ระบบการปรับแต่ง (Customization) เป็นสิ่งที่มีบทบาทมากขึ้นทุกวันในระบบการเล่นมัลติเพลเยอร์ เพื่อที่จะให้ผู้เล่นสามารถแสดงออกได้ถึงความเป็นตัวเองในโลกออนไลน์ และ Call of Duty: Modern Warfare ภาคกำเนิดใหม่ของทีมงาน Infinity Ward นั้นก็ไม่ได้มีเพียงแค่การเปลี่ยนแปลงหน้าตาของตัวละครของผู้เล่นเท่านั้น แต่มันยังรวมไปถึงวิธีการเล่นอีกด้วยที่จะเป็นตัวบ่งบอกถึงความแตกต่างของผู้เล่นแต่ละคนในโลกออนไลน์
ผู้เล่นจะสามารถปรับแต่ตัวละครได้ 3 ระดับไล่มาตั้งแต่หน้าตาของตัวละคร, อุปกรณ์ต่างๆ และอาวุธประจำกาย ซึ่งเมื่อคุณเล่นไปเรื่อยๆ คุณจะปลดล็อกเจ้าหน้าที่คนใหม่ๆ ออกมาให้ได้เลือก และยังมาพร้อมกับ skin ใหม่ที่นำมาใช้สวมใส่, อุปกรณ์เสริมใหม่ๆ ที่จะนำมาติดตั้งให้กับอาวุธปืน ซึ่งส่วนใหญ่แล้วผู้คนมักจะคิดว่าระบบการปรับแต่งที่มีความลึกนั้นจะมาพร้อมกับเครื่องแต่งกายจำนวนในการเปิดโอกาสให้สร้างตัวละครที่ดูเท่เท่านั้น แต่ใน Modern Warfare เครื่องตกแต่งจะเป็นเพียงแค่ของประดับสำหรับการปรับแต่งตัวละครในโหมดมัลติเพลเยอร์เท่านั้น
การปรับแต่งตัวละคร
ในโหมดมัลติเพลเยอร์ของ Modern Warfare นั้นจะประกอบไปด้วยสองฝ่ายอันได้แก่ Allegiance และ Coalition ซึ่งเมื่อผู้เล่นเริ่มเล่นโหมดนี้เป็นครั้งแรกจะสามารถเข้าถึงเพียงแค่การใช้ตัวละครที่เป็นพลทหารธรรมดาเท่านั้น ซึ่งเมื่อได้เล่นไปเรื่อยๆ เราก็จะสามารถปลดล็อก operator ใหม่ของแต่ละฝั่งฝ่ายมาใช้งานได้ซึ่งแต่ละคนก็จะมีรูปลักษณ์และบุคลิกที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้เราได้หาตัวละครที่จะมาใช้แทนตัวเราได้อย่างที่ต้องการทั้งภาพลักษณ์และเสียง และก็ไม่ต้องกังวลไปว่าตัวละครที่เราชอบจะมีลักษณะการเล่นที่แตกต่างไปจากความถนัดของเรา เพราะสิ่งที่แตกต่างระหว่างตัวละครแต่ละตัวนั้นก็จะเป็นเรื่องของความสวยงามเพียงอย่างเดียว
“มันเป็นตัวเลือกด้านภาพลักษณ์สำหรับผู้เล่นเพียวๆ เลยครับ” คุณ Joel Emslie ผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์ของเกมกล่าว “หากผู้คนต้องการที่จะแสดงภาพลักษณ์ของพวกเขาในเกม นั่นแหละคือหน้าที่ของมัน ผมคิดว่ามันสำคัญมาก เพราะเมื่อคุณนำเอาเกมการเล่นมาผูกติดเข้ากับภาพลักษณ์มันจะเป็นยังไงล่ะหากผมไม่ชอบตัวละครตัวใดตัวหนึ่งแต่ผมชอบความสามารถของเขา มันก็จะทำให้ผมติดแหง็กไปกับตัวละครที่ผมไม่ชอบหน้าตาและเสียงของเขา เพียงเพราะผมชอบวิธีการเล่นของตัวละครตัวนั้น มันเป็นบางสิ่งบางอย่างที่เราต้องการที่จะยอมรับมัน และก็ทำให้แน่ใจว่าทั้งสองอย่างนั้นจะต้องมาผสมผสานกันได้อย่างลงตัวในการให้หนทางกับผู้เล่นที่จะเป็นการให้ความสามารถกับพวกเขาในการตัดสินใจสิ่งเหล่านั้นได้ด้วยตัวเอง”
