Ubisoft แถลงผลประกอบการครึ่งแรกของปี 2022 โดยมีรายได้ที่ลดลงจากปีก่อนเล็กน้อย แต่เกมเก่าที่ออกวางจำหน่ายไปก่อนหน้ายังคงทำรายได้ให้กับบริษัทได้อย่างต่อเนื่อง
- รายได้รวมทั้งหมด 731 ล้านยูโร (ลดลง 3% จากปีที่ผ่านมา)
- รายได้สุทธิตามตัวเลขในบัญชี 699 ล้านยูโร (ลดลง 3% จากปีที่ผ่านมา)
- ขาดทุนจากการดำเนินงาน 215 ล้านยูโร (จากปีก่อนที่ทำกำไรได้ 25.9 ล้านยูโรในช่วงครึ่งแรกของปี)
อย่างไรก็ดีทาง Ubisoft ก็ยังแถลงต่อนักลงทุนว่าผลประกอบการของพวกเขายังคงดีกว่าที่หลายคนคาด เพราะในไตรมาสแรกพวกเขาได้ประมาณการเอาไว้ว่าไตรมาสที่ 2 จะทำรายได้อยู่ที่ราว 270 ล้านยูโร แต่กลับทำได้ถึง 406 ล้านยูโรซึ่งมากกว่าปีที่ผ่านมาถึง 3.3%
โดยในส่วนของรายได้ที่สูญเสียไปจากการดำเนินงานก็มาจากค่าเสื่อมราคาของการเร่งการวิจัยและพัฒนาภายในของบริษัท และยังรวมไปถึงการยกเลิกโตรงการต่าง ๆ เปิดโอกาสให้กับการพัฒนาโครงการที่ใหญ่ยิ่งขึ้น
โดยรายได้ส่วนใหญ่ในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมาได้มาจากเกมในแฟรนไชส์ Assassin’s Creed และ Rainbow Six Siege โดยเกม Assassin’s Creed: Valhalla ได้มียอดผู้เล่นทะลุ 20 ล้านคนไปแล้ว และ Rainbow Six Siege เองก็มียอดผู้เล่นรวมทะลุ 85 ล้านึน โดยยังมีการสร้างรายได้สุทธิทางบัญชีให้กับบริษัทเพิ่มขึ้น 18% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาอีกด้วย
อย่างไรก็ดีทาง Ubisotf ได้มีการประมาณการไว้ว่าทั้งปีพวกเขาจะสามารถทำกำไรจากการดำเนินงานให้กลับมาได้ที่ 400 ล้านยูโร ซึ่งหนึ่งในแผนงานก็คือการวางจำหน่ายเกม Mario + Rabbids: Sparks of Hope ที่จะเป็นหนึ่งในเกมที่ใหญ่ที่สุดในปีงบประมาณนี้ ซึ่งเกมได้ออกวางจำหน่ายไปแล้วและทาง เฟเดอริก ดูเกต์ (Federick Duget) ประธานฝ่ายการเงินของ Ubisoft ก็พอใจกับยอดขายเป็นอย่างมาก โดยที่เกมยังเพิ่งจะใช้งบทางการตลาดไปเพียง 80% เท่านั้นอีกด้วย