บ่อยครั้งที่อาการทางจิตนำไปใช้ในสื่อต่าง ๆ รวมถึงวิดีโอเกม สำหรับการสร้างตัวละคร เติมแต่งแรงจูงใจ สร้างตรรกะความคิดให้ดูสมเหตุสมผลกับการกระทำที่ถูกสื่อออกมา ซึ่งล้วนถูกอัดแน่นไปด้วยความ ‘บ้า’ อย่างสุดขีด แต่หาได้ถูกต้องตรงกับความเป็นจริงของอาการในทางแพทย์แต่อย่างใด
ไม่ว่าจะเป็นความสะเพร่าหรือความจงใจของมือเขียนบทก็ตาม
เรื้อนอย่างไร้สารัตถะ
“เราจะผละตัวออกจากอาการทางจิตที่ค่อนข้างออกไปทางความ ‘บ้า’” คุณ Brian Mitsoda มือเขียนบท Vampire: The Masquerade – Bloodlines 2 เขาต้องการจะสำรวจและเคารพต่ออาการเหล่านี้อย่างจริงจัง เขาได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว Gamesindustry.biz โดยคุณ David O’Keefe นักเขียนในสำนักข่าว กับแนวคิดการนำเสนออาการทางจิตในวิดีโอเกมให้ซื่อตรงกว่าที่สื่อปัจจุบันใช้กันอย่างไร้ความรับผิดชอบ
โดยอาการทางจิตในวิดีโอเกมเราได้เห็นอยู่เป็นเรื่องปกติ อย่างเช่นในเกม Indigo Prophecy ในฉากโรงพยาบาลทางจิตเวช ที่ถูกนำเสนอราวกับเป็นเรื่องสยองขวัญ หรืออย่างใน World of Warcraft ที่แรงขับดันของฝ่ายตัวร้าย ล้วนมาจากความ ‘บ้าคลั่ง’ ทั้งสิ้น รวมไปถึงเกมที่เขาเคยเขียนบทให้เช่นกัน อย่าง Vampire: The Masquerade – Bloodlines กับ กลุ่ม Malkavian ที่เป็นกลุ่ม vampires ที่มีปัญหาป่วยทางจิต จากคำสาปของ Caine กับประโยคขึ้นหิ้ง (ในแง่ลบ) “วันนี้มึงได้สร้างศัตรูสุดแกร่งขึ้นมาแล้ว ไอป้ายเวร” ป้ายที่ว่าก็คือป้ายสัญญาณจราจรนั้นเอง
ในภาคดังกล่าวล้วนเต็มไปด้วยมุกตลกเรื้อนจาก Malkavian ซึ่งบทพูดบ้าบออันโดนผู้เล่นบางส่วนรุมต่อว่า ใช้ระยะเวลาสั้น ๆ ในการเขียนเท่านั้น “ผมคิดว่าควรใช้เวลาในการพัฒนา [ตัวละคร] มากกว่านี้ แต่การนำเสนอในภาคแรกมันมีสาเหตุจากการที่ต้องนำพวกเขา [Malkavian] ออกมาให้ไว” คุณ Mitsoda กล่าวต่อ “ผมคิดว่าผู้เล่นยังคงสนุกกับประสบการณ์ที่มีเอกลักษณ์ แต่ผมไม่คิดว่าพวกเขาเป็นการนำเสนอที่ยอดเยี่ยมของอาการจิตเภท และไม่ควรถูกนำเสนอแบบนี้”
หลังจากค่าย Troika ปิดตัวลง คุณ Mitsoda ก็ออกไปเก็บประสบการณ์ ทั้งกับค่าย Obsidian ร่วมพัฒนาเกมที่ถูกยกเลิกการพัฒนา อย่าง New Jersey รวมไปถึงการร่วมพัฒนาระบบบทสนทนา, เขียนบท และการออกแบบตัวละคร ใน Alpha Protocol แต่สุดท้ายผลงานของเขาก็ถูกยกเลิกไปเสียทั้งหมด “ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อไป ผมไม่มีส่วนรวมกับเกม Alpha Protocol ที่กำลังถูกพัฒนาอยู่ตอนนี้” ถ้อยแถลงจากเขา ในช่วงที่เขาออกจากโครงการ และต่อมาเขาก็ไปอยู่กับทีม DoubleBear Productions พัฒนาเกม Dead State จากนั้นก็ไปทำงานรวมกับทีม inXile Entertainment เขียนบทให้กับเกม Torment: Tides of Numenera และปัจจุบัน สิบห้าปีผ่านไป ในที่สุดเขาก็ได้กลับมาทำโครงการขึ้นหิ้งของเขา และแก้มือต่อบางสิ่งที่เขาทำพลาดไปในภาคแรก ลงในเกม Vampire: The Masquerade – Bloodlines 2