แม้ว่าเราจะไม่สามารถปรับแต่งส่วนต่างๆ ของตัวละครได้ แต่ตัวละครแต่ละตัวนั้นจะมาพร้อมกับ skin ที่หลากหลายให้ผู้เล่นได้ทำการปลดล็อก “เราได้มีการเพิ่มระบบในส่วนนี้ด้วย skin ทั้งหมด” Geoff Smitt ผู้กำกับด้านการออกแบบระบบมัลติเพลเยอร์ของเกมกล่าว “เราไม่ต้องการที่จะไปยุ่งกับสนับเข่าและส่วนต่างๆ เราเลือกที่จะทำลักษณะที่มีคุณภาพสูงให้กับตัวละครเหล่านั้นแทนที่ โดยที่ไม่จำเป็นที่จะต้องให้ผู้เล่นมานั่งคิดด้วยตัวเองว่า ‘ถุงเท้าของพวกเขาจะเข้ากับถุงมืออันนั้นหรือไม่’”
สำหรับในตอนนี้ในระบบการปรับแต่งตัวละครของเกม Modern Warfare จะมีช่องสำหรับใส่ให้ปลดล็อก skin ของตัวละคร 8 ช่อง แต่ทางคุณ Emslie ก็ได้ยืนยันว่าตัวเลขดังกล่าวนั้นจะไม่ได้หยุดอยู่แค่นี้แน่นอน “เราอาจจะมีมากหรือมีน้อยกว่านั้น สำหรับผมแล้วผมไม่อยากที่จะเห็นสกินหรือตัวละครที่นำกลับมาสร้างใหม่เพียงแค่เพื่อเพิ่มตัวเลขให้มันดูเยอะเท่านั้น เพราะสิ่งที่เรากำลังทำอยู่นี้ไม่ว่าระบบการปรับแต่มันจะเป็นอย่างไรเราก็จะทำให้มันมาพร้อมกับคุณภาพที่มากที่สุด
Gunsmith
แทนที่ Modern Warfare จะลงลึกไปยังในทุกๆ ส่วนของรายละเอียดว่าตัวละครจะออกมารูปร่างหน้าตาอย่างไร สิ่งที่ทาง Infinity Ward ต้องการก็คือการที่เราจะสามารถปรับแต่งสิ่งที่เราต้องใช้งานกันจริงๆ นั่นคืออาวุธปืนต่างๆ นั่นเอง ระบบ Gunsmith ถูกนำกลับมาใส่อีกครั้งเพื่อที่จะให้คุณได้สามารถปรับแต่งอาวุธปืนของคุณได้ทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นภาพลักษณ์หรือสิ่งที่มันทำได้ โดยอุปกรณ์ทุกๆ ส่วนนั้นจะมาพร้อมกับข้อดีและข้อเสียของมัน ตัวอย่างเช่นการนำเอากระบอกเก็บเสียงมาติดตั้ง แน่นอนว่าเสียงของอาวุธปืนก็จะมีความยากที่จะได้ยินมากขึ้น แต่มันก็อาจจะส่งผลต่อความเร็วในการเล็งผ่านศูนย์ด้วย ซึ่งคุณอาจจะชดเชยสิ่งเหล่านั้นด้วยการเปลี่ยนแปลงอุปกรณ์เช่นพานป้ายของปืนให้มีขนาดเบาขึ้น ซึ่งแน่นอนว่ามันก็จะมาพร้อมกับสิ่งที่ต้องแลกมาเช่นกัน
“มันเป็นสิ่งที่ต้องกล่าวไว้ในตอนต้น อาวุธปืนนั้นคือตัวละครหลักที่ต้องจดจำในเกม” คุณ Smith กล่าว “การปรับแต่งตัวละครนั้นเป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมและนั่นเป็นสิ่งที่น่าสนุกมากๆ ในการที่คุณจะสามารถเลือกได้ว่าคุณเป็นใครและอะไรที่เหมาะ แต่เราต้องการมากที่จะให้ตัวละคร MMO มาพร้อมกับอาวุธปืน นั่นแหละเป็นสาเหตุที่ว่าทำไมเราจึงลงแรงไปมากตั้งแต่ต้นในส่วนต่างๆ เหล่านี้ เพราะมันเป็นเครื่องมือที่คุณจะใช้ในการปฏิสัมพันธ์กับโลกของเรานั่นเอง”
เมื่อเราได้ทำการปรับแต่งจนพอใจแล้ว เราอาจจะบันทึกค่าการปรับแต่งของเราพร้อมกับตั้งชื่อเฉพาะให้กับมันเลยก็ได้
“ผมคิดว่าทุกๆ คนก็อยากที่จะใช้ Excalibur มากกว่า broadsword#3 นะ”
“ทันทีที่คุณได้ตั้งชื่อไปแล้ว มันก็กลายเป็นสิ่งสำคัญและกลายเป็นจุดให้มีนำไปพูดคุย ตัวอย่างเช่นสิ่งเหล่านี้ในที่ออฟฟิศประมาณว่า ‘ผมสร้างสูตรผสมอันนี้มา นี่ไงสูตรของผม และมันก็เยี่ยมไปเลย เอาไปลองใช้ดูสิ’ มันเป็นจุดของการพูดคุยที่ดูเท่มากๆ เหมือนกับคุณได้ทำการทดลองสร้าง Frankenstein ขึ้นมาเลยล่ะ”
