นอกจาก Cyberpunk 2077 ที่จะเป็นเกมดัดแปลงจากเกมกระดาานแล้ว ในปีหน้าเราก็จะยังมีเกมอย่าง Vampire: The Masquerade – Bloodlines 2 อีกด้วยที่จะได้ออกมาให้ได้เล่นกับเกมภาคต่อที่ดัดแปลงมาจากเกมกระดานชื่อดังอย่าง Vampire: The Masquerade และยังไม่จบเพียงเท่านั้นเพราะมันยังมี Werewolf: The Apocalypse – Earthblood เกมดัดแปลงจากเกมกระดานที่อยู่ในจักรวาลเดียวกันมาให้เราได้เล่นอีกด้วย
Werewolf: The Apocalypse คือหนึ่งในเกมกระดานชื่อดังของทีมงาน White Wolf และเป็นหนึ่งในเกมที่อยู่ในจักรวาล World of Darkness ของพวกเขาเช่นเดียวกับเกม Vampire: The Masquerade ซึ่งเกม Werewolf: The Apocalypse – Earthblood นั้นจะเป็นผลงานการดัดแปลงของทีมงาน Cyanide Studios ที่เพิ่งจะมีผลงานออกมาให้เราได้เห็นกันหมาดๆ กับเกมอย่าง Call of Cthulu ที่ดัดแปลงมาจากเกม pen-and-paper RPG ของทีมงาน Chaosium นั่นเอง
Werewolf: The Apocalypse – Earthblood คือเกมบริการจัดการโทสะ
ใน Werewolf: The Apocalypse – Earthblood นั้นผู้เล่นจะได้รับบทเป็นหนึ่งในตระกูลมนุษย์หมาป่า “Cahal” ที่สามารถแปลงกายจากมนุษย์ไปเป็นหมาป่าและมนุษย์หมาป่าได้ ซึ่งเกมจะมีรูปแบบการเล่นในสไตล์ action-RPG พิมพ์นิยม โดยมีจุดเด่นอยู่ที่การบริหารจัดการโทสะ (Rage) อันเป็นแหล่งพลังงานที่ใช้ในการแปลงกายนั่นเอง ซึ่งหาก Cahal มีโทสะที่มากจนเกินไปขาก็จะไม่สามารถควบคุมตัวเองได้และนั่นอาจหมายถึงการที่เขาจะต้องฆ่ามนุษย์หมาป่าด้วยกันเอง
โดยตัวเกม Werewolf: The Apocalypse – Earthblood นั้นได้มีการนำไปจัดแสดงให้สื่อที่เข้าร่วมในงาน E3 2019 ได้ชม โดยมันได้เปิดเผยให้เห็นถึงเกมการเล่นที่เน้นไปที่การสลับสับเปลี่ยนรูปร่างของ Cahal เพื่อใช้งานในลักษณะต่างๆ ที่หลากหลาย เช่นการผู้เล่นอาจจะใช้การแปลงกายเป็นหมาป่าเพื่อการสอดแนมศัตรู หรือใช้ร่างมนุษย์ในการสังหารเหล่าศัตรูอย่างเงียบเชียบด้วยหน้าไม้ก็ได้นั่นเอง
“ความเงียบเป็นทรัพยากรอย่างหนึ่งครับ” คุณ Julien Desourteaux ผู้กำกับของเกม Werewolf: The Apocalypse – Earthblood ได้อธิบาย โดยปกติแล้วสิ่งที่ผู้เล่นจะต้องคอยต่อสู้ในเกมก็คือโทสะนั่นเองที่จะมีการแสดงอยู่บนหน้าจอของผู้เล่นที่จะเพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ และผู้เล่นก็จะต้องหลีกเลี่ยงโดยการกินยาเท่าที่จำเป็น และอยู่ให้ห่างไกลจากวัตถุต้องห้ามที่ทำให้ Cahal สามารถสูญเสียความเป็นตัวเองได้ ซึ่งหากโทสะถึงค่าที่กำหนดเมื่อไหร่ Cahal ก็จะกลายร่างเป็นมนุษย์หมาป่าในทันที และเกมก็กลายเป็นเกมที่มีความเป็นแอ็กชันอย่างเต็มตัวที่มาพร้อมกับท่วงท่าและการทำคอมโบต่างๆ ตามสไตล์
เรื่องราวของเหล่านักสู้ผู้รักโลก
สำหรับเรื่องราวใน Werewolf: The Apocalypse – Earthblood มันก็จะมีการอิงเนื้อหาจากเกมกระดานต้นฉบับในโลก “World of Darkness” โดยเหล่ามนุษย์หมาป่านั้นคือกลุ่มนักสู้ผู้ปกป้อง Gaia ที่ต้องการให้ธรรมชาติกลับคืนสู่โลกอีกครั้งซึ่งพวกเขาจะต้องคอยต่อกรกับองค์กรชั่วร้ายที่เข้ามาทำลายธรรมชาติและทำให้ระบบนิเวศปั่นป่วนนั่นเอง และจุดประสงค์หลักๆ ของเกมก็คือการทำลายเครื่องกำเนิดไฟฟ้า ที่ตั้งอยู่ในเมือง Nevada อันเป็นฉากหลังของเกมและยังเป็นแหล่งที่ทำให้บันดาลให้เกิดโทสะกับ Cahal อีกด้วย เพราะตัว Cahal นั้นมีพลังการได้ยินที่อยู่เหนือมนุษย์ทั่วไป และการทำลายเครื่องกำเนิดไฟฟ้ามันก็คือการทำให้โทสะของ Cahal ลดลงนั่นเอง
และนอกจากกลไกการต่อสู้ที่จะส่งผลต่อโทสะของ Cahal แล้วระบบการสนทนาในเกมก็จะส่งผลด้วยเช่นกันตัวอย่างเช่นหากผู้เล่นเลือกบทสนทนาไปในทางที่ไม่ถูกต้องเกมก็จะมีการเพิ่มค่าโทสะในทันทีนั่นเอง แต่ไม่ได้หมายความว่าเกมจะห้ามให้ผู้เล่นมีโทสะเกินกำหนดแต่อย่างใดเพราะมันสามารถนำไปสู่รูปแบบการเล่นในอีกทิศทางได้เช่นกันนั่นเอง และเกมก็จะมีระบบการเพิ่มพูนความสามารถตามแบบฉบับเกม RPG สมัยใหม่ให้ Cahal มีความสามารถเช่นการหยุดเวลา, การล็อคเป้าหมาย และอื่นๆ ที่ทางทีมงานยังไม่เปิดเผยรายละเอียดออกมาในตอนนี้
และนอกจากนี้ทางคุณ Julien Desourteaux ยังได้แอบแย้มอีกด้วยว่าบางทีมันอาจจะมีการข้ามเรื่องไปเชื่อมกับเกม Vampire: The Masquerade ก็เป็นได้เช่นกัน โดย Werewolf: The Apocalypse—Earthblood จะวางจำหน่ายในไตรมาสที่ 3 ของปี 2020 ทั้งบน PC, Xbox One และ PlayStation 4