การ ‘ควบคุม’ ความบิดผันของธรรมชาติ และรัฐสอดแนม กับ Control

หมายเหตุ: บทความนี้ไม่ใช่การรีวิวตัวเกม Control
หมายเหตุ 2: บทความนี้มีการเปิดเผยเนื้อหาบางส่วนของเกม

หากโลกนี้เป็นเพียงรูปกระดาษแนบผนัง ขอบสี่เหลี่ยมผืนผ้า รูปทรงดุจดังกรงเหล็กอันคุมขังความหยั่งรู้ของมวลมนุษย์เอาไว้ ภายใต้กระดาษใบนั้น สิ่งอันใดที่เราหารู้ไม่อาจซ่อนอยู่ และบางครั้งมันก็คืบคลานออกมาพานพบ ปะทะกับมนุษย์ผู้ทะนงตนว่าล้วนได้ครอบงำธรรมชาติเอาไว้โดยสมบูรณ์ ไม่ต่างจากห้องขังเช่นเดียวกัน

เหล่าลิงสองขาหน้าไร้ขนเอ๋ย เมื่อเจ้าถูกสั่นคลอนกรงเหล็กของเจ้าที่ภูมิใจนักหนาแล้ว เจ้าจะจัดการกับความผันแปร ไร้ความแน่นอนได้อย่างไร เมื่อความมั่นคงที่เคยคิดว่าเสถียรภาพโดยสมบูรณ์แล้ว กลับเป็นเพียงมโนทัศน์อันน่าอดสูเท่านั้น

วิดีโอตัวอย่างสุดท้ายก่อนวางจำหน่ายเกม

มั่นคงปะทะบิดผัน

‘ควบคุม’ หรือ Control เปิดมาด้วยคำพูดที่เสียดแทงความคิดตั้งต้นที่ค้างคาอยู่ในใจของมนุษย์จำพวกพกความฉงน สงสัยใคร่รู้ ในสิ่งที่อยู่เบื้องหลังรูปภาพอันถูกปกปิดไว้โดยมิดชิด ภาพดังกล่าวนั้น สำนักงานการควบคุมกลาง (Federal Bureau of Control) เป็นสิ่งเดียวที่คอยขวางกั้นความจริงไว้อย่างแน่นหนา เหตุเพราะว่าประวัติศาสตร์ที่เคยสั่งสมบทเรียนในเรื่องราวเหนือธรรมชาติ เมื่อมนุษย์ได้สัมผัสกับเรื่องราวเหนือความเข้าใจ เราจะกลับไปเป็นยุคกลางที่เต็มไปด้วยการใช้ความเชื่อนำค้ำจุนโลก ความวุ่นวายจักกลับมา จึงจำเป็นต่อการควบคุมให้จงดี

โดยพฤติกรรมของมนุษย์ มักคุ้นและลำพองว่าตนเองนั้นควบคุมสิ่งใด ๆ ไว้ในกำมือได้อย่างเบ็ดเสร็จ เด็ดขาดจากความผันแปรของธรรมชาติ ที่ไม่มีความแน่นอน ไร้ซึ่งรูปแบบ เป็นรูปธรรมอย่างชัดเจนที่สุดของแนวคิดดังกล่าวใน Control ปรากฏในรูปแบบของการเลือกใช้สถาปัตยกรรม Brutalist (Brutalist Architecture) กับ ‘ที่พำนักยอดอาวุโส’ (Oldest House) สถานที่ตั้งของสำนักงานการควบคุมกลาง ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมที่นำเสนอแนวคิดของความกระด้างกระเดื่อง มั่นคง มีระเบียบ ไร้ซึ่งการผันแปร เป็นปรปักษ์กับธรรมชาติอย่างยิ่งยวด นอกจากนั้นยังรวมไปถึงกระบวนการ, วิธีการและการจำแนกหมวดหมู่อย่างเป็นระเบียบของสำนักงานการควบคุมกลางอีกเช่นกัน

พวกเขาต้องการควบคุม ไม่ได้ต้องการเข้าใจ

ดอกเตอร์ Underhill อีกหนึ่งตัวละครสำคัญใน Control กล่าวได้อย่างเฉียบคม ชำแหละชุดความคิดของสำนักงานการควบคุมกลางอย่างหมดเปลือก ล่อนจ้อน แต่เมื่อการควบคุมดังกล่าว มันไม่ใช่การควบคุมสิ่งที่เป็นธรรมชาติ อันถือว่ามนุษย์ได้กำราบเด็ดขาด แต่มันคือสิ่งที่อยู่ ‘เหนือ’ ธรรมชาติ เมื่อธรรมชาติมันไร้ความแน่นอน แต่สิ่งที่อยู่เหนือธรรมชาติมันทั้งไร้ความแน่นอนและไร้ความเข้าใจ หยั่งถึง มนุษย์ก็ยังไม่ละทิ้งความเป็นตัวเอง ยังคงต้องการที่จะควบคุมมันอยู่ร่ำไป

