ย้อนกลับไปยังญี่ปุ่นในปี 2008 ภาพที่ผู้คนมักจะเห็นกันติดตาก็คือเหล่าผู้คนที่นั่งหลังงองุ้มโดยสิ่งที่อยู่ในมือของพวกเขานั้นก็คือเครื่องเกม PlayStation Portable หรือ PSP หรือเครื่องเกมที่ใครต่างก็มักเรียกมันว่าเครื่องเล่น Monster Hunter ความนิยามของเกมไม่หยุดเพียงแค่ในกลุ่มเด็ก หรือกลุ่มวัยรุ่นเท่านั้น แต่มันยังได้แผ่ขยายไปยังกลุ่มพนักงานเงินกินเงินเดือน ครอบครัว และกลุ่มก้อนสังคมอื่นๆ อีกด้วย ที่พวกเขาต่างกำลังรวมพลังกันเพื่อต่อสู้กับเหล่าสัตว์ประหลาดตัวยักษ์ในโลกที่เต็มไปได้ความแฟนตาซี
Monster Hunter ได้ทำยอดขายไปแล้วเป็นจำนวนกว่า 54 ล้านก๊อบปี้ นับตั้งแต่ที่มันได้ออกวางจำหน่ายเป็นครั้งแรกในปี 2004 จนมาถึงปัจจุบันกับเกมภาคล่าสุดอย่าง Monster Hunter: World ที่ได้ออกวางจำหน่ายในปี 2018 จากการเป็นเพียงความนิยมที่อยู่ในประเทศญี่ปุ่นเท่านั้นแต่การมาของ Monster Hunter: World ยังได้ทำให้มันแผ่ขยายความนิยมออกไปยังในตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะทางฝั่งตะวันตกอีกด้วย การันตีด้วยการที่มันได้กลายเป็นเกมของ Capcom ที่ทำยอดขายได้อย่างรวดเร็วที่สุดเท่าที่เคยมีมา และยังเป็นเกมที่ทำยอดขายได้สูงสุดของแฟรนไชส์อีกด้วยเช่นกัน
เบื้องหลังความสำเร็จของ Monster Hunter เกิดขึ้นจากฝีมือของชายที่ชื่อคุณ Ryozo Tsujimoto ซึ่งตัวเขาไม่ได้ปรากฏตัวออกมาให้เราได้เห็นบ่อยครั้งนักก่อนปี 2008 ในช่วงที่วัฒนธรรมองค์กรของญี่ปุ่นนั้นยังคงยึดแน่นและขึงตรึง แต่คุณ Ryozo มีความแตกต่างไปจากนักพัฒนาเกมคนอื่นๆ ในยุคนั้นเป็นอย่างมาก เขามักจะมาพร้อมกับแจ็กเกตหนังตัวเก่ง และรองเท้าบูตสไตล์แฟชั่น พร้อมด้วยส่งผมที่เรามักได้เห็นตามโทรทัศน์ และมีความเป็นตัวของตัวเองมากกว่าผู้บริหารทั่วไป
คุณ Ryozo Tsujimoto ลูกชายของคุณ Kenzo Tsujimoyo ประธานคนปัจจุบันและหนึ่งในผู้ก่อตั้ง Capcom เขามีคุณ Haruhiro ที่อยู่ในตำแหน่งที่สูงกว่าเป็นพี่ชายและกำลังจะสืบทอดงานของท่านประธานซึ่งเป็นพอของเขาต่อในฐานะของ COO ของบริษัท ในขณะที่คุณ Kenzo ได้ใช้เวลาในสองทศวรรษหลังไปกับการสร้างไร่ไวน์ของเขาใน Napa Valley และในขณะที่คุณ Haruhiro กำลังนำพาการพัฒนาธุรกิจที่กำลังเดินไปของ Capcom คุณ Ryozo กลับเกิดมาเพื่อเป็นนักพัฒนาเกม และจะยังคงทำหน้าที่ในการออกแบบเกมอันคร่ำเคร่งอยู่ต่อไป ซึ่งตัวเขาเองก็คิดว่าเขาคงจะทำสิ่งอื่นใดนอกจากนี้ไม่ได้แล้ว
