคงเลือกที่จะให้ FORECLOSED เป็นเกมแอ็กชันผจญภัยที่เน้นการเล่าเรื่องในแบบที่ตลาดคุ้นชิน ที่มาพร้อมกับจุดขายที่แหวกแนวด้วยการนำเสนองานภาพและการเล่าเรื่องในนิยายภาพ แต่ก็น่าเสียดายที่จุดขายของมันยังไม่อาจชดเชยได้กับความโบราณที่เหมือนหลุดข้ามกาลเวลามาจากเมื่อ 20 ปีที่แล้ว
โลกเกมของ FORECLOSED เปิดฉากมาได้อย่างน่าสนใจ และก็ดูเหมือนว่าทีมงานจะได้รับแรงบันดาลใจมาจากภาพยนตร์อย่าง John Wick ไม่น้อยในการนำเสนอเรื่องราวเชิงลึกของโลกเกมโดยที่ไม่ต้องเล่าออกมาตรงๆ และยังผสมผสานเข้ากับเนื้อหาในสไตล์ล้างแค้นที่เหมือนจะได้รับแรงบันดาลใจมาจากเกมรุ่นพี่อย่าง Max Payne ไม่น้อยโดยเฉพาะการเล่าเรื่องในสไตล์นิยายภาพ และฉากบางฉากในเกมที่เหมือนจะได้รับแรงบันดาลใจมาเต็มๆ
ใน FORECLOSED ผู้เล่นจะได้รับบทเป็น “อีวาน แคปนอส” (Evan Kapnos) พนักงานของบริษัทรักษาความปลอดภัยยักษ์ใหญ่ที่ชื่อว่า Securetech ที่จู่ชีวิตอันปกติสุขของเขาก็กลับต้องพังทลายด้วยการล้มละลายของบริษัทอย่างเป็นปริศนา ส่งผลให้ตัวตนของอีวาน ซึ่งเป็นทรัพย์สินของบริษัทถูกอายัด (Foreclosed) จนทำให้เขาไม่สามารถเข้าถึงเครือข่ายและบริการต่างๆ ในโลกได้ และทางอีวาน ยังได้ถูกตามล่าโดยเหล่าองค์กรมือสังหารลึกลับในระหว่างที่เดินทางไปไกล่เกลี่ยคดีกับชั้นศาล จนทำให้อิมแพลนต์ที่ถูกฝังอยู่ในร่างกายมีความผิดปกติที่ทำให้เขากลายเป็นมนุษย์ที่มีความสามารถพิเศษที่เหนือกว่าคนทั่วไป และเรื่องราวการตามล่าหาความจริงและตัวตนของ FORECLOSED ก็ได้เริ่มต้นขึ้น
FORECLOSED หยิบยกประเด็นเรื่องตัวตนและความเป็นเจ้าของขึ้นมาเล่าได้อย่างน่าสนใจ และถึงแม้มันจะมีเกมไซเบอร์พังก์อยู่เต็มท้องตลาดแต่เราก็ไม่ค่อยได้เห็นเกมที่เล่าเรื่องราวในทำนองนี้นัก ที่ตัวตนของมนุษย์ได้กลายเป็นทรัพย์ของบริษัทยักษ์ใหญ่ในไซเบอร์พังก์ แต่ตัวเกมก็กลับเลือกที่จะไม่ลงรายละเอียดการเล่าเรื่องในส่วนนี้โดยปล่อยให้มันเป็นเพียงตัวขับเคลื่อนเรื่องราวของเกมเพื่อนำไปสู่ฉากจบเท่านั้น แต่ถึงแม้เส้นเรื่องของเกมจะจบสมบูรณ์ภายในตัวด้วยความยาวของตัวเกมที่แสนสั้นเพียงแค่ 3 ชั่วโมง มันก็น่าเสียดายที่รายละเอียดบางอย่างของมันถูกตัดทอนไปด้วยความเร่งรีบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวปูมหลังของอีวาน ที่ดูตื้นจนเกินไป ตัวละครสมทบที่เปิดปมทิ้งไว้อย่างค้างคา เพื่อกรุยทางหากทีมงานได้สร้างภาคต่อ รวมไปถึงการเล่าเรื่องราวฉากที่ดูเหมือนทีมงานจะหมดแรงในช่วงหลังจนเหลือเพียงแค่การตัวเลือก และการเล่าเรื่องเพียงแค่ไม่กี่ประโยคเท่านั้น โดยที่เหลือไว้แต่ฉากเท่ๆ ที่ทีมงานได้เตรียมเอาไว้มาตั้งแต่แรก
