สู่การรุกรานของ Mind flayer กับ Baldur’s Gate 3

การกลับมาของซีรีส์ระดับตำนาน Baldur’s Gate 3 ที่อยู่ในจักรวาลอันเก่าแก่ของวงการ tabletop อย่าง Dungeons and Dragons (หรือเรียกอย่างย่อว่า D&D) ด้วยฝีมือของทีมสร้างเกมระดับขึ้นหิ้งครูไว้บูชา กับเกม Divinity: Original Sin 2 สำหรับทีม Larian Studios โดยทางสำนักข่าว PC Gamer ได้สัมภาษณ์กับคุณ Swen Vincke ถึงเรื่องราวต่าง ๆ ของ Baldur’s Gate 3

เรื่องราวของ Baldur’s Gate 3

แน่นอนว่าเรื่องราวจะเกิดในเมือง Baldur’s Gate แต่จะเปิดให้ผู้เล่นได้สำรวจเฉพาะบางพื้นที่สำคัญ ๆ โดยเกมจะเป็นเรื่องราวใหม่ ในยุคปัจจุบันของ Forgotten Realms ที่เหล่า Mind flayer พบหนทางในการสร้างเรือเหาะอันจะนำพาพวกเขาเดินทางข้ามระหว่างโลก และแน่นอนว่าพวกเขากำลังจะทำการเข้ารุกราน ซึ่งทีม Larian Studios แอบใบ้ว่าเรื่องราวจะนำไปสู่มิติภพใหม่ ๆ รวมไปถึงการลงไปใต้ Underdark

ตัวร้ายประจำภาค

Baldur's-Gate-3-01
โฉมหน้า mind flayer

ตัวร้ายหลักประจำภาคก็คือเผ่า Mind flayer ที่เป็นเผ่าโบราณในจักรวาล Dungeons and Dragons พวกเขาอาศัยใน Underdark และมีพลังจิตสุดแกร่งกล้า สามารถควบคุมจิตใจของสิ่งมีชีวิตให้กลายเป็นทาสและกัดกินสมองเพื่อการดำรงชีพ

“พวก Mind flayer ได้ทำการรื้อฟื้นความลับของเรือเหาะ nautiloid” คุณ Swen Vincke ผู้ก่อตั้งของ Larian Studios กล่าวกับ PC Gamer “นั้นมันคือปัญหาใหญ่เลยนะ! ถ้าคุณรู้เรื่องราวของ D&D โดยเฉพาะ Volo’s Guide คุณจะทราบว่าพวกเขาเคยปกครองมิติภพ Astral Plane แต่พวกเขาสูญเสียมันไป และต้องถอยกลับไปยัง Underdark ไม่ฉะนั้นก็จะโดนล้างเผ่าพันธุ์โดยเหล่า githyanki (เผ่าคนแคระของมิติภพ Astral Plane) โดยพวก Mind flayer ต้องการจะฟื้นคืนความยิ่งใหญ่ให้กับอาณาจักรของตน เราจะเห็นพวกเขารุกรานเมืองด้วยเรือเหาะ nautiloid คุณจินตนาการได้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น แต่มันไม่ใช่สิ่งที่คุณจะคาดถึงหรอกนะ!”

 

Baldur’s-Gate-3-02
เรือเหาะ nautiloid

ระบบการเล่น

จะเป็นเกม RPG ที่คุณจะต้องควบคุมกลุ่มตัวละคร โดยพวกเขาจะมีเรื่องราวที่มาและแรงจูงใจเป็นของตัวเอง ซึ่งเกมจะมีระบบเรื่องราวที่มาของตัวละครที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Divinity: Original Sin 2 ในเกม Baldur’s Gate 3 จะทำหน้าที่เหมือนกันกับชีทตัวละครใน D&D (เป็นกระดาษที่บันทึกข้อมูลของแต่ละตัวละคร) “ผมคิดว่าเจ้าระบบเรื่องราวที่มาของตัวละครเหมาะสำหรับเกมแนว RPG” คุณ Vincke กล่าว