Control-jesse-03
จงอย่าหลุดการควบคุม

แต่หากความเจ็บแสบของเรื่องราวดังกล่าว แม้การที่มนุษย์จะพยายามควบคุมมันสักเท่าไร ความบิดผันก็ยิ่งรุนแรงขึ้นเท่านั้น และไม่เคยที่จะยอมอ่อนน้อมภายใต้ความอหังการของชาติพันธุ์นี้ แม้กระทั่งพำนักยอดอาวุโสอันเป็นป้อมปราการเดียวของผู้ที่ขึ้นชื่อได้ว่าเป็นผู้ที่พยายามกำราบความเหนือธรรมชาติอย่างสำนักงานการควบคุมกลาง ก็เป็นสถานที่แห่งพลัง (Place of Power) ซึ่งเป็นหนึ่งในสิ่งเหนือธรรมชาติ และถึงแม้ว่าตนคิดว่าจักควบคุมที่พำนักเหนือธรรมชาติให้แน่นิ่ง สกัดการบิดผันของรูปร่างตึก (Building Shift) จากการใช้คลื่นความถี่ในย่านพิเศษในจุดควบคุม (Control Point) แต่ก็มีปัจจัยแห่งความไม่แน่นอน เหนือความคาดหมายอย่างพวกกังวานทมิฬ (The Hiss) มาพรากการควบคุมในท้ายที่สุด

แท้ที่จริงแล้วเราจึงตระหนักได้ว่า เราไม่สามารถควบคุมสิ่งใดได้อย่างเด็ดขาด ปราศจากการบิดผัน ตามครรลองของธรรมชาติที่เราต้องการเอาชนะ ท้ายที่สุดปัจจัยอันเหนือความคาดหมายก็เข้ามาแทรกแซง ปั่นป่วนให้การควบคุมที่มนุษย์อย่างเรา ๆ แสนจะมั่นใจกับมันหนักหนา หลุดลอยไปอย่างไร้ทิศทางอยู่ดี

สารัตถะของรัฐสอดแนม

อีกความน่าสนใจของกระบวนการควบคุมของสำนักงานการควบคุมกลาง เป็นการควบคุมที่มีกระบวนการ ‘ผ่านการคิดมาดีแล้ว’ อย่างยิ่งยวด แต่ ‘ไม่เหนือความคาดหมาย’ เมื่อขึ้นชื่อว่าการควบคุม ‘การสอดแนม’ จึงเป็นเรื่องพื้นฐานที่สุดของกระบวนการดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นการเข้าถึงข้อมูลส่วนตัว หรือการบังคับสูญหาย เพื่อให้ได้ถึงข้อมูลของเหล่าอุบัติการณ์อันถูกบิดผัน (Altered World Event) ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของทุกเหตุการณ์เหนือธรรมชาติทั้งหมดทั้งปวง

ไม่เพียงแต่การสอดแนม ‘การบิดเบือน’ เป็นอีกแก่นหลักของการควบคุม เราเห็นที่ชัดเจนที่สุดก็คือรายการ อเมริกาย่ำรุ่ง (America Overnight) เป็นรายการที่สำนักงานการควบคุมกลางทำขึ้นเพื่อบิดเบือนเหล่าไพร่ฟ้าหน้าใสหัวใจหมกมุ่น (หรือตาสว่าง?) กับเรื่องราวของเหตุการณ์เหนือธรรมชาติที่ถูกปกปิดมาเป็นเวลาช้านาน พวกเขา สำนักงานการควบคุมกลางจักทำลายทุกข้อมูล ทุกความเชื่อ ให้แหลกคารายการ แต่ก็เป็นการสอดแนมนำข้อมูลที่ได้มาในเวลาเดียวกัน ร้ายกาจเสียนี่กระไร

Control-jesse-04
เธอต้องเผชิญกับเรื่องราวที่อยู่หลัง ‘ภาพ’

การที่สำนักงานการควบคุมกลางใช้ทุกวิถีทางในการสอดแนม เป็นการละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐานในเรื่องความเป็นส่วนตัวของประชาชน รวมไปถึงจำกัดสิทธิอันพึงมีของประชาชน มิได้ต่างจากรัฐสอดแนม (surveillance state) แต่อย่างใด แม้ว่าจะใช้แห่งผลที่สวยหรูดูน่าฟังว่า ‘เพื่อความสงบสุข เรียบร้อย ของประชาชน’ อย่างพันธะกิจของสำนักงานการควบคุมกลางที่กล่าวไว้ว่าไม่ต้องการมนุษย์ต้องย้อนกลับไปในยุคที่ถูกครอบงำและมอมเมาไปด้วยความเชื่อเป็นใหญ่ หยิบยกมันมาอ้างเป็นความชอบธรรม จากกระบวนการอันขัดต่อกฎหมายสูงสุด อย่างสำนวนที่ใช้นิยามเรื่องรัฐสอดแนมได้ชัดเจน ตรงประเด็นที่สุด

ผลลัพธ์อันยอดเยี่ยมแต่งแต้มความชอบธรรมแด่วิธีการอันยอดแย่ (The end justifies the means.)