“ในตอนที่ผมได้เติบโตขึ้นมา Capcom ได้มีการสร้างตู้เกมอาร์เคดแล้ว” เขาเริ่มเล่า “ในประเทศญี่ปุ่นแม้ในแต่ในตอนนี้ตู้เกมแทบจะอยู่ในทุกหนทุกแห่ง และสักหนึ่งแห่งก็อยู่ในละแวกบ้านของพวกเราเสมอ ผมได้เล่นมันเยอะมากๆ ในตอนเด็ก ผมจะเป็นคนประเภทที่ว่าจะไม่มีวันทำงานออฟฟิศทั่วไปอย่างแน่นอน ดังนั้นผมจึงมักต้องการเสมอในการทำงานในอุตสาหกรรมที่เต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ ในตอนที่ผมกำลังหางานหลังจากจบมาจากมหาวิทยาลัย ผมต้องการแค่เกมหรือของเล่นเท่านั้น ผมมาจากยุคแห่งการเล่นเกม ผมอยู่ในยุคที่เครื่อง NES (Nintendo) เป็นของสำหรับเด็กประถม เครื่อง SNES เป็นของสำหรับเด็กมัธยมปลาย ผมได้เติบโตขึ้นมาด้วยเกมเหล่านี้ และมันก็เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลมากที่ผมจะต้องการทำงานกับมันโดยตรง”
ในฐานะของลูกคนที่สามของตระกูล Tsujimoyo คุณ Ryozo ไม่ต้องเผชิญความคาดหวังเช่นเดียวกับที่พี่ชายของเขาเจอ “พี่ของผมต้องเจอกับแรงกดดันมากๆ ในการไปให้ถึงตำแหน่ง” คุณ Ryozo เล่า “ผมเลยมีอิสระที่มากกว่าเล็กน้อย และผมเองก็ไม่ได้เป็นตัวสำรองของการเป็นบางสิ่งอย่างเช่นกัน”
ด้วยอิสระและความคลั่งไคล้ทำให้คุณ Ryozo เริ่มต้นอาชีพด้วยการเป็นนักวางแผน ในฐานะของคนญี่ปุ่นที่ได้ทำงานส่วนหนึ่งเป็นนักออกแบบเกม และส่วนหนึ่งก็เป็นผู้จัดการโครงการ ในการทำงานกับเกมอาร์เคดที่บริษัทของพ่อเขาเป็นคนสร้างในปี 1994 “ในตอนนั้น เครื่องอาร์เคดเป็นเครื่องที่มีสเปคสูงที่สุดที่มี และมันก็มีช่องว่างอันใหญ่โตระหว่างสิ่งที่คุณทำกับเกมอาร์เคดและสิ่งที่คุณทำในเกมคอนโซล” เขาเล่า “แต่เมื่อเวลาได้ผ่านไปเครื่องคอนโซลก็เริ่มลดระยะห่างเข้าใกล้กันขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้มันสามารถสร้างสิ่งที่มีคุณภาพสูง และเริ่มที่จะนำไปสู่ประสบการณ์ที่ล้ำขึ้นบนเครื่องคอนโซลได้ และพวกเขาก็ยังมาพร้อมกับบางสิ่งอย่างที่ใหม่อย่างระบบ ออนไลน์และความสามารถในการเชื่อมต่อโครงข่ายเน็ตเวิร์ค ซึ่งทำให้เราสามารถสร้างบางสิ่งที่มีความพิเศษจริงๆ ขึ้นมาได้”
เกม Monster Hunter ภาคแรกออกวางจำหน่ายให้กับเครื่องเกม PlayStation 2 ในปี 2004 และเป็นหนึ่งในสามการทดลองของ Capcom ที่มาพร้อมกับความสามารถในการเชื่อมต่อแบบออนไลน์ (ซึ่งอีกสองเกมนั้นก็ได้แก่ Auto Mellista และ Resident Evil Outbreak) คุณ Ryozo รับหน้าที่ในการสร้างเกมทั้งสาม และเป็นผู้ควบคุมทิศทางและวางแผนสำหรับระบบออนไลน์ของพวกเขาทั้งหมด “บางที Monster Hunter