Call of Duty: Modern Warfare 2 น่าจะเป็นหนึ่งเกมที่แฟนเกมหลายคนคิดเห็นตรงกันว่ามันเป็นจุดสูงสุดของแฟรนไชส์นี้ แม้มันกาลเวลาจะผ่านมาหลายปีดีดักแต่ ณ ปัจจุบันมันก็ยังไม่มี Call of Duty ภาคไหนที่ทำออกมาได้เทียบเคียง แต่มันก็เป็นผลงานสุดท้ายของทีมงาน Infinity Ward ชุดเดิมภายใต้ร่มเงาของสองผู้ก่อตั้งอย่าง Jason West และ Vince Zampella ก่อนที่ทั้งสองจะมีปัญหาภายในกับทางผู้ผลิตเกมอย่าง Activision จนต้องระหกระเหินออกจากทีมงานไปพร้อมกับลูกทีมอีกเป็นจำนวนมากเพื่อไปก่อตั้งสตูดิโอแห่งใหม่ที่ชื่อว่า Respawn Entertainment แต่การกลับมากำเนิดใหม่อีกครั้งของ Modern Warfare ในคราวนี้มันยังได้ชักนำให้เหล่าทีมนักพัฒนาเกมในยุคบุกเบิกกลับมาอีกด้วย แต่เพราะเหตุใดกันพวกเขาจึงกลับมาอีกครั้งหลังจากถูกทอดทิ้งอย่างไม่เหลียวแล
เรื่องราวทั้งหมดอาจจะเริ่มจากหัวหอกหลักของเกมอย่างคุณ Joel Emslie ผู้ทำหน้าที่ออกแบบงานศิลป์ให้กับเกมอย่าง Titanfall และ Titanfall 2 รวมไปถึงอดีตนักออกแบบเกมอย่างคุณ Geoff Smith และหัวหน้าฝ่ายแอนิเมชันอย่างคุณ Mark Grigsby ที่ได้เล็งเห็นถึงเทรนด์ของแวดวงอุตสาหกรรมเกมบางอย่างที่น่าสนใจ
คุณ Joel Emslie มีความคลั่งไคล้และมีแรงผลักดันมาจากเกมอย่าง Counter Strike เป็นอย่างมาก และนั่นมันก็ทำให้เขาต้องการที่จะกลับมาสร้างเกมที่มีการต่อสู้ที่ดูติดดินอีกครั้ง “ผมจำได้ว่ามันมีจุดหนึ่งที่ผมคิดว่าผมเหนื่อยหน่ายกับพวกการวิ่งไต่กำแพง และเจ็ตแพ็กหรืออะไรทำนองนั้น” คุณ Emslie กล่าว “อุตสาหกรรมมันกำลังเดินทางไปทางนั้น และหลายสิ่งอย่างก็กำลังเกิดขึ้น ซึ่งผมก็คาดเดาเอาเองแหละนะ ทันทีที่ผมได้เห็น Call of Duty: Modern Warfare Remastered ผมก็เริ่มมีความคิดขึ้นมาในหัวว่าผมคิดถึงมัน ผมคิดถึงฉากหลังนั้น ผมคิดถึงแนวเกมนั้น และผมก็คิดถึงเกมการเล่นแบบนั้น ที่มันมีสภาพแวดล้อมที่ดำดิ่ง เพราะสำหรับผมแล้วมันดูเป็นความจริงมาก ผมคิดถึงสิ่งเหล่านั้นมากจริงๆ”
ซึ่งก็น่าประหลาดใจเป็นอย่างมากที่ในเวลาเดียวกันนั้น ทางคุณ Dave Stohl ผู้กำกับจาก Infinity Ward ก็ได้กลับมาติดต่อคุณ Emslie เพื่อขอให้เขากลับมาร่วมงานด้วยกันอีกครั้งที่ Infinity Ward ซึ่งในตอนนั้นมันมีตำแหน่งที่ว่างอยู่สำหรับเขา แต่คุณ Emslie ก็ได้เล่าให้เราได้ฟังว่า “ว่ากันตามตรง ผมบอกเขาไปว่า ‘ถ้าผมทำโปรเจกต์ในตอนนี้เสร็จ และทำงานในส่วนของผมให้เต็มประสิทธิภาพ จากนั้นเราค่อยมาคุยกัน’” คุณ Emslie เล่า “จากนั้นผมก็จำได้ ณ จุดจุดหนึ่ง น่าจะเป็นช่วงวันหยุดเทศกาลคริสต์มาสในปี 