The Coalition ทีมงานเจ้าของแฟรนไชส์ Gears (หรือ Gears of War ในอดีต) ประกาศเปลี่ยนมาใช้งาน Unreal Engine 5 ในการพัฒนาโปรเจกต์เกมใหม่หลายโปรเจกต์ที่อยู่ในแผนงานของพวกเขาอย่างเป็นทางการแล้ว
ทาง The Coalition ได้มีการปล่อยแถลงการณ์ถึงแนวทางในการพัฒนาเกมของพวกเขาผ่านทางเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ Gears 5 (via. Rock Paper Shotgun) โดยในแถลงการณ์พวกเขาได้พูดถึงแผนสำหรับการพัฒนาเกม Gears 5 ที่จะมีแผนที่ใหม่, ตัวละครใหม่เพิ่มเข้ามาให้กับตัวเกม พร้อมกับ Operations (ระบบ Season ของเกม Gears) ใหม่ที่จะมีออกมาอีก แม้เกมจะออกวางจำหน่ายมาเป็นเวลาสองปีแล้ว โดยก่อนหน้านี้พวกเขาก็เพิ่งจะมีการปล่อยส่วนเสริมตัวใหม่ที่ชื่อว่า Gears 5: Hivebusters ออกวางจำหน่ายไปเมื่อปีที่แล้ว และมันก็ได้รับเสียงตอบรับที่ดีเป็นอย่างมาก
โดยในแถลงการณ์ทาง The Coalition ยังได้เสริมอีกว่า “Gears of War เป็นเกมแถวหน้าที่ใช้ Unreal Engine พัฒนามาโดยตลอด ซึ่งเรามีความตื่นเต้นเป็นอย่างมากกับการที่เรายังคงรักษาธรรมเนียมนั้นไว้ด้วยการมาใช้ Unreal Engine 5 ในโปรเจกต์ใหม่หลายๆ โปรเจกต์ที่จะออกมาในปีต่อจากนี้” ซึ่งการปรับเปลี่ยนเอนจินในการพัฒนาเกมใหม่ทำให้ทีมงานต้องใช้เวลาอย่างมากในการปรับตัว ซึ่งส่งผลให้โปรเจกต์ดังกล่าวก็อาจจะไม่ได้เปิดตัวออกมาในเร็วๆ นี้
แฟรนไชส์ Gears of War เดิมทีแล้วมันเป็นเกมแฟรนไชส์ของทาง Epic Games ที่ถูกสร้างมาเพื่อแสดงศักยภาพของ Unreal Engine 3 เหมือนกับเกมในซีรีส์ Unreal และ Unreal Tournament อดีตเกมเรือธงของพวกเขา จนมาถึงปี 2014 ที่ทาง Microsoft ได้เข้ามาซื้อแฟรนไชส์ของเกม Gears of War จากทาง Epic Games ไปดูแลเองต่อหลังจากร่วมงานในฐานะเกม exclusive ของทางค่ายมานาน โดยให้ทาง Black Tusk Studios มารับช่วงในการพัฒนาต่อ ก่อนที่พวกเขาจะเปลี่ยนชื่อมาเป็น The Coalition อย่างเป็นทางการพร้อมกับดึง ร็อด เฟอร์กัสสัน (Rod Fergusson) หัวหอกหลักของแฟรนไชส์มาดูแลการพัฒนาต่อ แต่เมื่อต้นปี 2020 ทาง ร็อด เฟอร์กัสสัน ก็ได้ลาออกจากทีมงาน The Coalition ไปร่วมงานกับทาง Blizzard Entertainment แล้วในการพัฒนาแฟรนไชส์ Diablo
สำหรับ Unreal Engine 5 ทาง Epic Games ได้มีการปล่อย tech demo ออกมาแสดงศักยภาพเมื่อช่วงกลางปีที่แล้ว ซึ่งมันมาพร้อมกับเทคโนโลยี Lumens ที่ทำให้ผู้พัฒนาเกมสามารถสร้างการแสดงผลทางด้านการจัดแสงได้อย่างสมจริง โดยที่แสงและเงาในเกมจะมีการตกกระทบอิงกับแหล่งกำเนิดแสงทั้งหมดและยังมีการเปลี่ยนแปลงแบบพลวัตเมื่อแหล่งกำเนิดแสดงมีการเคลื่อนตัว และเทคโนโลยี Nanites ที่ทำให้นักพัฒนาเกมสามารถนำวัตถุที่ศิลปินผู้แบบไว้มาใส่เข้าไปในเกมได้โดยไม่จำเป็นต้องทำการลำดับขั้นของรายละเอียด (Level of Detail) ของตัววัตถุแต่อย่างใด ซึ่งเกมของทาง Epic Games อย่าง Fortnite ก็จะมีการเปลี่ยนมาใช้ Unreal Engine 5 ในอนาคตอีกด้วย