อาจจะเป็นผลผลิตที่เกิดจากเกมเหล่านั้น” เขากล่าว “ยิ่งเราทำฟีเจอร์สำหรับออนไลน์มากเท่าไหร่ เราก็ยิ่งได้รับประสบการณ์ที่มากขึ้น และยิ่งทำให้เราสามารถนำไปใช้ในฟีเจอร์ที่ดีขึ้นได้อีกด้วย Monster Hunter นั้นมาพร้อมกับชื่อเสียงของ Capcom ด้วยเกมเพลย์ที่อยู่ในระดับขั้นสุดยอด และยังได้รวมเอาสภาพแวดล้อมในการเล่นร่วมกันผ่านระบบออนไลน์เอาไว้อีกด้วย”
การเล่นร่วมกันคือความลับที่ทำให้ Monster Hunter ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในประเทศญี่ปุ่น แต่มันมาเฉิดฉายจริงๆ กับการเป็นเกมบนเครื่อง PSP ในเกมภาค Monster Hunter Freedom 2 ที่ออกวางจำหน่ายในปี 2007 ซึ่งเป็นเวลาเดียวกันกับที่คุณ Ryozo Tsujimoto ได้รับตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการของซีรีส์ มันเป็นหนึ่งในเกมที่เต็มไปด้วยความท้าทาย แต่ด้วยการเล่นร่วมกับเพื่อนอีกสามคน มันก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะต้องเล่นเป็นผู้เล่นที่มากความสามารถมากที่สุด ซึ่งนั่นก็ทำให้มันเป็นเกมที่สามารถเข้าถึงได้กับผู้คนทุกเพศและทุกวัยที่จะได้มาเล่นเกมร่วมกัน ซึ่งโครงสร้างในความเป็นคนเมืองของญี่ปุ่นที่มีความใกล้ชิดกันเป็นสิ่งที่เหมาะสมมากสำหรับการเล่นเกมพกพาที่ทำให้พวกเขาล้วนสามารถเล่นร่วมด้วยกันได้ ซึ่งแตกต่างจากสังคมตะวันตกในยุคนั้นเป็นอย่างมากที่ผู้คนมักจะเล่นเกมผ่านทางระบบออนไลน์อยู่ในบ้านที่ห่างไกลกัน
และสภาพสังคมโดยรวมเหล่านั้นก็มิได้เปลี่ยนแปลงไปในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา เพื่อที่จะได้ให้เกม Monster Hunter เจาะเข้าไปยังสังคมเหล่านั้น สิ่งที่ทำให้พวกเขาสามารถทำได้สำเร็จก็คือเทคโนโลยีที่ Capcom เริ่มนำมาใช้ที่ได้เปลี่ยนแปลงไป Monster Hunter World คือเกมแรกของซีรีส์ที่ถูกสร้างมาเพื่อผู้คนทั้งโลก ในขณะที่เกมก่อนๆ ของพวกเขามันได้ถูกสร้างมาเฉพาะกับคนญี่ปุ่นโดยเฉพาะ ก่อนที่มันจะได้ถูกดัดแปลงให้ผู้คนในส่วนอื่นๆ ของโลกได้เล่นในอีกปีหรือสองปีให้หลังการวางจำหน่าย และมันยังเป็นเพราะการที่มันเป็นเกมบนเครื่อง PlayStation 4 ซึ่งไม่ใช่เครื่องเกมพกพาอีกด้วย นั่นจึงทำให้มันไม่จำเป็นที่ผู้เล่นจะต้องมาอยู่ใกล้ชิดกัน ซึ่งทำให้เราสามารถที่จะเล่นร่วมกับผู้เล่นทั้งโลกได้ง่ายขึ้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมากก่อน ทั้งยังมาพร้อมกับความงดงามและ ความรู้สึกทางธรรมชาติ และชีววิทยาที่มีความเป็นไปได้ของเหล่าสัตว์ประหลาดแฟนตาซีเหล่านี้ แต่ด้วยความซับซ้อนนี้ก็ทำให้มันต้องใช้เวลาในการสร้างเป็นเวลาหลายปีเลยทีเดียว
