What you need to know
- Take-Two Interactive ทำรายได้รวมไป 3.37 พันล้านเหรียญ
- มีจำนวนผู้เล่นเพิ่มขึ้น 48 เปอร์เซ็นต์และสร้างรายได้ให้กับบริษัทถึง 64 เปอร์เซ็นต์
- ปัจจัยหลักมาจากเกม NBA 2K และ Grand Theft Auto Online
- Grand Theft Auto V ทำยอดขายได้ 145 ล้านยูนิตแล้ว
- มีแผนที่จะปล่อยเกมออกวางจำหน่ายถึง 21 เกม
Take-Two Interactive ได้มีการปล่อยรายงานผลประการประจำปีออกมาอย่างเป็นทางการแล้ว (via. GameIndustry.biz) โดยในปีที่ผ่านมาพวกเขาทำรายได้ไปทั้งหมด 3.37 พันล้านเหรียญ ซึ่งเป็นผลมาจากเกม NBA 2K และ Grand Theft Auto ที่ยังคงทำรายได้ให้กับบริษัทอย่างต่อเนื่อง
ในรายงานของทาง Take-Two ได้มีการระบุออกมาว่าในปีที่ผ่านมาพวกเขามีผู้บริโภคที่เพิ่มมากขึ้นกว่าเดิมถึง 48 เปอร์เซ็นต์และคิดเป็น 64 เปอร์เซ็นต์ของรายได้ทั้งหมดของบริษัทซึ่งเป็นส่วนแบ่งที่สูงที่สุดเท่าที่เคยมีมา
ซึ่งปัจจัยหลักที่ทำให้พวกเขาทำกำไรได้เป็นอย่างมากในปีนี้ก็มาจากเกมอย่าง NBA 2K และ Grand Theft Auto Online ที่มีผู้เล่นใช้จ่ายไปกับตัวเกมมากขึ้นเป็นอย่างมากในช่วงไตรมาสที่สี่ของปีงบประมาณ และยังได้แรงส่งจากเกมมือถือของทาง Social Point และ Playdots อีกด้วยรวมไปถึงเกมอย่าง WWE SuperCard เองก็ทำรายได้ให้กับบริษัทได้เป็นอย่างมาก
โดยเกม NBK 2K21 ทำยอดขายได้เกินกว่าที่ทาง Take-Two ประมาณการเอาไว้เป็นอย่างมากโดยในตอนนี้มันสามารถทำยอดขายไปได้ 10 ล้านก๊อบปี้แล้ว และยังช่วยให้แฟรนไชส์มีจำนวนผู้เล่นต่อวันเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 2.3 ล้านคนและยังทำให้พวกเขามียอดการใช้จ่ายในตัวเกมเพิ่มขึ้นมากกว่าปีที่ผ่านมาถึง 73 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งทาง Take-Two ก็ยังคงหวังที่จะให้แฟรนไชส์เกมบาสเกตบอลของพวกเขาเกมนี้เติบโตยิ่งขึ้นไปอีกด้วย
สำหรับเกม Grand Theft Auto 5 เองก็ยังเป็นเกมที่ยังคงทำยอดขายได้อย่างต่อเนื่องโดยในปีนี้มันได้ทำยอดขายมาอยู่ที่ 145 ล้านยูนิตแล้ว ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 140 ล้านในที่ทำได้ในช่วงไตรมาสที่ผ่านมา ซึ่งยอดผู้เล่นเกม Grand Theft Auto Online และการใช้จ่ายในตัวเกมยังเพิ่มมากขึ้นจากปีก่อนหน้าถึง 31 เปอร์เซ็นต์อีกด้วย
โดยในส่วนของเกมอื่นๆ ของ Take-Two เองก็ยังคงทำยอดขายได้ดีเช่นกันไม่ว่าจะเป็น Red Dead Redemption 2 ที่ทำยอดขายไปได้ 37 ล้านก๊อบปี้, Civilization 6 ที่ทำไปได้แล้ว 11 ล้านก๊อบปี้, PGA Tour 2K21 ที่ทำไปได้ 2 ล้านก๊อบปี้ และ The Outer Worlds ที่ทำไปได้ 3 ล้านก๊อบปี้แล้ว