2016 ผมได้ลองมองไปยังเกม Remasterd และมองไปยัง Infinite Warfare มันทำให้ผมรู้สึกประมาณว่า ‘ให้ตายเถอะ คุณภาพงานสร้างของเกม มันมีศักยภาพมากๆ และด้วยเอนจินใหม่ (ของ Modern Warfare 2019) ที่ได้มีการพัฒนามาร่วม 5 ปี บางส่วนของมันยังคงมีชีวิตอยู่และทำออกมาได้ดีอย่างซึ่งคุณน่าจะได้เห็นมาแล้วใน Infinite Warfare ด้วย”
อย่างไรก็ดีในตอนนั้นคุณ Emslie ก็ยังไม่ได้ยินข่าวลืออะไรออกมาจากทางพนักงานของ Infinity Ward ซึ่งเขามีความรู้สึกประหลาดๆ ว่าทางสตูดิโอนั้นกำลังวางแผนที่จะกลับไปยัง Modern Warfare อีกครั้ง “ผมบอกไปว่า ถ้าคุณคิดที่จะทำเกม Modern Warfare ใหม่ ผมสนใจมากจริงๆ” เขากล่าว “ในตอนนั้นผมไม่ได้มีสัญญาในการห้ามเปิดเผยรายละเอียดใดๆ ดังนั้นมันก็ทำให้เขาดูจะเป็นกังวลเอามากๆ แต่เขาก็ตอบกลับมาว่า ‘ใช่เลย เรากำลังคิดถึงมันอยู่’ และนั่นแหละมันก็ทำให้ผมตอบกลับไปว่า ‘ผมจริงจังนะตอนนี้ ผมอยากที่จะมีส่วนร่วมกับ Modern Warfare อย่างที่เคยเป็น และไม่ต้องสงสัยเลยว่า มันเป็นบางส่วนของชีวิตในการพัฒนาเกมที่ดีที่สุดเท่าที่ผมเคยมีมา”
นั่นจึงทำให้คุณ Emslie เก็บกระเป๋าออกจาก Respawn Entertainment และกลับมาร่วมงานกับทาง Infinity Ward อีกครั้ง แต่สิ่งเหล่านั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะบอกลาทีมงานที่เขาอยู่ร่วมกันมาเป็นเวลาเกือบ 7 ปี และยิ่งนานกว่านั้นเข้าไปอีกหากนับเขาได้เคยร่วมงานกับทีมงาน Infinity Ward บางคนที่ยังอยู่ใน Respawn Entertainment มาแต่แรกเริ่ม
“ผมไปทำให้ทุกคนมั่นใจว่าผมจะไปและบอกลาทุกๆ คนในวันที่ผมออกมา” คุณ Emslie เล่า “ผมออกมาอย่างรวดเร็วมากเพราะผมไม่ต้องการที่จะเอ้อระเหยอยู่ในที่นั่น มันเหมือนกับการหักอกคนกว่า 60 กว่าคนพร้อมกันทีเดียว และมันก็น่าจะทำลายความรู้สึกของพวกเขา มีหลายคนที่ตกใจและก็ประหลาดใจ ผมคิดว่าผมไปดี และก็จะไม่หันหลังกลับมา ผมอยู่ที่นั่นมาเป็นเวลาเกือบ 7 ปี และทำงานหนักที่สุดเท่าที่ผมจะทำได้ ผมอาจจะเห็นได้ถึงทิศทางที่พวกเขากำลังโคจรไปอยู่ และผมก็ต้องการที่จะพยายามทำบางสิ่งบางอย่างใหม่ๆ มันเป็นความน่าประหลาดใจสำหรับบางคน และมันก็เป็นช่วงที่ผู้คนยังไม่เข้าใจเหตุผลของผมอย่างสมบูรณ์โดยที่ยังไม่ได้พูดคุยกัน”