หากจะว่ากันตามตรงแล้ว FORECLOSED เหมือนเป็นเดโมที่ทางทีมงาน Antab Studio นำมาแสดงเสียมากกว่าการเป็นเกมเต็ม เพื่อแสดงให้เห็นว่าพวกเขาสามารถทำอะไรได้บ้างกับการเป็นเกมที่มาพร้อมกับการเล่นในสไตล์เกมแอ็กชันผจญภัยในรูปแบบมุมมองบุคคลที่สามในงบที่จำกัด ซึ่งส่งผลให้เกมมาพร้อมกับทุกองค์ประกอบที่เกมแนวนี้พึงมีไม่ว่าจะเป็นระบบการยิงต่อสู้ การลอบเร้น ระบบตัวเลือกการสนทนา ระบบการอัปเกรดตัวละคร และอื่นๆ ที่ถูกลดทอนคุณภาพด้วยทุนสร้างจนทำให้เกมมีความโบราณเกินกว่ายุคไปมากทีเดียว
สิ่งแรก FORECLOSED สร้างความประหลาดใจให้กับผู้เขียนเป็นอย่างมากก็คือตัวเกมไม่เหนียมอายที่จะเรียกตัวเองว่าเป็นเกมแอ็กชันได้อย่างเต็มปาก โดยแทนที่ตัวเกมจะเน้นไปที่การแก้ปริศนาเหมือนเกมจากทีมพัฒนาอิสระเกมอื่นๆ ตัวเกม FORECLOSED กลับประเดประดังเต็มไปด้วยฉากแอ็กชันที่ตัดสลับองค์ประกอบการเล่นในส่วนอื่นๆ อย่างเช่นการลอบเร้น และการค้นหาเส้นทางการไปต่อที่เป็นเหมือนมินิเกมสั้นๆ เพียงแค่มาประดับพอเป็นกระสาย ซึ่งระบบการต่อสู้เกมแม้จะเป็นจุดที่เป็นส่วนสำคัญในเกมการเล่นมากที่สุด แต่มันกลับมาพร้อมระบบที่การเล่นอันเก่าแก่ตกมาตรฐานเกมยุคปัจจุบันไปไกลโขจนไม่แน่ใจว่าเป็นความตั้งใจของทีมงานหรือไม่
พื้นฐานของเกม FORECLOSED คือการเป็นเกมยิงมุมมองบุคคลที่สาม โดยตลอดทั้งเกมผู้เล่นจะมีอาวุธให้ใช้งานเพียงอย่างเดียวเท่านั้นนั่นคือปืนสั้นประจำกายของอีวาน ที่สามารถอัปเกรดเพิ่มความสามารถได้ และมันก็ยังไม่ระบบที่เกมในสมัยนี้พึงมีอย่างการกระโดดข้ามกำแพง หรือแม้แต่การหลบเข้ากำบังในเกมก็ยังมาให้ใช้งานแบบถูลู่ถูกังเอาเสียมากๆ ซึ่งก็อาจจะเพราะทางทีมงานต้องการให้เกมมีความท้าทายด้วยขีดจำกัดของปัญญาประดิษฐ์ของตัวศัตรูที่ทีมงานสามารถทำได้ที่ทำให้มันแทบจะไม่สามารถสร้างกลยุทธ์การโจมตีใดๆ ได้เลยนอกจากการยืนยิงใส่ผู้เล่นเฉยๆ การหลบหลังกำบังแบบง่ายๆ และการเดินหน้าเข้าหาผู้เล่นเท่านั้น ซึ่งเกมก็ยังชดเชยความท้าทายเข้าไปอีกด้วยการทำให้ศัตรูเหล่านี้ที่ก็แทบจะไม่มีความหลากหลายอยู่แล้วมีความอึดที่อยู่เหนือมนุษย์มนา และปริมาณที่มากแทนที่คุณภาพตลอดทั้งฉากในเกมที่แทบจะเป็นเส้นตรงไปเสียทั้งหมด