ซึ่งเมื่อเรากล่าวถึงรัฐสอดแนม Control เปลือยตัวต่อเจตนาที่แท้จริงในการนำเสนอ สิ่งต้องการจะสื่ออย่างชัดเจนที่สุดก็สามารถพบพานได้จากเรื่องของอเมริกา ประเทศอันเป็นที่ตั้งของสำนักงานการควบคุมกลาง เปรียบเปรยอย่างตรงไปตรงมากับกรณีสภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ (National Security Agency) จากเหตุอันอื้อฉาวของคุณ Edward Snowden และกรณีที่แม้ว่าจะไม่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลโดยตรง แต่เกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวโดยตรงอย่างกรณี Cambridge Analytica ของ Facebook ซึ่งไม่ต่างจากคุณ Jesse Faden ตัวเอกหลักใน Control ซึ่งได้ไป ‘เปิดโลก’ กับการกระทำไร้ขอบเขตแห่งความละอายต่อใจและกฎหมายของสำนักงานการควบคุมกลาง ด้วยตัวเอง

ในกรณีของคุณ Edward Snowden เขาเคยเป็นนักวิเคราะห์ข้อมูลของสภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐอเมริกา ได้ออกมาเปิดเผยว่าทางรัฐบาลสหรัฐอเมริกาทำการสอดแนมข้อมูลส่วนตัวของพลเรือน โดยโครงการลับของรัฐบาล นามว่า ‘PRISM’ ซึ่งเป็นโปรแกรมตรวจจับข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ ดำเนินการโดยสภาความมั่นคงแห่งชาติ ตัวโปรแกรมจะทำงานโดยการตรวจจับการติดต่อสื่อสารแบบวิต่อวิ เพื่อระบุตำแหน่งของเป้าหมายจากในและนอกประเทศ รวบรวมข้อมูลในทุกรูปแบบ

Control-jesse-03
คุณ Edward Snowden (รูปจาก: Learn Liberty)

ส่วนกรณี Cambridge Analytica ของ Facebook เป็นเรื่องราวของ ดอกเตอร์ Aleksandr Kogan ผู้สร้างแอปพลิเคชัน thisisyourdigitallife นำข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้จากผู้ใช้แอปพลิเคชันดังกล่าว ไปขายให้ Cambridge Analytica บริษัทวิจัยข้อมูล ที่มีวัตถุประสงค์นำไปใช้ในทางการเมือง ทาง Facebook แจ้งให้ทำลายข้อมูลดังกล่าวทิ้ง ซึ่งทาง Cambridge Analytica ก็ยินยอมแต่โดยดี แต่มาปรากฏในภายหลังว่า Cambridge Analytica ยังไม่ได้ทำลายข้อมูลแต่อย่างใด

ฉันนึกว่าฉันระแวงไปเองนะเนี่ย

เธอ Jesse กล่าวเมื่อพบว่าสำนักงานการควบคุมกลางได้สอดแนม ถึงตัวเธอมาเป็นระยะหนึ่งแล้ว

และสิ่งที่น่าขันก็คือ ในความที่เป้าหมายหลักของสำนักงานการควบคุมกลาง คือการควบคุม แต่เจ้าตัวพยายามทำตัวให้ไม่ถูกควบคุมเสียเอง จากการตรวจสอบโดยทางรัฐบาลที่เป็นอู่ข้าวอู่น้ำในด้านงบต่าง ๆ รวมไปถึงประชาชนเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการพยายามใช้งบที่ได้มาจากการสนับสนุนของรัฐบาลให้น้อยที่สุด ไม่เรียกร้องอะไรเกินตัว เพื่อที่จะไม่เตะตาต้องใจจากรัฐบาล หลีกเลี่ยงจากการถูกตรวจสอบและแทรกแซง เพื่อที่พวกเขาจะทำอะไรก็ได้ตามใจต้องการ และการใช้ที่พำนักยอดอาวุโสเพื่อหลบหลีกการต้องตาของประชาชนละแวกนั้น การทำตัวให้อยู่เหนือการตรวจสอบ เป็นสิ่งที่เรามักคุ้นเสียเหลือเกิน เพราะมิใช่แค่เพียงประเทศอเมริกา

เรื่องราวของรัฐสอดแนมก็มีความเกี่ยวโยงกับสถานการณ์ในบ้านเราอย่างปฏิเสธไม่ได้เช่นกัน

แหล่งข้อมูลอ้างอิง:

ผู้ตรวจทาน:

  • ลุงไผ่ Sukit Buranasun
Share this article
0
Share
0 Share
0 Tweet
0 Share
0 Share
Shareable URL
0
Share