แม้ระบบการปรับแต่งอาวุธปืนนั้นอาจจะมีนำพามาซึ่งสูตรสำเร็จที่ทำให้มันมีพลังที่มากเกินไป แต่ทาง Infinity Ward เองก็ได้เล็งเห็นถึงปัญหาดังกล่าวมานานนมแล้ว “เป้าหมายที่ดีสำหรับระบบของเราก็คือมันจะต้องไม่ทำให้เราต้องการที่จะมี Golden Gun ในนั้น ซึ่งเราต้องการสักสามถึงสี่กระบอก” Joe Cecot ผู้กำกับฝ่ายการออกแบบมัลติเพลเยอร์อธิบาย
Perk และ Killstreak
และมันก็คงจะเป็นเกม Call of Duty หากปราศจากระบบการปรับแต่งอาวุธยุทโธปกรณ์ ในขณะที่ระบบการปรับแต่ง Gunsmith เป็นส่วนหนึ่งของการปรับแต่งสรรพาวุธทั้งหมด มันก็จะทำให้ผู้เล่นสามารถเลือกแนวทางที่ต้องการจะเล่นได้ เช่นเดียวกับในปีก่อนๆ ที่เราสามารถเลือกได้ทั้งอาวุธหลัก, อาวุธรอง, Perk ทั้ง 3, ระเบิดที่ทำให้ถึงตาย, ระเบิดกลยุทธ์ และอุปกรณ์อัปเกรดภาคสนาม
นอกจากนี้ระบบ Killstreak ก็จะกลับมาซึ่งนั่นหมายความว่าเราจะต้องเลือกรางวัลผลตอบแทนต่างๆ จากประสิทธิภาพในการเล่นของเราให้มีประโยชน์มากที่สุด คุณอาจจะเป็นผู้เล่นที่มีความสามารถในการฆ่าคนอื่นๆ ได้อย่างยาวนานโดยที่ไม่ตาย และคุณก็อาจจะลงทุนเสี่ยงไปกับการเลือก Killstreaks ที่มีค่าที่สูงขึ้นเพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่มากขึ้น อย่างไรก็ดีคุณก็อาจจะเป็นผู้เล่นที่มีความสามารถเพียงแค่ฆ่าคนได้สัก 2-3 คนแล้วก็ตาย ซึ่งคุณก็อาจจะเลือกที่จะงาน Killstreaks ที่มีค่าไม่สูงมากเพื่อที่จะใช้ผลตอบแทนในทุกๆ ครั้งของการฆ่าก็ได้ ไล่มาตั้งแต่การใช้ UAV ในการค้นหาตำแหน่งของศัตรูไปจนถึงการเรียกการโจมตีจากทางอากาศ ไปจนถึงชุดสูทกันกระสุน Juggernaut รางวัลตอบแทนจาก Killstreaks เหล่านี้จะเป็นหนึ่งในตัวแปรสำคัญในการเกมเล่นของผู้เล่นนั่นเอง
Call of Duty: Modern Warfare มีความน่าประทับใจเป็นอย่างมากในส่วนของระดับชั้นของการปรับแต่ง ซึ่งหากคุณยังกังวลว่าคุณต้องรีบเล่นเพื่อทำการปลดล็อกอาวุธที่ดีที่สุดของเกมหรือไม่ ทาง Infinity Ward ก็ได้ออกมายืนยันแล้วว่านั่นไม่ใช่สิ่งที่ต้องกังวลอีกต่อไปแล้ว “คลาสพื้นฐานของเราจะมาพร้อมกับสิ่งที่ดีที่สุดในเกมทั้งเกม” คุณ Smith กล่าว “เรานำสิ่งเหล่านั้นมาให้คุณล่วงหน้า และถ้ามันเพียงพอแล้วในการใช้ในการแข่งขันรับชิงชนะเลิศ นั้นก็แปลว่าเราทำงานของเราได้อย่างยอดเยี่ยม แม้ผมจะซื้อเกม 6 เดือนหลังจากวางจำหน่าย ผมจะไม่มีวันด้อยกว่าคนอื่นๆ เพราะผมมีของที่ดีที่สุดแล้ว สิ่งที่คุณต้องทำก็คือการออกตามหาของที่จะทำให้คุณแตกต่างไปจากคนอื่นนั่นเอง”
Call of Duty: Modern Warfare จะวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 25 ตุลาคม นี้ ทั้งบน PS4, Xbox One และ PC