ท่ามกลางกระแสสังคมที่กำลังกล่าวหาวิดีโอเกมว่าเป็นต้นเหตุของความรุนแรง แต่สิ่งที่ Level Ex บริษัทนักพัฒนาเกมกำลังทำอยู่ คือการหาวิธีการในทำความเข้าใจในร่างกายของตัวมนุษย์ ด้วยการสร้างวิดีโอเกมขึ้นมาเพื่อให้แพทย์ และศาสตราจารย์ด้านเวชศาสตร์ได้ฝึกฝนและทำการทดลองมาตรการอันซับซ้อนในการที่จะรับมือกับสุขภาพของนักบินอวกาศสำหรับการปฏิบัติภารกิจที่มีความยาวนาน ตัวอย่างเช่นการไปยังดาวอังคารอยู่ในตอนนี้
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาทาง Level Ex ได้ออกมาประกาศแล้วว่าพวกเขาได้รับอนุญาตในการเข้าถึงข้อมูลที่ไม่มีการเปิดเผยเป็นจำนวนมากจากทางสถาบัน “Translational Research Institute for Space Health” (TRISH) องค์กรที่อยู่ในเครือของวิทยาลัย Baylor College of Medicine’s Center for Space Medicine ที่ได้รับเงินทุนสนับสนุนจากทางโครงการ Human Reserch Program ของทาง NASA ซึ่งในการอนุญาตให้เข้าถึงครั้งนี้ ยังได้รวมไปถึงการสนับสนุนเงินทุนให้กับทาง Level Ex ในการสร้างแบบจำลองเสมือนจริงที่จะใช้ในการแสดงผลว่ามาตรการทางเวชศาสตร์นั้นจะส่งผลต่อกายวิภาคของมนุษย์อย่างไรระหว่างบนพื้นโลกและบนอวกาศอีกด้วย โดยทางบริษัท Level Ex ได้หวังไว้ว่าพวกเขาจะสามารถสร้างวิดีโอเกมทางด้านการแพทย์ที่จะช่วยเหลือเหล่านักบินอวกาศในการรับมือกับสภาพการณ์ทางสุขภาพที่อาจพบเจอในขณะที่กำลังอยู่ในอวกาศได้นั่นเอง
และเบื้องหลังของการแนวคิดในการสร้างเกมของทาง Level Ex นี้ก็มาจากคุณ Sam Glassenberg, CEO ของบริษัทนั่นเอง ซึ่งเขาเองก็ได้อยู่ในวงการอุตสาหกรรมเกมมาเป็นเวลาสองทศวรรษแล้วในการสร้างเกม Star Wars มากมายให้กับทาง LucasArts และยังเคยเป็น CEO ของ Funtactic จนกระทั่งมันได้ถูกเข้าซื้อกิจการไปโดย Playtech บริษัทผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ที่เกี่ยวกับการพนันในรูปแบบออนไลน์
“วงการเกมทำเหมือนกับผมเป็นแกะดำสำหรับพวกเขา” คุณ Sam Glassenberg กล่าวในระหว่างการให้สัมภาษณ์กับทาง Forbes “เพราะผมเป็นคนที่มาจากสายป่านทางด้านแพทย์” บิดาของคุณ Glassenberg นั้นเดิมทีแล้วเขาเป็น “วิสัญญีแพทย์” และเป็นผู้ที่แนะนำให้ Glassenberg สร้างวิดีโอเกมขึ้นมาเพื่อช่วยเหลือเพื่อนร่วมของของคุณพ่อของเขาในการหามาตรการทางการแพทย์ที่ซับซ้อนและมันก็กำลังจะเป็นจริงในเร็วๆ นี้ โดยในตอนนี้ Level Ex นั้นมีบุคลากรทางการแพทย์กว่าครึ่งล้านที่กำลังเล่นเกมที่แตกต่างกันไปอยู่
