เทคโนโลยีอวกาศของ NASA มีส่วนช่วยในการสร้างเกมอย่างไร?

ลายคนอาจจะคิดว่าการสร้างวิดีโอเกมนั้นอาจจะไม่จำเป็นที่จะต้องพึ่งพาความสมจริงมากนัก เพราะจุดประสงค์หลักของมันก็คือการสร้างความบันเทิง เพื่อที่จะได้ให้ผู้คนหลบหลีกจากโลกแห่งความเป็นจริงมาสิงสู่อยู่กับความเป็นแฟนตาซีที่เกมมอบ

แต่นั่นคงไม่ใช่กับอดีตเกมของทางค่าย EA เกมหนึ่ง ที่มาพร้อมกับความทะเยอทะยานของทีมพักพัฒนา ในการสร้างสภาพแวดล้อมในเกมที่จำลองมาจากสภาพแวดล้อมที่มีอยู่จริง แต่อุปสรรคของมันก็คือสถานที่ ที่มนุษย์ไม่อาจเอื้อมถึง ถึงขนาดต้องใช้ข้อมูลจากดาวเทียมของ NASA ในการสร้าง

Terra deploy

ในปี 1999 NASA ได้ปล่อยดาวเทียมที่ชื่อว่า Terra ออกไปสู่ชั้นบรรยากาศ และมันก็ทำให้เหล่านักวิทยาศาสตร์สามารถทำความเข้าใจกับความสัมพันธ์ระหว่าง ชั้นบรรยากาศ,สภาพพื้นดิน, หิมะ, มหาสมุทร และพลังงานได้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม ไปพร้อมกับได้เปิดเผยให้เราได้รับรู้ว่าสภาพอากาศของโลก กำลังเปลี่ยนไป และการเปลี่ยนแปลงนั้น ก็เป็นผลมาจากกิจกรรมต่างๆ ของมนุษย์

ซึ่งหนึ่งในอุปกรณ์ของ Terra ที่ถูกนำขึ้นไปบนชั้นบรรยากาศก็คือเจ้า “Advanced Spaceborne Thermal Emission and Reflection Radiometer” หรือ “ASTER” นั่นเอง ที่ทำให้เราได้ทราบถึงข้อมูลต่างๆ ของสภาพพื้นผิวของโลก ที่ได้ถูกนำไปใช้ด้วยจุดประสงค์ต่างๆ มากมาย และหนึ่งในนั้นก็คือ การที่มันได้ถูกใช้เพื่อนำไปสร้างวิดีโอเกมให้มีความสมจริง

ASTER Terra

ข้อมูลจาก ASTER นั้นได้ถูกนำไปใช้ในเกมของทางค่าย Electronic Arts หรือ EA บริษัทเกมยักษ์ใหญ่ที่ตั้งอยู่ที่เมือง Redwood แคลิฟอร์เนีย ที่คนเล่นเกมน่าจะรู้จักมักคุ้นกันเป็นอย่างดี และเกมที่ว่านนั้นก็คือเกมที่ชื่อ “Super Snowcross” หรือ “SSX” เกมที่เป็นการรีบูตเอาเกมแนวสโนว์บอร์ดยอดนิยมของ EA กลับมาวางจำหน่ายอีกครั้งด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ของยุคนั้นบนเครื่องเกม PlayStation 3 และ Xbox 360

ซึ่งในปี 2009 ก่อนที่มันจะได้ออกวางจำหน่ายมันก็เต็มไปด้วยปัญหาระหว่างการพัฒนา ที่มาพร้อมกับความทะเยอทะยานของทีมงานที่ต้องการจะนำเสนอสภาพภูมิทัศน์ของเทือกเขาอันสูงใหญ่ให้มีความเป็นจริงที่สุดเท่าที่จะทำได้

นั่นทำให้ทาง EA ต้องพึ่งข้อมูลจาก ASTER ในการสร้างสนามการแข่งขันในเกม SSX ตัวอย่างเช่น แลนด์มาร์กที่โดดเด่นของเกมอย่าง พื้นที่ ที่เป็นอดีตโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่อยู่ในเทือกเขาของไซบีเรีย เป็นต้น

“เกมซีรีส์นี้มีความใหญ่ และก็เต็มไปด้วยความบ้าเหนือสิ่งอื่นใด ซึ่งเราต้องการที่จะส่งมอบคอนเทนต์อันมหึมานี้ ด้วยการสร้างภูมิทัศน์ภายในเกมทั้งหมด” นั่นคือสิ่งที่คุณ Todd Batty โปรดิวเซอร์และผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์ของเกม SSX ได้กล่าวไว้ในช่วงของการพัฒนาเกม ซึ่งก็ได้นำไปสู่ตัวซอฟต์แวร์ที่พวกเขาได้พัฒนาขึ้นเองที่ชื่อว่า “Mountain Man” ที่ใช้ในการสร้างสภาพพื้นผิวที่เป็นภูเขาในวิดีโอเกม แต่อย่างไรก็ดีมันเจ้าตัวซอฟต์แวร์นี้มันก็ยังคงมีข้อจำกัดอยู่ในการสร้างสภาพแวดล้อมให้เป็นไปตามที่ทีมงานต้องการ

“ในตอนที่เราได้ทำงานวิจัยเกี่ยวกับภูเขาที่ตั้งอยู่บนโลก และนำมาเปรียบเทียบกับสิ่งที่เราได้สร้าง ภูเขาของเรามันไม่ได้มีคุณลักษณะที่เหมือนกันเลย ไม่มีจุดโดดเด่นที่น่าสนใจ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ของภูเขามีชื่อต่างๆ ที่ตั้งอยู่บนโลก” คุณ Todd Batty อธิบายว่าทำไมถึงทำให้พวกเขาจำต้องพึ่งพาข้อมูลจาก ASTER