ซึ่งจากเกมทั้งหมดของพวกเขาได้ทำให้ Take-Two Interactive ในปีนี้มีรายได้รวมเพิ่มขึ้น 9 เปอร์เซ็นต์มาอยู่ที่ 3.37 พันล้านเหรียญโดยมี รายได้สุทธิ เพิ่มขึ้น 46 เปอร์เซ็นต์มาอยู่ที่ 589 ล้านเหรียญ
อย่างไรก็ดีสำหรับแผนการในปีนี้ทาง Take-Two ได้มีการประมาณการเอาไว้ว่าพวกการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสน่าจะยังคงส่งผลในระยะยาว ซึ่งพวกเขาได้มีรายประมาณการรายได้ของปีงบประมาณนี้เอาไว้ราว 3.14 พันล้านถึง 3.24 พันล้านซึ่งลดลงจากปีที่ผ่านมา
สำหรับในปีนี้ทาง Take-Two ได้มีแผนที่จะปล่อยเกมออกวางจำหน่ายถึง 21 เกม ซึ่งประกอบไปด้วยเกมในระดับ “immersive core releases” ถึง 4 เกมด้วยกันโดยมีหนึ่งในนั้นคือเกม NBA 2K ตามมาด้วยเกมจากแฟรนไชส์ที่มีอยู่ก่อนแล้ว และเกมออริจินัลอีกสองเกม โดยหนึ่งในนั้นจะเป็นผลงานของทาง Gearbox Software อีกด้วย และทาง Take Two ก็ยังได้มีการเปิดเผยอีกด้วยว่าทาง Firaxis ผู้พัฒนาเกม Civilization และ XCOM จะมีการเปิดตัวเกมหลายโปรเจกต์ที่พวกเขากำลังพัฒนาอยู่ในปีนี้ด้วย
ในส่วนของแผนก Private Division ก็ยังมีเกมอย่าง OlliOlli World ออกวางจำหน่าย และมีเกมสำหรับแพลตฟอร์มมือถือแบบ free-to-play อีก 10 เกมที่จะเปิดให้บริการ และพวกเขาก็ยังมีเกมรีมาสเตอร์หรือนำมาวางจำหน่ายใหม่อีกครั้งถึง 6 เกม ซึ่งรวมไปถึงเกม Grand Theft Auto V ที่จะลงให้กับเครื่อง PlayStation 5 และ Xbox Series X/S อีกด้วย
สรุปเกมที่ Take-Two Interactive จะออกวางจำหน่ายในปีนี้
- เกม NBA 2K ภาคใหม่
- เกม Ip ใหม่ที่ยังไม่มีการประกาศ
- เกมจากแฟรนไชส์เก่า
- เกมใหม่จากทาง Gearbox Software
- OlliOlli World ของทาง Private Division
- เกม free-to-play อีก 10 เกม
- Grand Theft Auto V สำหรับเครื่องเกมรุ่นใหม่
- เกมรีมาสเตอร์อีก 5 เกมที่ยังไม่มีการประกาศ
นอกจากนี้ในเอกสารที่ทาง Take-Two ส่งให้กับทางนักลงทุนยังได้มีการระบุอีกด้วยว่าในปีงบประมาณต่อจากนี้พวกเขาจะไปเน้นหนักที่การสร้างเกมในระดับ AAA มากขึ้น โดยในปีงบประมาณ 2023 และ 2024 พวกเขาจะมีเกมในระดับ “immersive core” ออกวางจำหน่ายถึง 19 เกมด้วยกัน โดยจะเป็นเกมแนวกีฬาถึง 7 เกม และก็จะมีเกมในระดับ “mid-core” อีกสี่เกมด้วย โดยซึ่งจะมีเกมกีฬาในจำนวนดังกล่าวอีก 3 เกมด้วยกัน
และในส่วนของ Private Division เองก็จะมีผลงานออกมามากขึ้นเรื่อยๆ ในปีต่อๆ ไป ซึ่งทาง Take-Two ได้ประมาณการเอาไว้ว่าทาง Private Division จะมีเกมจากทีมงานพัฒนาอิสระออกวางจำหน่ายได้ถึง 5 เกมในสองปีงบประมาณข้างหน้าซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดิมเป็นอย่างมาก และการเปิดให้บริการเกมมือถือก็จะลดลงกึ่งหนึ่ง และพวกเขาก็จะมีเกมรีมาสเตอร์ออกวางจำหน่ายเพียงแค่ 3 เกมเท่านั้นในปีงบประมาณ 2023 และ 2024
