Sega แถลงผลประกอบการในไตรมาสแรก รายได้รวมยังคงเติบโตถึง 11.2% แต่ในไตรมาสที่ 2 คาดว่าจะเติบโตขึ้นเป็นอย่างมากจากเกมที่วางจำหน่าย
ผลประกอบการโดยรวมในไตรมาสแรก
- รายได้ (Sales) : 66,118 ล้านเยน (488.48 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพิ่มขึ้น 11.2% เมื่อเทียบกับปีก่อน
- กำไรจากการดำเนินงาน (Operating income) : 2,777 ล้านเยน (20.52 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ลดลง 27.8% เมื่อเทียบกับปีก่อน
- กำไรจากการดำเนินงานปกติ (Ordinary income) 4,255 ล้านเยน (31.44 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)เพิ่ม 22.1% เมื่อเทียบกับปีก่อน
สำหรับธุรกิจคอนเทนต์สื่อบันเทิงซึ่งรวมไปถึงวิดีโอเกม ทำรายได้ไปทั้งสิ้น 52,778 ล้านเยน (389.99 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพิ่มขึ้น 11.3% เมื่อเทียบกับปีก่อน และมีกำไรจากการดำเนินงานปกติ 8,142 ล้านเยน (60.16 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ลดลง 4.6% เมื่อเทียบกับปีก่อน
โดยภาพรวมในไตรมาสแรกยังคงทรงตัวตามที่ทาง Sega คาดการณ์ไว้ จากยอดขายของเกมเก่าของทางค่ายที่ยังคงขายได้เรื่อย ๆ แต่ลดลงกว่าที่ประมาณการไว้ แต่ได้รายได้จากเกม free-to-play เข้ามาชดเชยแทน
ยอดขายโดยรวม
โดยในไตรมาสที่ผ่านมา Sega มีเกมออกวางจำหน่ายทั้งหมด 3 เกมด้วยกันได้แก่ 13 Sentinels: Aegis Rim สำหรับเครื่อง Nintendo Switch, Hatsune Miku: Project DIVA Mega Mix+ สำหรับ PC และ Sonic Origins
ซึ่งทาง Sega สามารถวางจำหน่ายเกมจากแฟรนไชส์ Sonic ไปได้ทั้งสิ้น 1.46 ล้านยูนิต ตามมาด้วย แฟรนไชส์ Yakuza ที่ 470,000 ยูนิต,แฟรนไชส์ Total War ที่ 420,000 ยูนิต และแฟรนไชส์ Persona ที่ 270,000 ยูนิต
ประมาณการในปีงบประมาณนี้
ทาง Sega ยังคงยืนยันว่าผลประกอบการทั้งปีในปีงบประมาณนี้จะดีกว่าปีงบประมาณก่อนหน้าแน่นอนจากเกมที่จะออกวางจำหน่ายในไตรมาสที่ 2 ทั้ง Soul Hacker 2, Sonic Frontiers และเกมพอร์ตของ Persona ในภาคต่าง ๆ
นอกจากนี้ทาง Sega ยังพอใจกับการเปิดให้บริการ Hatsune Miku: Colorful Stage! เป็นอย่างมากที่มาช่วยสร้างรายได้ให้กับเกม free-to-play ของค่าย ซึ่งทาง Sega มีแผนที่จะเปิดให้บริการเกม free-to-play เกมใหม่อีกหนึ่งเกมภายในปีงบประมาณนี้
ที่มา: Twinfinite