สิ่งที่เกมแอ็กชันผจญภัยสมัยใหม่จะขาดไปเสียมิได้ ก็คงเป็นระบบการพัฒนาตัวละคร ซึ่ง FORECLOSED ก็ใส่เข้ามาแบบจำกัดจำเขี่ยด้วยขีดจำกัดในการเล่าเรื่องที่มีเวลาเพียงแค่ 3 ชั่วโมงกว่าๆ เท่านั้น มันจึงทำให้ระบบการพัฒนาตัวละครในเกมไม่ได้มีความซับซ้อน แต่ก็ไม่หลากหลายพอที่จะทำให้รู้สึกว่ามันจำเป็นต้องมี โดยตลอดทั้งเกมการเล่นตัวเกมจะปลดล็อกความสามารถพิเศษพื้นฐานสามชนิดมาให้ได้ใช้งานตามเนื้อเรื่องได้แก่ความสามารถในการแฮ็กที่ใช้สำหรับเปิดล็อกต่างๆ ในเกมที่จะมาพร้อมกับมินิเกมกดตามลูกศรให้เล่นแบบง่ายๆ ตามมาด้วยความสามารถโอเวอร์ฮีต ที่เปรียบเสมือนการ “เทคดาวน์” ในเกมอื่นๆ สำหรับใช้ในช่วงเวลาที่เกมเปิดโอกาสให้เราได้เล่นแบบลอบเร้น (ที่ก็มีไม่เยอะ) และสุดท้ายกับพลังในการเคลื่อนย้ายสิ่งของ (Psychokinesis) ที่ก็ไม่ได้ช่วยเพิ่มความหลากหลายในการต่อสู้นัก และยังไม่ได้ถูกนำมาใช้งานในส่วนของการแก้ปริศนาอย่างที่ควรจะเป็นอีกด้วย
นอกจากความสามารถพิเศษพื้นฐานทั้งสามแล้ว เกมยังมีการอัปเกรดความสามารถตัวละครที่ไม่มีความเกี่ยวโยงกับความสามารถทั้งสามแต่อย่างใด โดยในเกมผู้เล่นจะได้รับค่าประสบการณ์มาจากการสังหารศัตรู และการค้นหาแผงวงจรลับที่แอบซ่อนอยู่ตามฉาก ซึ่งจะทำให้ผู้เล่นได้มาซึ่งแต้มสกิลในการอัปเกรดความสามารถของอิมแพลนต์ต่างๆ ที่เหมือนจะมีอยู่มากแต่เอาเข้าจริงๆ แล้วมันก็มีการใช้งานที่ซ้ำซ้อนกัน เนื่องจากศัตรูที่ไม่มีความหลากหลาย ตัวอย่างเช่นเกมจะมีความสามารถในการยกศัตรูให้ลอย หรือจับศัตรูทุ่มกับพื้น ทั้งสองรูปแบบแทบจะไม่มีความแตกต่างกันเลย หรือความสามารถอย่างการสร้างคุกกระจกเพื่อบังวิสัยทัศน์การมองเห็นของศัตรูก็ดูจะไร้ประโยชน์เพราะสุดท้ายนอกจากมันจะทำให้เรายิงเข้าใส่ศัตรูไม่ได้แล้ว เกมยังมักบังคับให้เรากำจัดศัตรูให้หมดฉากเพื่อเปิดทางไปต่อด้วย และเกมยังจำกัดช่องสกิลให้ใช้งานพร้อมกันได้เพียงแค่สี่สกิลเท่านั้น
ซึ่งเกมก็ยังมีระบบการอัปเกรดปืนที่สามารถนำแต้มสกิลมาอัปเกรดความสามารถของมันได้ โดยจะจำกัดช่องการอัปเกรดที่สามารเลือกใช้งานได้สามพร้อมกันได้เพียงแค่สามช่องเท่านั้น ซึ่งการอัปเกรดอาวุธก็มีทั้งความสามารถที่ทำให้มันสามารถยิงรัวเป็นชุดได้ หรือยิงทะลุโล่พลังงานได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นการใช้อัปเกรดต่างกับสกิลความสามารถต่างๆ กลับปรับสมดุลออกมาได้แย่ด้วยการที่มันถูกผูกติดเข้ากับค่าความร้อนจากการใช้งานที่น้อยและไม่สมเหตุสมผล