หลังจากนั้นได้ไม่นานสมาชิกคนอื่นๆ ก็เริ่มกลับมารวมตัวกันอีกครั้ง ซึ่งคุณ Patrick Kelly หัวหน้าของสตูดิโอก็ยังจำได้ดีว่ามันน่าตื่นเต้นแค่ไหนที่ได้เห็นเหล่าสมาชิกดั้งเดิมของ Infinity Ward กลับมา แต่มันก็ยังมีความรู้สึกผสมปนเปกันไปด้วยเช่นกันในการทำงานร่วมกับผู้คนที่เคยพาแฟรนไชส์นี้ผ่านจุดสูงสุดมาแล้ว “ผมคิดว่าผู้คนมีความตื่นเต้นมากๆ และก็รู้สึกกระวนกระวายเล็กน้อย” คุณ Kelly เล่า “พวกเขาไม่แน่ใจว่ามันจะมีความหมายในเชิงของวัฒนธรรมองค์กรหรืออะไรบางอย่างที่เกี่ยวข้องกันหรือเปล่า มันมีความกังวลเล็กน้อยสำหรับพวกเราทุกคนที่สร้างแฟรนไชส์นี้ เพราะเมื่อเราสร้างเกมเหล่านี้ขึ้นมาโดยธรรมชาติแล้วคุณก็มักที่จะเอามันไปเปรียบเทียบกับความสำเร็จจากสิ่งที่พวกเขาเหล่านี้ได้ทำขึ้นมานั่นเอง”
“ในตอนแรกพวกเราก็ได้รับแรงเสียดทานบ้างเหมือนกันครับ” คุณ Emslie กล่าว
เรามีการหาวิธีการด้วยทางของเรา แต่ผมคิดว่ามันก็น่าจะทำให้ทุกคนเดินไปในทางที่ดีขึ้น มันมีบางอย่างในชีวิตนะครับที่คุณจะต้องเลือกว่าจะเป็นคนงี่เง่าหรือไม่เป็น มันสามารถเกิดขึ้นได้ในการจราจรบนท้องถนน มันก็เกิดขึ้นได้กับผู้คนที่คุณทำงานด้วย ซึ่งคุณจะต้องไม่งี่เง่า
แม้จะเต็มไปด้วยความรู้สึกของความตื่นเต้นและความเป็นกังวลในทีมงาน แต่คุณ Emslie ก็ต้องการที่จะมาเพื่อปลดล็อกศักยภาพของทีมงานให้ออกมาได้อย่างเต็มที่ ทันทีที่เขากลับมาเขาก็เดินไปรอบทั้งสตูดิโอและก็ได้ตัวสมาชิกทีมงาน Infinity Ward ของเขามา ซึ่งเขาได้กล่าวชมคุณ Kelly เป็นอย่างมากที่ทำให้ทีมงานสามารถปรุงแต่งรูปแบบการทำงานได้ และกลายเป็นสตูดิโอที่ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น “ผมเห็นผู้คนต่างเดินกันอย่างมีชีวิตชีวา และทำอะไรหลายๆ อย่าง ด้วยวิธีการของพวกเขาเอง มันเป็นอะไรที่ล้ำมาก” เขากล่าว “สิ่งที่เรากำลังมองไปยังทีมงานก็คือพวกเขากำลังทำงานอยู่ในระดับของสิ่งที่เราไม่เคยได้เห็นกันมาก่อน เพราะเราได้ปลดล็อกศักยภาพของพวกเขากันแล้วในที่แห่งนี้”
คุณ Emslie ดีใจที่ได้กลับมารับบทบาทใหม่ของเขาที่ Infinity Ward อีกครั้ง แต่เขาก็ไม่ได้พยายามที่จะชักจูงผู้คนจาก Respawn Entertainment กลับมาด้วย “มันน่าจะประมาณว่าเป็นเพราะในตอนที่เราออกมา มันเป็นการตัดสินใจด้วยตัวของเราเอง” เขากล่าว “มันสำคัญมาก เพราะผมจะไม่มีวันไปยังที่ใดที่หนึ่งจากนั้นก็เที่ยวไปบอกกับเพื่อนของผมไปด้วยและเอาไอเดียไปขาย จากนั้นก็แสดงให้เห็นว่ามันจะออกมาดีกว่าเดิมยังไง ด้วยความเคารพ คุณต้องให้พวกเขาตัดสินใจด้วยตัวเอง ผมเป็นคนแรกที่มากที่นี่ และผมก็คิดเอาง่ายๆ ว่ามันน่าจะทำให้ผู้คนสนใจแค่ตรงนั้น”