Mountain Man

ซึ่งก็เป็นหัวหน้าทีมเทคนิค และโปรแกรมเมอร์ที่กำลังสร้างเกม SSX อยู่ ณ ขณะนั้นที่ได้ไปพบกับ ข้อมูลที่ออนไลน์จาก ASTER ที่ทาง NASA เปิดให้ดาวน์โหลดไปใช้ได้แบบสาธารณะ ซึ่งทีมงานก็ได้นำเอาข้อมูลนั้นมาแปลงให้เป็นฟอร์แมตที่สามารถใช้งานร่วมกับ Mountain Man ได้

เพราะข้อมูลจาก ASTER เพียงอย่างเดียวไม่สามารถที่จะทำให้ทีมงานสร้างสภาพพื้นผิวที่สมบูรณ์ได้ ดังนั้นมันจึงต้องนำมาควบรวมเข้ากับ Mountain Man ที่เป็นซอฟต์แวร์ของพวกเขาเอง ในการสร้างภูเขาในเกมที่มีความน่าตื่นตา และมีความสมจริงที่ขีดสุดอย่างที่ใครหลายคนน่าจะได้เห็นในเกม

“ในตอนที่เราเจอมัน เราก็เริ่มมองเห็นแล้วว่าอะไรที่เป็นปัจจัยสำคัญที่ขาดไม่ได้สำหรับภูเขาจริงๆ และเราปล่อยให้หน้าที่ในส่วนที่เหลือเป็นของ Mountain Man และศิลปินในการต่อเสริมเติมแต่งมันให้ยิ่งขึ้นไป ซึ่งมันเปรียบเหมือนปริศนาชิ้นสุดท้ายที่เป็นบทพิสูจน์ในการสร้างเกมๆ นี้”

และมันก็ทำให้เกม SSX ที่ออกวางจำหน่ายในปี 2012 นั้นเป็นเกมแรกของซีรีส์ที่มีภูเขาจริงๆ ในเกม ซึ่งในตอนที่เกมพัฒนาเสร็จสิ้น มันมีภูเขาจริงๆ ถึง 28 ลูกและมันก็เต็มไปด้วยเส้นทางการแข่งขันที่หลากหลาย ซึ่งข้อมูลของ ASTER ก็ยังได้ให้รายละเอียดต่างๆ และพื้นเพที่สมจริงของภูเขา รวมไปถึงสภาพพื้นผิวของโลกแห่งความเป็นจริงที่ได้เข้าไปอยู่ในโลกของวิดีโอเกมอีกด้วย

นั่นจึงเป็นที่มาที่ทำให้สภาพพื้นผิวของเกม SSX มีความน่าตื่นตา และมีความเป็นภูเขาที่สมจริง เพราะ EA นั้นได้เลือกที่จะใช้ข้อมูลของ ASTER เป็นพื้นฐานและนำไปต่อยอดให้มากยิ่งขึ้น ที่มาพร้อมกับแลนด์มาร์กที่หลากหลายที่ตั้งอยู่บนภูเขาเหล่านั้น ไม่ว่าจะเป็นโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ถูกทิ้งร้างไปจนถึงกำแพงเมืองจีน

SSX

แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น แต่การใช้ข้อมูลจาก ASTER ในการพัฒนาเกมก็ยังไม่ใช่แนวคิดหลักที่เป็นกระแสของเหล่าผู้พัฒนาเกมส่วนใหญ่ แต่ทาง EA เองก็หวังว่าสักวันหนึ่งพวกเขาจะได้นำเอาข้อมูลอันมีประโยชน์ของ NASA มาใช้อีกครั้งแน่นอนหากมีโอกาสที่จะทำได้อย่างแน่นอน

“ผมมั่นใจเลยว่า ถ้าเราได้ทำเกมซีรีส์นี้อีกครั้ง เราก็จะใช้ข้อมูลนี้อีกอย่างแน่นอน เพราะมันเป็นประสบการณ์ที่สุดยอดมากสำหรับเรา”

นั่นคือสิ่งที่คุณ Todd Batty กล่าวทิ้งท้าย แต่น่าเสียดายที่ปัจจุบันเกมในซีรีส์ SSX นั้นได้เสื่อมความนิยมลง และ SSX ที่ออกวางจำหน่ายในปี 2012 ก็กลายเป็นเกมภาคสุดท้ายที่ได้วางขาย

แต่เราก็เชื่อว่าสักวันหนึ่ง เราจะได้เห็นวงการอุตสาหกรรมเกมหันมาพึ่งพาข้อมูลทางวิทยาศาสตร์กันมากขึ้น ไปพร้อมกับการพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ ที่สามารถสร้างความบันเทิงบนความสมจริง ไปพร้อมกับให้แง่คิดต่างๆ รวมไปถึงอาจเป็นการช่วยแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นโลกแห่งความเป็นจริง ที่ทำให้มันมากกว่าเกมได้อย่างแน่นอน

สำหรับผู้ที่สนใจข้อมูลจาก ASTER ของดาวเทียม Terra ก็สามารถเข้าอ่านกันได้ที่: terra.nasa.gov

Share this article
0
Share
0 Share
0 Tweet
0 Share
0 Share
Shareable URL
0
Share