เมื่อ E3 2018 อาจจะเป็นเพียงอีกหนึ่งจุดสตาร์ทของ Cyberpunk 2077
Cyberpunk 2077 คือหนึ่งในเกมที่น่าจะมีคนตั้งรอคอยกันมากที่สุด เพราะมันคือเกมจากทีมพัฒนา CD Projekt Red ทีมพัฒนาสัญชาติโปแลนด์ผู้ให้กำเนิดซีรี่ส์เกม RPG ที่ยังคงเป็นที่หนึ่งในใจของใครหลายคนอย่าง The Witcher
แต่มันก็เป็นเวลากว่า 5 ปีแล้ว นับตั้งแต่ที่มันได้เผยตัวอย่างแรกออกมาเมื่อเดือน มกราคม ปี 2013 ก่อนที่มันจะหายเข้ากลีบเมฆไปกลายเป็น The Witcher 3: Wild Hunt ที่ได้ออกมาสร้างตำนานก่อนกับการเป็นหนึ่งในเกมสมบทบาที่ยอดเยี่ยมที่สุดแห่งยุค จนกระทั่งในงาน E3 2018 ที่เพิ่งจะผ่านพ้นไปนั้น Cyberpunk 2077 ก็ได้กลับมาอีกครั้งพร้อมกับตัวอย่างใหม่ที่ดูคล้ายว่ามันจะพาเราไปไกลมากกว่าสิ่งที่ The Witcher 3 เคยทำมา
Mood and Tone ที่เปลี่ยนไป และสาเหตุของการพัฒนาที่ดูยาวนานของ Cyberpunk 2077
ซึ่งจากตัวอย่างล่าสุดของ Cyberpunk 2077 ที่เราได้ชมกันไปนั้นก็จะเห็นได้ว่ามันมีความแตกต่างไปจากตัวอย่างแรกที่ทาง CD Projekt Red เคยนำมาแสดงเมื่อปี 2013 เป็นอย่างมาก แม้มันจะยังคงความเป็น Cyberpunk ด้วยองค์ประกอบโดยรวม
แต่ในส่วนของ ‘โทนและอารมณ์’ ของเกมนั้นก็เรียกได้ว่ามันแทบจะเปลี่ยนไปเป็นคนละเกม คุณ มาร์วิน อิวินสกี้ (Marcin Iwiński) ผู้ก่อตั้งและผู้บริหารของ CD Projekt Red ได้เปิดเผยเรื่องนี้ผ่านทางเว็บไซต์ Kotaku แล้วว่าทำไม Cyberpunk 2077 ถึงได้หายหน้าหายตาไปเป็นเวลาหลายปี ซึ่งเขาก็ได้ออกมาบอกว่า มันเป็นความตั้งใจของเขาเองในการที่จะเปลี่ยนแปลงทิศทางของตัวเกมให้ต่างไปจากที่มันได้เปิดตัวออกมาครั้งแรก
ใช่แล้วมันมีการเปลี่ยนแปลง แต่เหนืออื่นใดเลย อะไรคือความหมายของการเปลี่ยนแปลงทิศทางของการพัฒนากันล่ะ? การรีบูตอย่างงั้นหรือ? มันคือการกระบวนการของการใช้ความคิดสร้างสรรค์ที่ต้องทำซ้ำไปซ้ำมาเรื่อยๆ และถ้ามีผู้คนในสตูดิโอของเราไม่แฮปปี้กับบางสิ่งบางอย่างที่พวกเขากำลังทำอยู่ซึ่งมันต้องใช้เวลา 3 หรืออาจจะถึง 6 เดือน เราในฐานะเป็นนักพัฒนาอิสระและผมก็ไม่เอ่ยถึงคำว่า ‘ผู้ผลิต’ (Publisher) เพราะเราคือคนผลิตเอง เรามีศรัทธากับงานที่อยู่ในมือเราเต็มที่ 100 เปอร์เซนต์ ดังนั้นถ้าเราไม่ชอบอะไรบางอย่างเราก็ไม่มีปัญหาอะไรเลยกับการบอกตัวเองว่า ‘โอเค เรามาทำใหม่กันเถอะ’ ซึ่งหมายความว่าเราอาจจะโยนไอ้ 6 เดือนของการทำงานนั้นทิ้งไปเลยก็ได้ และก็นำสิ่งเล็กๆน้อยๆ กลับมาใช้ในสิ่งที่เรากำลังจะทำต่อไป