ตัวอย่างเช่นการใช้พลังอย่างการทำให้ตัวศัตรูระเบิดเพียงครั้งเดียวมันก็กินค่าความร้อนเกือบจะถึงขีดจำกัดแล้ว และหากผู้เล่นอัปเกรดปืนให้มันยิงด้วยความสามารถพิเศษต่างๆ และยิงต่อเนื่องเพียงไม่กี่ครั้ง มันก็จะทำให้ค่าความร้อนเกินจนทำให้ความสามารถที่ติดตั้งมาใช้ไม่ได้ชั่วคราว จนทำให้เกมการเล่นสะดุดจากการที่ บ่อยครั้งที่เราต้องคอยระวังค่าความร้อนจนเกินไป แต่ก็น่าประหลาดที่ส่วนผสมที่ดูพิกลพิการเหล่านี้กลับมอบความเพลิดเพลินได้อยู่พอสมควร ซึ่งก็น่าจะมาจากความท้าทายที่เต็มไปด้วยขีดจำกัดต่างๆ เหมือนกับเกมในสมัยก่อน
กราฟิกและการนำเสนอของ FORECLOSED น่าจะเป็นจุดขายของเกมก็ว่าได้ท่ามกลางระบบการเล่นอันแสนโบร่ำโบราณ FORECLOSED ทำให้ชื่อเกม XIII กลับมาปรากฏในหัวของผู้เขียนอีกครั้งด้วยการนำเสนอในสไตล์นิยายภาพที่มีความคล้ายคลึงกัน และมันก็ได้ยกระดับขึ้นไปอีกด้วยการเติมแต่งความเป็นพลวัตเข้าไปในฉากที่เป็นการแบ่งช่องแบบการ์ตูน แม้เกมจะไม่ได้มีรายละเอียดแต่ทีมงานก็เลือกสรรการจัดวางองค์ประกอบภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพและใช้จุดขายในส่วนนี้ได้อย่างดีเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นฉากแอ็กชันไล่ล่าที่เกมจะมีการตัดฉากไปเล่าเรื่องผ่านมุมมองแบบกล้องส่องทางไกล ฉากสนทนาโต้ตอบกับตัวละครที่มาพร้อมกับระบบการเลือกบทสนทนาผ่านช่องคำพูดการ์ตูน หรือฉากการลอบเร้นที่จะมีการตัดฉากไปเล่าจากมุมมองระยะไกล แม้มุมมองในบางฉากจะสร้างความยากลำบากให้กับเกมการเล่นไปบ้างแต่ด้วยการที่เกมมีเวลาในการเล่าเรื่องเพียง 3 ชั่วโมงมันก็ไม่ได้ชวนน่ารำคาญมากนัก เพลงประกอบในเกมเองก็ถือว่าทำออกมาได้ตามมาตรฐานเกมไซเบอร์พังก์ที่แต่ก็ไม่ได้โดดเด่นจนเป็นที่น่าจดจำนัก
FORECLOSED เป็นเกมจากทีมพัฒนาอิสระที่เต็มไปด้วยความทะเยอทะยาน มันพยายามอย่างเต็มที่ในการที่จะเป็นเกมแอ็กชันผจญภัยเต็มรูปแบบเท่าที่ทุนสร้างและความสามารถของทีมงานจะทำได้ ด้วยการนำเอาองค์ประกอบต่างๆ มาร้อยเรียงกันได้อย่างครบถ้วนได้อย่างไม่ขาดตก มันกลับฉาบด้วยงานภาพและการนำเสนอที่มีความแปลกแต่ก็ยังไม่โดดเด่น ทั้งยังพิกลพิการด้วยเกมการเล่นที่มีความโบราณไปไม่บ้าง แต่ถึงกระนั้นมันก็ยังให้รสชาติที่กลมกล่อมด้วยเวลาในการเล่นอันแสนสั้น และยังพอจะทำให้เราได้เห็นเค้าลางศักยภาพในตัวของทีมพัฒนาอีกด้วยว่า หากได้ทุนสร้างและเวลาที่มากกว่านี้พวกเขาก็พร้อมจะทำเกมที่ตามยุคสมัยทันได้อย่างนอน