“ตลอดที่ผ่านมาของซีรีส์นี้ เราได้เสริมฟีเจอร์และระบบต่างๆ มากมายให้กับมัน” คุณ Ryozo Tsujimoto เล่า “และมันก็ได้นำพามาถึงจุดที่เราได้สร้าง World แม้ว่าเราจะมีเทคโนโลยีที่ยอดเยี่ยมมากอยู่ในมือ แต่เราก็ต้องการที่จะถอยหลังกลับไปเพื่อใช้เทคโนโลยีนั่น ไม่ใช่เพียงแค่การขัดเกลาในสิ่งที่มันเป็นและออกแบบเพิ่มเติมเข้าไป แต่มันยังต้องมีการคิดใหม่ทำใหม่ในการสร้าง Monster Hunter ว่ามันควรจะเป็นอย่างไร และกลับไปยังในส่วนของแก่นในการออกแบบของเกมอีกครั้ง แต่ด้วยเทคโนโลยีใหม่มันก็ทำให้เรามี ระบบนิเวศที่สดใสและมีรายละเอียดมากขึ้น ไม่ได้มีเพียงแค่ตัวของผู้เล่นและศัตรูอยู่ในฉากเพียงเท่านั้น คุณได้กระโดดเข้าไปยังโลกที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาที่เหล่าสัตว์ประหลาด และพืชพันธุ์มีความคงอยู่และมีพฤติกรรมที่ส่งผลต่อกัน และมันก็เป็นโอกาสที่ดีในการเก็บสิ่งเหล่านี้เอาไว้และคิดถึงอนาคตของมันต่อจากนี้”
สิ่งเหล่านี้ได้ทำให้ Monster Hunter World ประสบความสำเร็จทั้งจากคำวิจารณ์และด้านการตลาดอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน และได้นำพาให้คุณ Ryozo Tsujimoto มาอยู่ในตำแหน่งที่เคยไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะได้เป็นกับการรับหน้าที่เป็นผู้อำนวยการบริหารการผลิตของเกม Monster Hunter ที่ซึ่งเขาได้นำพาทีมงานกว่าร้อยคนในการสร้างสรรค์สัตว์ประหลาดใหม่ๆ ถิ่นที่อยู่ของมันและประสบการณ์สำหรับผู้เล่น แต่ความคลั่งไคล้ของเขาในการสร้างวิดีโอเกมนั้นก็ยังคงไม่เสื่อมคลาย
“ผมยังคงมีวิธีการในการระบายความคิดสร้างสรรค์ในงานของผม” Ryozo Tsujimoto ย้ำ “การเป็นผู้อำนวยการสร้างมันต้องมีความรับผิดชอบในไตเติลนั้นมากและ และยังต้องมีทีมงานที่ยอดเยี่ยมไม่เช่นนั้นมันก็จะไม่ได้มีเกมออกมา ผู้คนนับร้อยทำงานเบื้องหลังให้กับ Monster Hunter และผมก็ไม่ต้องการที่จะเคลมว่าทั้งหมดนั้นมันเป็นเพราะผม ผมได้สร้างเกมนี้มาตั้งแต่ขั้นตอนในการออกแบบแนวคิดไปจนถึงขั้นตอนในส่วนสุดท้ายของเกมการเล่น ผมยังคงมีส่วนร่วมกับเกมการเล่นในทุกด้านของมัน ผมไม่ใช่คนที่แค่มาเพียงเพื่อสวมชุดสูทเพียงอย่างเดียว”
สำหรับ Monster Huner World: Iceborne นั้นจะออกวางจำหน่ายบน PS4 และ Xbox One ในวันที่ 6 กันยายนนี้ และเวอร์ชัน PC จะตามมาในภายหลังในเดือน มกราคม 2020