“เรากำลังเก็บรวบรวมสิ่งที่ยากที่สุด สิ่งที่พบเจอได้น้อย และเคสที่ท้าทาย และเราก็กำลังทำให้มันกลายเป็นเลเวลของเกมที่สามารถปฏิสัมพันธ์ได้อย่างครบวงจร”
แต่สำหรับเรื่องของอวกาศมันก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ต้องยกระดับขึ้นไป ร่างกายของมนุษย์จะมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากในอวกาศเพราะความแตกต่างของระดับแรงโน้มถ่วงที่แตกต่างกัน การแผ่รังสีที่มากขึ้น และการเปลี่ยนแปลงของนาฬิกาชีวภาพ และปัญหาที่มากไปว่านั้นก็คือ ปกติแล้วนักบินอวกาศจะสูญเสียมวลของกระดูกและกล้ามเนื้อในสภาวะที่มีแรงโน้มถ่วงน้อยในยานอวกาศด้วย อวัยวะเองก็มีการเคลื่อนที่ของร่างกายที่แตกต่างกัน และยังมีการเปลี่ยนแปลงของของเหลวภายในร่างกายที่สามารถทำให้เกิด “ภาวะการเพิ่มของแรงกดดันในกะโหลกศีรษะ” และปัญหาทางด้านการมองเห็นอีกด้วย แม้แต่หัวใจเองก็จะมีการเปลี่ยนรูปทรงไปในอวกาศเช่นกันโดยมีจะมีการเปลี่ยนแปลงจาก “ทรงรี” ไปเป็น “ทรงกลม” มากขึ้น ทั้งหมดทั้งปวงนี้ทำให้การปัญหาทางการแพทย์ที่ปกติมีความยากลำบากที่มากขึ้นกว่าเดิม
และมันก็จะอยากยิ่งขึ้นหากมันเป็นการภารกิจ deep space mission ตัวอย่างเช่นการเดินทางไปยังดาวอังคาร ในระยะเวลาสั้นๆ “ร่างกายของมนุษย์จะมีการปรับตัว” คุณ Aenor Sawyer แพทย์ออร์โธปิดิคส์ และผู้อำนวยการของ UCSF Skeletal Health Service และหัวหน้าฝ่าย Health Innovation ของ TRISH อธิบาย “แต่สำหรับการปฏิบัติภารกิจที่ยาวนาน มันก็ไม่แน่ชัดว่าร่างกายของมนุษย์จะสามารถฟื้นฟูสภาพคืนมาได้”
การปฏิบัติภารกิจ deep space ยังมาพร้อมกับปัญหาอื่นๆ อีกเช่นการสื่อสารที่ทำได้ล่าช้า ตัวอย่างเช่นหากนักบินอวกาศบน International Space Station (ISS) ต้องการที่จะพูดคุยกับแพทย์ พวกเขาก็จะสามารถสื่อสารผ่านกันได้โดยมีการเหลื่อมของเวลาเพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้นขึ้นอยู่กับตำแหน่งของสถานีบนภาคพื้นดิน ซึ่งทำให้แพทย์สามารถแนะนำและแก้ไขปัญหาทางด้านสุขภาพที่มีความวิกฤตได้ทันที แต่สำหรับระยะของยานอวกาศที่ไกลออกไปมันก็จะมาพร้อมกับความล่าช้าของการสื่อสารระหว่างลูกยานและการสนับสนุนทางภาคพื้นดินที่มากขึ้น การเดินทางไปยังดาวอังคารนั้นจะส่งผลให้มีความเหลื่อมของเวลากว่า 40 นาที ซึ่งมันเป็นเวลาที่มากพอจะทำให้เกิดเหตุฉุกเฉิน และเพิ่มความเสี่ยงมากขึ้นไปอีกหากไม่มีแพทย์ที่ได้ถูกฝึกฝนมาบนยาน
