Sega แถลงผลประกอบการประจำปี โดยในปีที่ผ่านมาพวกเขาทำรายได้ไปทั้งหมด 320.9 พันล้านเยน (2.5 พันล้านเหรียญ) เพิ่มขึ้น 15.6% และมีกำไรจากการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้นถึง 392% มาอยู่ที่ 32 พันล้านเยน (248 ล้านเหรียญ)
สำหรับในส่วนของคอนเทนต์สื่อบันเทิงทาง Sega ทำเงินในส่วนนี้ได้ 235.9 พันล้านเยน (1.8 พันล้านเหรียญ) เพิ่มขึ้น 8.3% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ซึ่งกำไรที่เพิ่มขึ้นอย่างมากยังมาจากการฟื้นฟูของธุรกิจต่างๆ ที่ขาดทุนเช่น ธุรกิจปาจิงโกะที่ขาดทุนไป 11.3 พันล้านเยน (87.6 ล้านเหรียญ) ที่มามีกำไร 10.2 พันล้านเยน (79.1 ล้านเหรียญ) ในปีนี้ โดยในส่วนของธุรกิจเกมอาร์เคดทาง Sega ก็ได้ยุติกิจการอย่างเป็นทางการแล้วหลังดำเนินกิจการมากว่า 56 ปี
โดยในส่วนของเกมทาง Sega ได้แถลงว่ามีเกมอย่าง Humankind, Lost Judgment, Sonic Colours: Ultimate, Super Monkey Ball: Banana Mania, Shin Megami Tensei V, Football Manager 2022 และ Total War: Warhammer 3 โดยเกมดังกล่าวทั้งหมดนี้สามารถทำยอดขายรวมกันไปได้ 6 ล้านยูนิต ซึ่งในปีงบประมาณนี้ทาง Sega คาดว่าจะสามารถปล่อยเกมออกไปวางจำหน่ายได้อีก 13 เกมและมียอดขายราว 13 ล้านยูนิต ซึ่งประกอบไปด้วย Sonic Frontiers, Sonic Origins, Two Point Campus, 13 Sentinels: Aegis Rim และ Soul Hackers 2 และเกมอื่นๆ ที่ยังไม่มีการเปิดตัว
สำหรับแผนการในระยะยาวทาง Sega ก็จะยังคงเดินหน้าโครงการ Super Games เหมือนกับที่ได้ประกาศไปเมื่อปีที่ผ่านมา ซึ่งมันจะเป็นแฟรนไชส์ที่มาพร้อมกับนวัตกรรมและเน้นไปที่การสร้างชุมชนออนไลน์ การขยาย IP และเน้นไปที่ตลาดระดับโลก ซึ่ง Super Games นี้จะไม่ได้ออกวางจำหน่ายจนกว่าจะถึงปีงบประมาณ 2026 และในตอนนี้ทางค่ายก็จะยังคงเน้นหนักไปที่การเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับแฟรนไชส์ที่มีอยู่แล้วเหมือนเดิม
นอกจากนี้ทาง Sega ยังได้ยืนยันอีกด้วยว่าภาพยนตร์ Sonic the Hedgehog ภาคต่อได้เริ่มดำเนินการสร้างแล้ว หลังจากตัวหนังภาคที่แล้วประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก และได้กลายเป็นภาพยนตร์จากเกมที่ทำเงินสูงสุดเท่าที่เคยมีมาอีกด้วย
โดยในปีงบประมาณนี้ทาง Sega คาดการณ์ว่าจะสามารถทำยอดขายได้ 375 พันล้านเยน (2.9 พันล้านเหรียญ) เพิ่มขึ้น 16.9% โดยในส่วนของคอนเทนต์สื่อบันเทิงก็คาดการณ์ว่าจะสามารถทำรายได้อยู่ที่ 227 พันล้านเยน (2.1 พันล้านเหรียญ) เพิ่มขึ้น 17.4% นอกจากนี้ทาง Sega ยังได้คาดการณ์เกี่ยวกับธุรกิจที่ไม่ใช่เกมอีกด้วยว่าจะสามารถทำกำไรเติบโตได้ 25% มาอยู่ที่ 40 พันล้านเยน (310 ล้านเหรียญ)