ออกวางจำหน่ายไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับ Red Dead Redemption 2 แปดปีในการพัฒนาที่สมการรอคอย ด้วยคะแนนวิจารณ์อย่างท่วมท้นจากทุกสำนักจนอาจกล่าวได้ว่ามันคือ “เกมแห่งทศวรรษ” นี้ และเพียงหลังจากวางจำหน่ายได้ไม่นานมันก็ทำให้หุ้นของ Take-Two Interactive ผู้ผลิตและจัดจำหน่าย พุ่งขึ้นจาก 117.26 ดอลลาร์สหรัฐ ไปจบที่ 120.70 ดอลลาร์สหรัฐ ภายในเวลาเพียงชั่วข้ามคืน
แม้จะยังไม่มีตัวเลขของยอดการวางจำหน่ายออกมาอย่างเป็นทางการ แต่ทางนักวิเคราะห์ด้านการลงทุนจากหลายสำนัก ต่างก็คาดการณ์เอาไว้ว่า มันได้ทำยอดขายทะลุ 8 ล้านยูนิตไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ภายในเวลา 3 วันเท่านั้น หลังจากที่เกมออกวางจำหน่าย
Michael Pachter หนึ่งในนักวิเคราะห์อุตสาหกรรมเกมชื่อดัง ได้ทำการคาดคะเนความสำเร็จในครั้งนี้ของ Rockstar Games ผู้พัฒนาเกม Red Dead Redemption 2 เอาไว้ว่า มันจะทำยอดขายได้ถึง 15 ถึง 17 ล้านยูนิตภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งเป็นยอดขายที่ทางร้านค้าปลีกขายไปให้กับผู้ซื้อกับมือ (Sell-IN) แต่ตัวเลขของการวางจำหน่ายไปยังร้านค้าปลีก (Sell-THROUGH) ที่ Take-Two Intractive ผู้ผลิตเกมจะแถลงนั้น ก็อาจจะเป็นจำนวนที่มากกว่า และอาจอยู่ที่ 20 ล้านยูนิต
หากเรามองไปยังตัวเลขในตลาดหุ้นของ Take Two Interactive แล้ว Red Dead Redemption 2 ก็ยังไม่สามารถฝ่าตัวเลขมูลค่าสูงสุดของหุ้นที่ 138 ดอลลาร์สหรัฐ ไปได้ ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะเรื่องราวที่กำลังเป็นข้อถกเถียงกันอยู่ในตอนนี้ หลัง Dan Houser ผู้ร่วมก่อตั้ง Rockstar Games ได้ออกมาบอกว่าทีมงานของเขาทำงานกันอย่างหนักถึง 100 ชั่วโมงต่อสัปดาห์เพื่อสร้างเกมๆ นี้
และมันก็คือปัญหาเรื่องการพัฒนาเกมที่เร่งรีบ ที่อุตสาหกรรมเกมกำลังเผชิญกับสภาวะที่เรียกว่า “Crunch Culture” กับการทำงานอย่างหนักที่ขับเคลื่อนด้วย Passion ของลูกจ้างผู้รักชอบในวิดีโอเกม