Ratchet & Clank: Rift Apart เป็นเกมผจญภัยแพลตฟอร์มเมอร์ผลงานการพัฒนาของทีมงาน Insomniac Games ที่ได้ทาง Sony Interactive Entertainment มาเป็นผู้จัดจำหน่าย ซึ่งตัวเกมจะเป็นเกมที่มาพร้อมกับภาคกราฟิกและการแสดงผลในแบบฉบับของเกมยุคใหม่แบบจัดเต็มที่จะแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของเครื่องเกม PlayStation 5
Ratchet & Clank: Rift Apart นับเป็นเกมในซีรีส์ Ratchet & Clank ภาคที่สิบหกแล้ว โดยเรื่องราวในเกมภาคนี้จะดำเนินเรื่องหลังเหตุการณ์ในเกม Ratchet & Clank: Into the Nexus ที่ออกวางจำหน่ายตอนปี 2013 และ Ratchet & Clank ฉบับสร้างใหม่ที่ออกวางจำหน่ายเมื่อปี 2016 ที่ผ่านมา แต่ตัวเกม Ratchet & Clank: Rift Apart ทางทีมงานยืนยันว่ามันจะมีเนื้อหาที่จบในตัวและไม่เชื่อมโยงกับเกมในภาคอื่นๆ ซึ่งผู้เล่นหน้าใหม่จะได้รับประสบการณ์ที่จบลงในตัวภายในเกมภาคนี้อย่างแน่นอน
Ratchet & Clank: Rift Apart ยังคงมีรูปแบบการเล่นคล้ายคลึงกับ Ratchet & Clank ฉบับ 2016 ด้วยการที่ตัวเกมยังคงมีกลไกต่างๆ ของตัวเกมในซีรีส์นี้อย่างครบถ้วนไม่ว่าจะเป็นกลไกการยิงต่อสู้, การหลบหลีก, การออกไปตามเก็บสะสมโบลท์ และการอัปเกรดอาวุธและอุปกรณ์ต่างๆ เหมือนเดิม แต่ในเกมภาคนี้ แร็ตเชต (Ratchet) จะมีอาวุธชนิดใหม่มาให้ได้ใช้งานเพิ่มมากขึ้นจากการที่ในเกมภาคนี้ผู้เล่นจะได้รับบทเป็น รีเวท (Rivet) อีกหนึ่งตัวละครที่จะมาร่วมผจญภัยไปกับ แร็ตเชต และ แคลงก์ (Clank) ด้วย
โดยจุดเด่นของ Ratchet & Clank: Rift Apart คงหนีไม่พ้นการเปลี่ยนฉากแบบ real-time เพื่อโชว์ศักยภาพความเร็วในการโหลดของ PlayStation 5 โดยผู้เล่นจะสามารถเคลื่อนผ่านฉากหรือแม้กระทั่งวาร์ปยังดาวดวงอื่นได้แทบจะทันทีด้วยกลไกใหม่ของเกมที่ชื่อว่า Rift Tether และกลไกการเคลื่อนไหวต่างๆ ของทั้ง แร็ตเชตและ รีเวท นั้นก็จะมีความลื่นไหลมากขึ้นกว่าที่ผ่านมาด้วย และมีความหลากหลายมากขึ้นกว่าเดิมด้วยการที่ทีมงานได้ใส่กลไกการวิ่งไต่กำแพง (wall running) และการหลบหลีก (dash) เข้ามาด้วย
สำหรับเรื่องราวในเกม Ratchet & Clank: Rift Apart ตัวเกมจะเล่าเรื่องราวจากผจญภัยข้ามจักรวาลของทั้งสองคู่หูเพื่อหยุดยั้งแผนการร้านของ ดอกเตอร์ เนฟาเรียส (Nefarious) ศัตรูคู่ปรับของทั้งคู่ที่กำลังหาผลประโยชน์จากเหตุการณ์ที่มิติต่างๆ เริ่มพลังทะลาย เพื่อสานฝันของเขาในการกำจัดสิ่งมีชีวิตออร์แกนิคให้หมดไปจากจักรวาล แต่แล้ว Dimensionator อุปกรณ์อันทรงพลังที่ถูกสร้างโดยชาว ลอมแบ็ก (Lombax) ก็เกิดการทำงานที่ผิดปกติขึ้นและทำให้ประตูมิติได้ถูกเปิดออกเป็นเส้นทางไปสู่มิติอื่น และทำให้ทั้ง แร็ตเชต และ แคลงก์ ต้องหาหนทางในการทำลาย Dimensionator พร้อมกับหยุดแผนการร้ายให้ได้ด้วยความช่วยเหลือของ รีเวท ชาว ลอมแบ็กหญิงผู้นำกลุ่มกองกำลังต่อต้านจักรพรรดิเนฟาเรียส ที่ทำให้ทั้งสามต้องออกผจญภัยในมิติต่างๆ ไปด้วยกันนั่นเอง
Ratchet & Clank: Rift Apart จะเป็นเกมที่ใช้ศักยภาพของเครื่อง PlayStation 5 อย่างเต็มที่ทั้งระบบการสั่นและการตอบสนองของ DualSense ที่จะทำให้การกดปุ่ม Trigger ด้วยความแรงที่แตกต่างกันจะสามารถใช้เป็นการเปลี่ยนโหมดการยิงของอาวุธต่างๆ ได้ และก็ยังมาพร้อมกับระบบเสียงที่ออกแบบมาเพื่อ Tempest Engine ที่จะให้เสียงสามมิติที่สมจริง และก็ยังมาพร้อมกับการแสดงผลแบบ ray tracing อีกด้วย โดยเกมจะมีระบบการแสดงผมให้เลือกทั้งโหมด 4K ที่เฟรมเรต 30 เฟรมต่อวินาที และ performance mode จะทำให้เกมสามารถแสดงผลได้ที่ 60 เฟรมต่อวินาที
เท่านั้นยังไม่พอ Ratchet & Clank: Rift Apart ยังมาพร้อมกับเพลงประกอบที่ได้จากทาง Mark Mothersbaugh ที่เคยทำเพลงประกอบให้กับภาพยนตร์ Thor: Ragnarok และ The Croods: A New Age มาเป็นผู้ประพันธ์ให้อีกด้วย
Ratchet & Clank: Rift Apart จะวางจำหน่ายให้กับเครื่อง PlayStation 5 ในวันที่ 11 มิถุนายน 2021