Take-Two Interactive แถลงผลประกอบการในไตรมาสที่ 4 ด้วยรายได้ทั้งหมด 930 ล้านเหรียญ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 11% ในขณะที่ทำกำไรได้ 111 ล้านเหรียญลดลง 49% เมื่อเที่ยบกับปีที่ผ่านมา
อย่างไรก็ดีทาง Take-Two ได้แถลงออกมาว่าเกมใหม่อย่าง WWE 2K22 และ Tiny Tina’s Wonderland ประสบความสำเร็จเกินกว่าที่ประมาณการไว้ เช่นเดียวกับเกม Red Dead Redemption 2 ที่สามารถทำยอดขายไปได้อีก 1 ล้านยูนิตในช่วงไตรมาสที่ผ่านมา และทำให้ตัวเกมมียอดขายรวม 44 ล้านยูนิตแล้ว
แต่ทาง Take-Two ก็ไม่ได้ให้ตัวเลขยอดขายของทั้งสองเกมออกมาอย่างเป็นทางการ แต่พวกเขาก็ยืนยันว่าเกม WWE 2K22 มียอดขายในสี่สัปดาห์แรกที่มากกว่า WWE 2K19 และ WWE 2K20 ในขณะที่ Tiny Tina’s Wonderland ก็ถือว่าเป็นแฟรนไชส์ใหม่ของทาง 2K ในรอบหลายปีที่ผ่านมา และยังมีผู้เล่นกว่า 30 เปอร์เซ็นต์ที่ไม่เคยเล่นแฟรนไชส์ Borderlands มาก่อนที่เข้ามาเล่นเกมนี้เป็นเกมแรกอีกด้วย
โดยนอกจาก 3 เกมที่กล่าวไปแล้วเกม Grand Theft Auto V ที่วางจำหน่ายในรูปแบบดิจิทัลให้กับ PlayStation 5 และ Xbox Series X|S เองก็ทำได้เกินกว่าเป้าหมายที่วางเอาไว้อีกด้วย ซึ่งทำให้ตอนนี้ตัวเกมสามารถทำยอดขายได้ถึง 165 ล้านยูนิตแล้ว และเป็นยอดขายที่เพิ่มขึ้น 5 ล้านยูนิตในทุกๆ ไตรมาสนับตั้งแต่การระบาดของโควิด-19
ในส่วนของ NBA 2K22 เองก็ทำยอดขายไปได้ 10 ล้านยูนิตมากกว่าและเร็วกว่า NBA 2K21 ในช่วงเวลาเดียวกัน ที่กว่าจะทำได้ 10 ล้านยูนิตก็ต้องรอไปจนถึงการปิดปีงบประมาณเลยทีเดียว
สรุปตัวเลขทั้งปีงบประมาณที่ผ่านมาทาง Take-Two ทำรายรับไปได้ 3.51 พันล้านเหรียญเพิ่มขึ้น 4% ในขณะที่กำไรลดลง 29% มาอยู่ที่ 418 ล้านเหรียญ ซึ่งทาง Take-Two ให้เหตุผลเอาไว้ว่าเป็นเพราะผู้บริโภคมีการใช้จ่ายที่ลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า แต่ก็ยังคงสูงกว่าช่วงก่อนหน้าที่จะเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19
โดยล่าสุดทาง Take-Two ได้มีการเข้าซื้อกิจการของ Zynga ผู้พัฒนาเกมมือถือเจ้าของแฟรนไชส์ FarmVille มาอยู่ในเครือแล้วด้วยมูลค่า 1.27 พันล้านเหรียญ ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นการเข้าซื้อกิจการเกมที่ใหญ่ที่สุดเป็นรองเพียงแค่การเข้าซื้อกิจการ Activision Blizzard ของ Microsoft เท่านั้น
สำหรับแผนงานในปีนี้ทาง Take-Two ยังคงหวังทำกำไรจากเกมที่วางจำหน่ายไปแล้วทั้ง NBA 2K22, Grand Theft Auto V, Red Dead Redemption 2 และ Red Dead Online รวมไปถึงเกมที่เพิ่งจะออกวางจำหน่ายและเกมที่กำลังจะวางจำหน่ายอย่าง Tiny Tina’s Wonderlands, Midnight Suns และ PGA Tour 2K23 โดยมีประมาณการรายได้เอาไว้ที่ 3.67 ถึง 3.77 พันล้านเหรียญ และมีการประมาณการกำไรเอาไว้ที่ 223 ถึง 252 ล้านเหรียญ
อย่างไรก็ดีแม้ทาง Rockstar Games จะมีการประกาศเริ่มการพัฒนาเกม Grand Theft Auto ภาคใหม่แล้ว แต่ดูเหมือนว่าตัวเกมจะยังไม่สามารถออกวางจำหน่ายได้ในปีงบประมาณนี้ โดยทาง Take-Two จะวางจำหน่ายเกมในระดับ “immersive core” ออกมา 6 เกมด้วยกันในปีนี้ได้แก่ The Quarry, Midnight Suns, Kerbal Space Program 2 และเกมจาก 2K Sports อย่าง NBA 2K23, WWE 2K23 และ PGA Tour 2K23
สำหรับแผนการร์ในอนาคตทาง Take-Two ได้เปิดเผยออกมาว่าในตอนนี้ทางบริษัทมีเกมกว่ามีเกมในระดับ immersive core ถึง 24 เกม (ซึ่งรวมเกมที่ได้ประกาศไปข้างต้นแล้ว) เกมจากทางฝั่ง Private Division ที่รับผิดชอบในส่วนของนักพัฒนาอิสระ 10 เกม, เกมมือถือ 20 เกม และเกมในระดับ mid-core กว่า 20 เกม และจะมีเกมภาคต่อของเกมที่เคยวางจำหน่ายไปแล้วอีก 8 เกม ซึ่งทั้งหมดมีแผนที่จะออกวางจำหน่ายภายในสามปีหลังจากนี้