นำเสนออาการทางจิตอย่างซื่อตรง
“ผมคิดว่าผมรู้สึกเบื่อกับตัวละครที่มีพฤติกรรมรุนแรง, เกินจริง หรือแปลกประหลาด ที่ถูกปล่อยปละละเลย ‘อืม พวกเขาบ้า’ นั้นมันเป็นเพียงความขี้เกียจ [ในการเขียนตัวละคร] ผมยังคงเห็นมันในภาพยนตร์, วิดีโอเกม และโทรทัศน์ อยู่ตลอดเวลา” ในการกลับมาเขียนบทครั้งนี้ คุณ Mitsoda ต้องการนำเสนอถึงอาการทางจิตกับเหล่า Malkavian ให้ลุ่มลึกและตรงกับทางการแพทย์มากกว่าเดิม
Malkavian เป็นหนึ่งในสิบสามกลุ่ม vampire หลักในจักรวาล World of Darkness พวกเขาเป็น vampire ที่มีปัญหาป่วยทางจิต ประสบความทุกข์ทรมานด้วยความบ้าคลั่งสุดขีด ซึ่งผันผวนไปในแต่ละบุคคล แต่ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาเขลาเบาปัญญาและไม่มีความเฉียบคมทางความคิด คุณสมบัติของความบ้าคลั่ง แต่หลั่งล้นไปด้วยความฉลาดหลักแหลม การประสานของทั้งสองอย่าง เป็นหนึ่งในพลังเหนือธรรมชาติ (Disciplines) เฉพาะกลุ่ม Malkavian ที่เรียกว่า Dementation และนั้นก็เป็นสัญลักษณ์ของความเป็น Malkavian
ซึ่งในอาการทางจิตที่พวกเขาต้องเจออย่างเต็มเหนี่ยว แบกรับต่อสิ่งที่คล้ายคลึงกับโรคจิตเภท, โรคหลายบุคลิก, โรคไบโพลาร์ เป็นต้น พวกเขาต้องประสบกับอาการหูแว่ว ภาพหลอน ใน Vampire: The Masquerade – Bloodlines ภาคแรก สื่อให้เห็นเป็นรูปธรรมในรูปแบบของเสียงกระซิบติดตามตัวละครไปตลอดเวลา
ด้วยอาการจิตเภท ถึงแม้ว่าอาการดังกล่าวเป็นแกนหลักของการระบุคุณลักษณะของ Malkavian แต่ตัวเกมภาคแรกก็มีทางเลือกให้ผู้เล่นสวมบทบาทเป็น ‘fishmalk’ ซึ่งก็คือ Malkavian สายเรื้อน เน้นตลกเจ็บตัวหรือตลกท่าทาง เป็นพวกที่ชอบเอาปลาไปตีหน้าใครสักคนโดยไม่มีเหตุผลแล้ววิ่งโห่ร้องอย่างบ้าบอ โดยอิงจากอาการป่วยทางจิตที่เป็นจุดอ่อนของ Malkavian แต่ใน Vampire: The Masquerade – Bloodlines 2 จะไม่มีอะไรแบบนี้อีกต่อไป อย่างที่คุณ Mitsoda กล่าวไว้ข้างต้น เขารู้สึกเบื่อกับอะไรแบบนี้เต็มทน
“มีการนำเสนอเหล่า Malkavian ซึ่งมีความหมายโดยนัยที่มืดมนกว่าเดิม สำหรับการที่ไม่สามารถบอกได้ว่าสิ่งใดเป็นเรื่องจริงหรือไม่จริง” โดยในเกมก่อนของเขาอย่าง Dead State มีตัวละครที่ชื่อว่า Jenifer Strong ซึ่งมีอาการจิตเภท คุณ Mitsoda ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับโรคจิตเภท และเขียนตัวละครนี้อย่างซื่อตรงและประณีตต่ออาการดังกล่าวมากที่สุด ซึ่งเขาก็นำมันมาใช้ใน Malkavian เช่นกัน
เกือบทั้งหมดที่ผมเขียนลงไป ผมไม่ได้เขียนแบบมั่วซั่ว
ความรุนแรงกับอาการทางจิต
โดยสถาบันสุขภาพจิตแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา (National Institute of Mental Health) ระบุว่าโรคจิตเภทเป็นสิ่งที่เรื้อรังและรุนแรง และการถูกระบุลักษณะไปตามอาการของโรค อย่างเช่น อาการประสาทหลอน, อาการหลงผิด, อาการที่ระบบการคิดทำงานผิดปกติ, อาการไร้ความรู้สึก, อาการไร้อารมณ์ปีติ, อาการสมาธิสั้น, อาการระบบการจัดการและการตัดสินใจผิดปกติ เป็นต้น โดยอาการดังกล่าวสามารถทำให้ร่างกายทรุดโทรมได้ แต่ผู้ที่ถูกวินิจฉัยว่ามีอาการ จะรักษาอาการด้วยการผสมผสานระหว่างการรักษาด้วยยาต้านอาการทางจิตและการบำบัด
ซึ่งปัจจุบันด้วยการนำเสนอของสื่อต่าง ๆ ทำให้เกิดภาพลักษณ์ของผู้ป่วยทางจิต ว่าเป็นแรงขับดันในการสังหารผู้คนเป็นผักปลา อย่างเช่นในภาพยนตร์แนวเชือด (slasher film) แต่ทางองค์กรพันธมิตรผู้ป่วยโรคทางจิตแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา (National Alliance on Mental Illness หรือ NAMI) กล่าวว่า “ถึงแม้ว่าการมุ่งความสนใจของสื่อ ไปยังเหล่าบุคคลที่เป็นส่วนน้อย แต่คนที่ได้รับการรักษาสำหรับโรคจิตเภท ไม่ได้มีแนวโน้มแก่การใช้ความรุนแรงมากกว่าคนทั่วไป”
อย่างตัวละคร Jenifer Strong ที่กล่าวในข้างต้น ถึงแม้ว่าเธอจะมีอาการทางจิต แต่เธอไม่ได้กลายเป็นพวกใช้ความรุนแรง เธอเพียงแค่เกิดอาการเศร้าซึมจากการที่ไม่ได้ใช้ยาบำบัดเป็นเวลานาน อาการจะบรรเทาลง เมื่อเธอได้รับยาที่เราหามาให้ และระบบของเกมก็ส่งเสริมตรงจุดนี้ว่าหากเธอไม่ได้รับการรักษาเป็นเวลานาน เธอจะไม่สามารถต่อสู้ได้ และทรมานจากความเจ็บป่วยทางอารมณ์และจิตใจ
ซึ่งคุณ Mitsoda พยายามเน้นว่าการตีความ Malkavian ของ Bloodlines 2 พวกเขาเหล่า Malkavian ไม่ได้เป็นตัวแทนของอาการป่วยทางจิตอย่างสมบูรณ์ ตัวละครของผู้เล่นเป็น vampire ที่อันตรายโดยสันดาน
“ผมอยากให้คนเข้าใจว่า Malkavian ไม่ใช่ตัวแทนของอาการป่วยทางจิตโดยแม่นยำสมบูรณ์ แต่พวกเขาได้รับอิทธิพลมาจากอาการดังกล่าว” คุณ Mitsoda กล่าว “แต่พวกเขาก็เป็นตัวแทนของผู้ที่ประสบปัญหาเดียวกัน ผมไม่อยากให้พวกเขากลายเป็นตัวตลก” และเขายังกล่าวเพิ่มเติมถึงสื่อปัจจุบัน “อย่างที่ผมกล่าวมาก่อนหน้า ผมเบื่อเหลือเกินกับอาการป่วยทางจิตที่ถูกใช้เป็นตัวช่วยในการเขียนบท ไม่ว่าจะการหักมุม หรือจุดพลิกผันในองค์สุดท้ายสำหรับการเล่าเรื่อง (punchline) ว่าตัวละครเป็นคนสติไม่ดี กระจ่างเลยว่าเวลานักเขียนบทเขียนหาทางออกไม่ได้ เขาก็ใช้ข้อแก้ตัวว่า ‘พวกนี้มันบ้า’ เพื่อให้เหตุผลในการเปลี่ยนแรงจูงใจหรือคุณสมบัติของตัวละครอย่างกะทันหัน” และเขากล่าวปิดท้ายว่า
ถ้าประสบการณ์ของ Malkavian มอบเศษเสี้ยวหนึ่ง
ของมุมมองที่บางคนต้องรับมือกับเรื่องที่ใกล้เคียงนี้ ส่งไปยังผู้เล่นได้
ก็ถือว่าผมทำสำเร็จแล้ว