คุณ Vincke ยืนยันว่าจะเป็นเกมที่เน้นการขับเคลื่อนด้วยระบบ และทาง Larian Studios จะสร้างกฎของเกม (ruleset) ขึ้นมาเองโดยมีแรงบันดาลใจมาจาก D&D “เราจะคงรากเหง้าของเรา เราจะให้ผู้เล่นได้สัมผัสกับระบบมากมายในเกม เปิดกว้างให้ผู้เล่นได้ทำสิ่งต่าง ๆ ในเกมเพื่อจัดการกับระบบนั้น ๆ และเพื่อจะบรรลุสิ่งที่คุณต้องการในการผจญภัยของคุณ รวมไปถึงกลุ่มของคุณ นั้นคือส่วนสำคัญในสิ่งที่พวกเรากำลังทำ และมันจะไม่มีทางเปลี่ยนแปลง แต่อย่างไรก็ตาม จะมีการตีความกฎของ D&D เพราะถ้าคุณจะยกกฎที่เป็นหัวใจสำคัญของ D&D มาใส่ลงในวิดีโอเกม มันจะใช้การไม่ได้”

โดยทางทีม Larian Studios ลงทุนลงแรงไปอย่างมากสำหรับเกมนี้ทั้งด้านเทคโนโลยีและทีมงาน “เราลงทุนไปอย่างหนักหน่วงในด้านเทคโนโลยีของเกมนี้” คุณ Vincke กล่าว “เราสร้างมันขึ้นมาด้วยตัวเอง เราไม่ได้สิทธิในเอนจิน Unreal หรืออะไรก็ตาม” ซึ่งเกมนี้จะเป็นเกมที่ใหญ่ที่สุดที่ทีมเคยทำมา โดยใช้ทีมงานภายในเกือบสองร้อยคน และอีกร้อยกว่าคนสำหรับทีมงานภายนอก

Wizards of the Coast มีส่วนเกี่ยวข้องกับเกมนี้

Wizards of the Coast ผู้จัดจำหน่าย, ผู้ถือสิทธิ์และผู้ควบคุมจักรวาล Dungeons and Dragons ได้เข้ามาช่วยจัดการโครงเรื่องและควบคุมความสอดคล้องต้องกันของเรื่องราว D&D ด้วยคุณภาพของ Divinity: Original Sin 2 ทำให้ทาง Wizards of the Coast เปิดทางให้ทีม Larian Studios ได้ทำ Baldur’s Gate 3

“เราได้ไปหาพวกเขา [Wizards of the Coast] หลังจาก Divinity: Original Sin และพยายามจะโน้มน้าวใจพวกเขา แต่พวกเขาบอกว่าพวกเรายังไม่มีประสบการณ์ หลังจากนั้นพวกเขาติดต่อกลับมาในช่วง Divinity: Original Sin 2 เขาเห็นในสิ่งที่พวกเรากำลังทำและสอบถามถ้าหากเรายังคงสนใจจะทำ ซึ่งนั้นก็เป็นจุดเริ่มต้น ในช่วง Divinity: Original Sin 2 เราต้องเสนอการออกแบบเกมสำหรับเกมนี้ [Baldur’s Gate 3] มันน่ารำคาญมากเพราะเรากำลังจะจำหน่าย Divinity: Original Sin 2 ดังนั้นเราจึงจดจ่ออยู่ในโรงแรมสุดสัปดาห์ก่อนวางจำหน่ายเกม ผมและนักออกแบบกับนักเขียนอีกไม่กี่คน ช่วยกันทำเอกสารการออกแบบฉบับเบื้องต้น ถึงมันไม่ค่อยจะดีเท่าไร แต่มันมีแนวคิดที่เป็นส่วนสำคัญ พวกเขาก็ชอบมัน พวกเขาขอให้เราทำอีกเวอร์ชัน เราจึงทำมัน และพวกเขาก็ชอบมัน”

แหล่งข้อมูลอ้างอิง:

Share this article
0
Share
0 Share
0 Tweet
0 Share
0 Share
Shareable URL
0
Share