นั่นจึงทำเป็นที่มาของ Level Ex คุณ Aenor Sawyer กล่าว “การทำแบบจำลองนี้จะส่วนให้นักบินอวกาศสามารถบริหารจัดการทางด้านเวชศาสตร์ได้” และเธอก็วาดภาพเอาไว้ว่าเหล่านักบินจะใช้เกมๆ นี้ในการฝึกฝนภาคพื้นดิน และยังช่วยเสริมทักษะของพวกเขาได้ผ่านทางโทรศัพท์มือถือ หรือแท็บเล็ตได้ในระหว่างที่กำลังเดินทางออกไปยัง outer space และยังจะช่วยให้เห็นภาพของสิ่งที่เกิดขึ้นเพื่อช่วยในการให้คำแนะนำการรักษาปัญหาสุขภาพได้อย่าง real-time ตลอดเวลาอีกด้วย
ตัวอย่างเช่นหากสมาชิกของลูกเรือที่กำลังเดินทางไปยังดาวอังคารเกิดอาการหัวใจวายขึ้นมา Level Ex ก็จะทำการจำลองภาพขึ้นมาแสดงที่หน้าจอเพื่อแสดงให้ลูกเรือคนอื่นเห็นตามสิ่งที่เกิดขึ้นจริงว่าควรจะอยู่วางตัวอยู่ในตำแหน่งไหนในสภาพแรงโน้มถ่วงต่ำเพื่อเพื่อให้สามารถส่งแรงดันไปยังหน้าอกในระหว่างการทำ CPR ได้ดีที่สุด
โดยในตอนนี้ตัวโปรเจกต์ยังอยู่ในช่วงเริ่มแรกของการพัฒนา โดยในปีนี้เป็นปีแรกซึ่งจะเป็นการพิสูจน์คอนเซปต์ต่างๆ จากการบอกเล่าของคุณ Sawyer และจะเริ่มมีการพัฒนา framework สำหรับการจำลองมนุษย์ในอวกาศในปลายปีนี้จากการยืนยันของคุณ Glassenberg ซึ่งทาง Level Ex จะทำการศึกษาและทำการระบุกุญแจสำคัญของก้าวต่อไปในการสร้างแบบจำลองทางด้านการแพทย์ที่แตกต่างกันที่มีความซับซ้อนมากขึ้น ซึ่งบางทีแบบจำลองนี้อาจจะมีความแม่นยำที่มากพอที่จะสามารถคาดคะเนและวิเคราะห์ปัญหาเพื่อหาเครื่องมือทางด้านการแพทย์ที่ดีที่สุดสำหรับสภาวะในอวกาศต่างๆ ได้
นักบินอวกาศจะไม่ใช่วิชาชีพเดียวที่ได้ประโยชน์จากเทคโนโลยีนี้ “ทั้งหมดทั้งปวงนั้นจะถูกแปรเปลี่ยนมาเพื่อแก้ปัญหาบนโลก” คุณ Sawyer กล่าว “มันจะช่วยในการเข้าถึงการรักษาพยาบาลให้เข้าถึงได้มากขึ้นได้ในแถบชนบท” หรือในพื้นที่ที่ถูกตัดขาด ปัญหาทางสุขภาพที่เกิดขึ้นในอวกาศเองมีความคล้ายคลึงกับปัญหาที่เกิดขึ้นบนโลก คุณ Sawyer ได้ยกตัวอย่างหนึ่งขึ้นมาเช่น ความท้าทายในการป้องกันการสูญเสียของมวลกระดูกในขณะที่ไม่สามารถทำการเดินได้อย่างปกติเช่นใน สภาพแรงโน้มถ่วงต่ำ หรือสิ่งที่เราพบเห็นกันเป็นอย่างมากเช่นการใช้วีลแชร์นั่นเอง และยิ่งไปว่านั้นคุณ Glassenberg ยังหวังอีกด้วยว่าเกมของ Level Ex นั้นจะช่วยกระตุ้นด้านเวชศาสตร์ให้มีสิ่งใหม่ๆ ที่น่าสนใจมากขึ้นทั้งบนอวกาศและบนโลกอีกด้วย
แหล่งข้อมูลอ้างอิง: