Arkane Studios เป็นทีมพัฒนาที่เต็มไปด้วยผลงานอันล้วนแล้วแต่มีเอกลักษณ์อันโดนเด่นอย่างเห็นได้ชัด ไม่ว่าจะเป็นเกมอย่าง Arx Fatalis ผลงานในยุคแรกเริ่มมาจนถึงผลงานใหม่ ๆ อย่าง Dishonored และ Prey โดยมีเบื้องหลังความสำเร็จที่เกิดจากวิสัยทัศน์ของคุณ Raphaël Colantonio ผู้ก่อตั้ง ที่ล่าสุดเขาก็ได้ออกมาตั้งสตูดิโอแห่งใหม่อีกครั้งแล้ว
เป็นเวลาสองปีที่คุณ Colantonio ออกมาจาก Arkane Studios ซึ่งสาเหตุที่เขาออกมานั้นก็เพื่อที่จะได้ใช้เวลากับลูกชายของเขาให้มากขึ้นและเพื่อสะท้อนให้เห็นถึงสิ่งสำคัญที่เขาควรจะทำด้วย แต่แล้วเขาก็ได้กลับเข้าสู่วงการอุตสาหกรรมเกมอีกครั้งด้วยการร่วมงานกับคุณ Julien Roby ผู้อำนวยการผลิตของ Arkane ในการก่อตั้งสตูดิโอแห่งใหม่ที่จะใช้ชื่อว่า WolfEye Studios
“หลังจากที่ได้มีการพูดคุยกันมาสักระยะ และได้มีการปรึกษากับบริษัทวิดีโอเกมที่หลากหลาย ผมก็พร้อมสำหรับการผจญภัยครั้งใหม่แล้ว”
คุณ Colantonio ให้สัมภาษณ์กล่าว“ตลาดเกมในระดับ AAA กำลังอยู่ในความเสี่ยงอันน่ารังเกียจ และนวัตกรรมบอบช้ำเพราะมัน ในฐานะของนักออกแบบเกม สิ่งที่ผมต้องการมาโดยตลอดก็คือการได้ทดลองไอเดียใหม่ๆ และวิธีการในการเข้าถึง และผมก็เชื่อว่าวงการพัฒนาเกมอิสระคือสถานที่ที่ดีที่สุดในการทำเรื่องที่ว่านี้”
โดยเป้าหมายของทีมงาน WolfEye Studios ก็ยังคงเป็นการยึดมั่นในแนวทางในแบบที่ Arkane Studios เคยทำมา โดยพวกเขาได้ตั้งเป้าในการที่จะ “สร้างสรรค์เกมที่ผู้เล่นสามารถใช้ชีวิตในการผจญภัยในแบบฉบับของตัวเองได้ในโลกจำลองที่จะมีการตอบสนองต่อการกระทำและการตัดสินใจด้วยทิศทางที่มีความแปลกแยกอย่างชัดเจนในแต่ละการเล่นแต่ละครั้งนั่นเอง”
การได้กลับมาร่วมงานกันของคุณ Raphaël Colantonio และ Julien Roby อาจเรียกได้ว่าเป็นการกลับมารวมทีมที่มีความเป็น Arkane อย่างแท้จริงอีกครั้งหลังจากที่ทั้งสองได้เริ่มก่อตั้งสตูดิโอและสร้างสรรค์ผลงานออกมาทั้ง Arx Fatalis, Dark Messiah of Might and Magix, Dishonored ก่อนที่คุณ Roby จะออกจากสตูดิโอเพื่อไปร่วมงานในโปรเจกต์เกม Mafia 3 ในฐานะของผู้ควบคุมงานสร้าง และหลังจาก Prey ออกวางจำหน่ายทางคุณ Colantonio ก็เริ่มที่จะมีแนวคิดที่แตกต่างออกไปจากเดิมด้วยความเชื่อที่ว่าการหนีห่างจากกระบวนการสร้างที่มีต้นทุนสูงนั้นจะเป็นการเพิ่มโอกาสในการสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ให้กับเกมการเล่นอย่างแท้จริง
“ผมคิดว่าผมเป็นทั้งนักพัฒนาและนักเล่นเกม ผมคิดว่ามันเป็นช่วงเวลาราวสองถึงสามเจเนอเรชันแล้วที่ผมได้เล่นแต่เกมเดิมๆ สิ่งที่แตกต่างก็มีเพียงแค่ภาพที่มันสวยงามขึ้น ความละเอียดที่สูงขึ้น แสงเงาที่มากขึ้น แต่จริงๆ แล้วมันก็ยังเป็นเพียงแค่เกมเดิม” คุณ Colantonio ให้สัมภาษณ์กับทางเว็บไซต์ Gameindustry.biz
คุณ Colantonio ยังได้เปรียบเทียบการสร้างเกมอย่าง Dishonored และ Prey อีกด้วยว่า “สิ่งที่แตกต่างเพียงอย่างเดียวในระหว่างเจเนอเรชันหนึ่งไปยังเจอเนอเรชันถัดไปก็คือการที่ต้นทุนในการสร้างของมันเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว และเพราะต้นทุนที่มากขึ้น มันก็ทำให้มีผู้คนมากขึ้นด้วย แทนที่เราจะใช้เวลาสามเดือนในการสร้างตัวละคร มันกลายเป็นต้องใช้เวลาถึงหกเดือน และมันก็ต้องมีการปรับแต่งจากความต้องการให้หลา ยๆ อย่าง หลาย ๆ รายละเอียด ในการที่จะทำให้มันแน่ใจได้ว่านัยน์ตาของตัวละครมันออกมาสมบูรณ์แบบ และดวงอาทิตย์สามารถสาดแสงมาได้อย่างถูกต้อง แต่ยิ่งคุณเริ่มพัฒนาสิ่งเหล่านี้มากขึ้นเท่าไหร่ ความยืดหยุ่นของมันในการปรับเปลี่ยนก็ยิ่งน้อยลง การยัดกราฟิกหนักๆ และกระบวนการสร้างเหล่านี้กีดกันความยืดหยุ่นของการทำงาน การกลับไปยังการคิดไอเดีย การทดลองทำอะไรอื่นๆ เพราะมันเป็นอะไรที่แพง และทีมงานก็ไม่ยินดีเพราะคุณกำลังเปลี่ยนแปลงทิศทางของมัน
คุณ Colantonio ได้วางแผนในการที่จะให้ทีมงาน WolfEye ของเขามีขนาดที่เล็กซึ่งในตอนนี้มันก็มีพนักงานยังไม่ถึง 20 ดีและยังทำงานต่างสถานที่กันอีกด้วย “ในตอนที่เราได้ทำงานกับผู้คน เราทำงานกับพวกเขาเพราะความเคารพ และเราก็ชื่นชอบความทุ่มเทที่เขามีให้กับตัวโปรเจกต์ ทักษะของพวกเขา ปูมหลังของพวกเขา และก็นั่นแหละครับ” คุณ Roby กล่าว
“เมื่อคุณไว้ใจใครสักคนคุณจะแค่คิดว่าพวกเขาโตเป็นผู้ใหญ่พอที่จะสามารถจัดสรรเวลาของพวกเขาและเรื่องอื่นๆ ได้ ดังนั้นคุณจึงไม่จำเป็นที่จะต้องมีพื้นที่ให้กับเขาและจัดการพวกเขา มันเป็นเรื่องของการเพิ่มขีดความสามารถให้กับผู้คนในการบอกพวกเขาว่า ‘เรารู้ว่าคุณสามารถทำงานของคุณได้ และเราก็ไม่ต้องการที่จับตามองคุณอยู่ข้างหลังตลอดเวลา’ และผู้คนก็จะทำงานได้ดีขึ้น และก็จะมีความสุขในชีวิตของพวกเขามากขึ้นด้วย ดังนั้นถ้าคุณได้ให้บริบทที่พวกเขาสามารถยินดีกับสิ่งเหล่านี้ได้ พวกเขาก็จะผลิตงานออกมามากขึ้น แม้จะมีชั่วโมงการทำงานที่น้อยลงไปจากเดิม”
สำหรับรายชื่อทีมงานเต็มๆ ของ WolfEye นั้นยังไม่มีการเปิดเผยออกมาในตอนนี้ แต่จากที่ได้มีการเปิดเผยออกมามันก็เต็มไปด้วยทีมงานมากความสามารถ ทั้งคุณ Binu Philip อดีตทีมงาน Edge of Reality ที่มาดำรงตำแหน่ง Chief operating office, คุณ Eric Stripe อดีตมือเขียนบทอาวุโสจากทาง Telltale ซึ่งทางทีมงานจะมีการเปิดตัวเกมแรกของพวกเขาออกมาในงาน The Game Awards ที่จะจัดขึ้นในเดือนธันวาคมนี้นั่นเอง