และมันก็ทำให้ผู้คนสนใจจริงๆ ซึ่งทั้งคุณ Geoff Smith และ Mark Grigsby นั้นก็เริ่มที่จะคิดตัดสินใจด้วยตัวของพวกเขาเองเช่นกัน คุณ Geoff Smith เองก็เริ่มที่จะชั่งน้ำหนักกับทางเลือกต่างๆ ในตอนนั้นซึ่งมันมีความหมายต่อทั้งตัวเขาและกับครอบครัวของเขาเป็นอย่างมาก “มันเป็นเรื่องยากที่จะทำครับ แต่ผมก็ได้เห็นถึงความรักสำหรับโปรเจกต์นี้อย่างที่คุณรู้ว่าคุณอาจจะเอาเวลาของคุณไป 3 ปี เมื่อคลั่งไคล้เข้ามากระทบตัวคุณ คุณต้องเดินไปกับมัน นั่นคือสิ่งที่ผมคิด” คุณ Smith เล่า
เหตุผลที่ทำให้ผมจบลงที่การกลับมาเพราะพ่อของผมที่เคยเป็นนาวิกโยธินมา 30 ปี ดังนั้นอะไรบางอย่างที่เกี่ยวกับการทหารสมัยใหม่น่าจะทำให้เรามีจุดสนใจที่ร่วมกันได้ เราออกมาพร้อมกับเรื่องราวที่มีให้เล่ามากขึ้น และมีสิ่งที่เราอยากจะทำมากขึ้น
คุณ Emslie, คุณ Grigsby และ คุณ Smith เป็นหัวหอกหลักในการสร้างเกมให้กับทีมพัฒนาผู้สร้าง Titanfall อย่างเกม Apex Legends ซึ่งเป็นหนึ่งในโปรเจกต์สำคัญก่อนที่พวกเขาจะก้าวออกมา และนั่นมันก็ทำให้พวกเขากลับมาพร้อมกับความเป็นปรปักษ์กับเหล่าทีมงานชุดใหม่นี้
“ความเป็นปรปักษ์เพียงอย่างเดียวที่ผมได้รับมาจากผลงานของผมก็คือมันดีกว่าของพวกคุณ” คุณ Grigsby กล่าวติดตลก “การแข่งขัน ใช่แล้วครับมันเป็นการแข่งขันกันด้วยมิตรภาพ”
ทั้งสามอดีตทีมงานจาก Respawn Entertainment ล้วนแล้วแต่มีความสนใจที่จะกลับมาร่วมงานกับ Infinity Ward ด้วยเหตุผลอันแตกต่างของพวกเขาเอง ซึ่งพวกเขาทั้งหมดก็คิดว่ามันเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้วหลังจากที่ได้กับคุณ Kelly “เขามีไฟในสิ่งที่พวกเราทั้งหมดคลั่งไคล้ ซึ่งน่าจะมาเป็นอันดับหนึ่งเลย” คุณ Grigsby เล่า “มันเป็นความคลั่งไคล้ในสิ่งที่นั้นที่มีความเหมือนกับพวกเรามาก”
ความชอบที่คล้ายคลึงกันนี้ได้ทำให้การพูดคุยเครื่องต่างกับคุณ Emslie, คุณ Grigsby และ คุณ Smith เป็นไปได้อย่างราบรื่นและน่าประทับใจเป็นอย่างมาก “พวกเขาแน่วแน่ในแรงบันดาลใจของพวกเขามาก ซึ่งอาจจะพูดได้อีกอย่างหนึ่งเกี่ยวกับพวกเขาก็คือ ‘มันดีกว่าการไม่เป็นสูตรสำเร็จบางอย่างไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง’” คุณ Kelly กล่าว
คุณ Kelly รักที่จะได้เห็นพวกเขากลับมารวมตัวกันอีกครั้งมาก และเขาก็ไม่เกรงกลัวเลยที่จะแสดงให้เห็นถึงความคลั่งไคล้ของเขาพร้อมทั้งยังได้นำเสนอไอเดียใหม่ และสิ่งต่างๆ ที่จะเพิ่มเข้ามาในการสร้างเกม Call of Duty “ผมคิดว่ามันง่ายมาก ด้วยบางอย่างที่ประสบความสำเร็จมาแล้วอย่าง Call of Duty ที่เคยเป็นมาในอดีต ในการค้นหาตัวตนของคุณเองท่ามกลางความจำเจในสิ่งทั้งหมดที่คุณได้ทำมาแล้วเพราะสิ่งเหล่านี้มันทำหน้าที่ของมันได้” เขากล่าว “พวกเขากลับมาและยังได้มาพร้อมกับพลังงานบางอย่าง พวกเขามีไอเดียและแนวคิด และมีพลัง มีความจริงจังและความน่าเชื่อถือ”
นั้นจึงทำให้ทีมงาน Infinity Ward เริ่มต้นสร้าง Modern Warfare นี้ด้วยผู้คนที่เต็มไปด้วยความสามารถอย่างที่ไม่เคยได้มีมาก่อน ซึ่งนอกจากคุณ Emslie, คุณ Grigsby และ คุณ Smith และทีมงาน Respawn คนอื่นๆ แล้ว พวกเขายังได้คุณ Jacob Minkoff และคุณ Taylor Kurosaki จาก Naughty Dog มาร่วมงานด้วยตั้งแต่เมื่อครั้งก่อนที่พวกเขาสร้าง Infinite Warfare และที่เหนือไปกว่านั้นก็คือทางสตูดิโอยังได้ดึงตัวคุณ Zied Rieke สมาชิกคนสำคัญของเกม Call of Duty ทุกภาคตั้งแต่ภาคแรกจนถึง Call of Duty: Modern Warfare 2 กลับมาในฐานะของผู้กำกับเกมการเล่นในภาคนี้อีกด้วย
ซึ่งก็เป็นจังหวะบังเอิญพอดีที่คุณ Zied Rieke ก็เพิ่งจะเสร็จสิ้นงานจาก Respawn Entertainment และ Naughty Dog และเขาก็พร้อมที่จะนำเอามุมมองจากการพัฒนาเกมเหล่าอย่าง Uncharted 4 ที่เขาทำงานร่วมกับคุณ Minkoff และคุณ Kurosaki มายังสตูดิโอแห่งนี้ด้วย และทั้งสองนั้นก็เป็นคนที่แนะนำให้ทางสตูดิโอดึงตัวเขามาร่วมงานนั่นเอง “เขาเป็นคนสำคัญและจะมาสอดแทรกพวกเราที่นี่ แต่เขาคือบิดาของ Call of Duty ดังนั้นคุณต้องเอาเขาเข้ามาในโปรเจกต์นี้” คุณ Kurosaki กล่าว
ผมคิดว่าบางทีลึกลงไปแล้วไม่ว่าพวกเขาจะมีจุดเริ่มต้นมาจากที่ไหน หรือจะมาจากไหนก็ตาม สิ่งที่ชักนำพวกเขาให้มายังสตูดิโอแห่งนี้ก็คือ Modern Warfare ซีรีส์
คุณ Smith กล่าว
“พวกเขาไม่มีโอกาสที่จะได้ทำมันมาก่อน และผมก็รู้สึกเหมือนว่าในตอนเราเริ่มต้นกับสิ่งนี้มันเป็นอะไรที่มีความช้าแต่แน่นอน ทุกคนต่างเริ่มรวมตัวเป็นกลุ่มก้อนพร้อมอารมณ์ประมาณว่า “พระเจ้าช่วย เรากำลังสร้างเกม Modern Warfare!” คุณน่าจะได้เห็นรอยยิ้มเหล่านั้นในตลอดโถงทางเดิน และเราก็มีหมุดหมายสำคัญเป็นสิ่งเหล่านี้ และด้วยชัยชนะเล็กๆ น้อยนี่และ มันจะเป็นการเริ่มต้นในการนำพาเราไปให้ถึงจุดหมาย และยังเป็นการสร้างและต่อเติมมันขึ้นไปอีก และผู้คนก็จะเดินลงมายังโถงกลางพร้อมกับรอยยิ้มที่กว้างขึ้น และยังยินยอมที่จะทำงานเกินเวลาด้วยความเต็มใจอีกด้วย ผมคิดว่าผู้คนที่มากความสามารถที่พวกเขาต้องการอยู่ที่นี่แล้ว บางที่เราอาจจะผลักดันพวกเขาไปในทิศทางหนึ่งหรืออีกหนึ่งหนทาง แต่ผมคิดว่าชื่อของ Modern Warfare นั้นได้ชักนำให้พวกเราได้มาอยู่ร่วมกัน”
Call of Duty: Modern Warfare จะวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 25 ตุลาคม นี้ ทั้งบน PS4, Xbox One และ PC