Nintendo เปิดเผยผลประกอบการในไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2022 ออกมาแล้วโดยที่เครื่อง Nintendo Switch ยังคงมียอดขายเป็นที่น่าพึงพอใจ แต่ยอดขายและกำไรโดยรวมของบริษัทลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา
โดย Nintendo ทำรายได้รวมสุทธิไปได้ 2.94 พันล้านเหรียญในช่วงไตรมาสแรกของปีงบประมาณที่สิ้นสุดลงในวันที่ 30 มิถุนายน 2022 โดยลดลงจากปีก่อนหน้าถึง 10 เปอร์เซ็นต์ และมีกำไรสุทธิที่ลดลงมาอยู่ที่ 846 ล้านเหรียญลดลงจากเดิม 13 เปอร์เซ็นต์
สำหรับสาเหตุที่ตัวเลขในปีนี้ลดลงก็เป็นเพราะในช่วงไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2021 ผู้คนมีความต้องการสื่อบันเทิงที่เพิ่มมากขึ้นจากมาตรการล็อกดาวน์จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 และเกม Animal Crossing: New Horizons ที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากด้วยยอดส่งออกไปวางจำหน่ายที่สูงถึง 10.6 ล้านยูนิตภายในไตรมาส ซึ่งในไตรมาสที่ผ่านมาทาง Nintendo มีเกมที่ใหญ่ที่สุดคือเกม Pokémon Snap ที่ทำยอดส่งไปวางจำหน่ายได้เพียง 2.07 ล้านยูนิตเท่านั้น
โดยเกมอื่นๆ ของ Nintendo ที่สามารถทำยอดขายได้เป็นอย่างมากก็ได้แก่ Miitopia ที่ทำยอดส่งไปวางจำหน่ายได้ 1.04 ล้าน Mario Golf: Super Rush ที่ทำไปได้ 1.34 ล้าน และเกมเก่าอย่าง Mario Kart 8: Deluxe ที่ทำยอดขายไปได้เพิ่มอีก 1.69 ล้านยูนิต และทำให้ตอนนี้เกมมียอดขายรวม 37.08 ล้านยูนิตแล้ว และเกม Animal Crossing: New Horizons ที่ทำยอดขายรวมไปได้ 33.9 ล้านยูนิต
ซึ่งโดยรวมแล้วเกมบนเครื่อง Nintendo Switch สามารถทำยอดขายไปได้ 45.29 ล้านยูนิตซึ่งลดลง 10.2 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกันปีต่อปี และมีเกม 9 เกมที่สามารถทำยอดขายไปได้เกิน 1 ล้านยูนิต ซึ่งเป็นเกมจากทาง Nintendo 7 เกมและเป็นเกมจากค่ายเกมอื่นๆ 2 เกมด้วยกัน
สำหรับในส่วนของยอดขายเครื่องเกมคอนโซลทาง Nintendo สามารถวางจำหน่ายเครื่องเกม Nintendo Switch ไปได้อีก 4.45 ล้านยูนิต ลดลงจากปีก่อนหน้าถึง 21.7 เปอร์เซ็นต์ โดยส่วนใหญ่แล้วเป็นยอดขายของ Nintendo Switch Lite ที่ลดลงเป็นอย่างมากสวนทางกับเครื่อง Nintendo Switch เวอร์ชันปกติที่เพิ่มขึ้นปีต่อปี ซึ่งเป็นผลมาจากการที่ตัวเครื่อง Nintendo Switch ขาดตลาดในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 เมื่อปีที่ผ่านมา
โดยในตอนนี้เครื่อง Nintendo Switch ได้ส่งออกไปวางจำหน่ายทั่วโลกรวมทั้งหมดแล้ว 89.04 ล้านยูนิต โดยทาง Nintendo คาดว่าจะสามารถวางจำหน่ายเพิ่มเติมได้อีก 20.5 ล้านยูนิตภายในช่วงสิ้นสุดเดือนมีนาคม 2022 โดยทาง Nintendo ได้มีการประมาณการว่าเครื่องที่ส่งออกไปวางจำหน่ายได้ถึงมือผู้เล่นราว 85 ล้านคนแล้วในตอนนี้
สำหรับในส่วนของยอดขายเกมแบบดิจิทัลทางตัวเลขก็ลดลง 24.9 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบปีต่อปี มาอยู่ที่ 692 ล้านเหรียญ ซึ่งคิดเป็น 46.9 เปอร์เซ็นต์ของรายได้จากการขายซอฟต์แวร์ทั้งหมดของ Nintendo ที่เกมในแพ็กเกจแบบดาวน์โหลดมีการวางจำหน่ายที่น้อยลง แต่ทาง Nintendo ก็ยืนยันว่าตัวเลขเกมแบบดาวน์โหลดโดยเฉพาะ (download-only) ยังคงมีตัวเลขที่คงที่ ซึ่งรวมไปถึงเกมจากนักพัฒนาอิสระต่างๆ และยอดผู้ใช้งาน Nintendo Switch Online ก็เพิ่มขึ้นจากเดิมอีกด้วยในช่วงไตรมาสที่ผ่านมา
โดยทาง Nintendo ให้เครดิตเกม Animal Crossing: New Horizons ที่ช่วยให้ธุรกิจดิจิทัลของพวกเขาเติบโตมั่นคงอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี 2020 แต่อย่างไรก็ดีในส่วนของธุรกิจเกมมือถือของ Nintendo ก็ยังคงลดลงปีต่อปี แต่กลับมีกำไรที่เพิ่มมากขึ้นจนส่งผลให้โดยรวมแล้วธุรกิจเกมมือถือและ IP ต่างๆ ยังคงทรงตัวอยู่ที่ 120 ล้านเหรียญ และทาง Nintendo ยังมีแผนที่จะซื้อหุ้นกลับมาถึง 1.8 ล้านหุ้นที่คิดเป็น 1.51 เปอร์เซ็นต์ของทั้งหมดกลับมาในวันที่ 15 กันยายนนี้อีกด้วย