“และถ้ามองในมุมมองของนักพัฒนา ถ้าใครสักคนกำลังทำงานของเขาไปสักระยะหนึ่งและได้ใช้เวลาไปกว่า 6 เดือน พร้อมกับความคิดที่ว่าสิ่งที่ทำอยู่มันยอดเยี่ยม แต่มันดันมีการตัดสินใจอะไรบางอย่างที่อาจจะเป็นการเปลี่ยนแปลงทิศทางของมันเหมือนที่ผมกล่าวถึงไปก่อนหน้า ผู้คนจะต้องไม่พอใจไปกับมันแน่ๆ ดังนั้นสิ่งที่ได้เห็นจาภภายนอกนั้นก็อาจจะเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น เพราะในท้ายที่สุดกระบวนการทดสอบที่ดีที่สุดก็คืองานอย่าง E3 หรือ Gamescoms หรือเมื่อเราได้เปิดเผยอะไรบางอย่างออกไป เพราะนั่นจะทำให้เราได้เห็นว่ามันเวิร์ค หรือไม่เวิร์ค”
ซึ่งการเปลี่ยนทิศทางของ Cyberpunk 2077 ที่เปลี่ยนไปอย่างมากนับตั้งแต่เปิดตัวเมื่อปี 2013 คือการรีบูตหรือเปล่า?
คุณ อิวินสกี้ ก็ได้อธิบายเพิ่มเติมว่า “ผมไม่อยากที่จะเรียกมันว่ารีบูตนะ แต่เรากำลังปรับเปลี่ยนทิศทางของมันมากกว่า เรากำลังอยู่ในช่วงของการค้นหาเนื้อหาของตัวเกม และมันก็อยากมากๆโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณกำลังลงหลักปักฐานกับ IP ใหม่ เพราะคุณจะสามารถทำอะไรกับมันก็ได้ แต่ในขณะเดียวกันคุณก็จะมีคำถามกลับมาหาตัวเองตลอด เหมือนกับว่ามันมีบทสนทนาต่างๆหรือคำพูดมากมายอยู่เต็มหัว มันยากและหนักหนาสาหัสมากนะ เพราะคุณไม่รู้เลยว่ามันจะออกมาดูดีใหม? จากนั้นคุณก็จะวนไปวนมากลับมาบอกกับอีกหลายครั้งว่า ‘ไม่นะ ผมคิดว่ามันเคยดูดีมาก่อน แต่ตอนนี้มันก็ไม่เป็นแบบนั้นอีกแล้ว ดังนั้นเราต้องมีการเปลี่ยนแปลงทิศทาง’ จากนั้นคุณก็จะต้องออกไปอธิบายกับผู้คน และกับทีมงานที่ใหญ่ขึ้น และผู้คนใหม่ๆที่อาจจะยังไม่เข้าใจว่ามันจะเวิร์คได้ยังไง”
แล้วเมื่อไหร่กันล่ะ ที่เราจะได้เล่น Cyberpunk 2077 ?
เพราะ CD Projekt Red คือทีมพัฒนาที่มีความเป็น Perfectionist สูง ผลงานของพวกเขาจึงเป็นเกมในระดับ ‘มาสเตอร์พีซ’ ที่ยากจะหาใครเทียบได้ แล้วถ้าเป็นเช่นนั้น เราจะได้เล่น Cyberpunk 2077 กันเมื่อไหร่ล่ะ?
แม้ทางทีมงาน CD Projekt Red จะได้นำเอาตัวเกมที่สามารถเล่นได้แล้วของ Cyberpunk 2077 มาแสดงให้กับสื่อมวลชนดู หลังม่านของ E3 2018 ซึ่งเต็มไปด้วยรายละเอียดต่างๆมากมายของตัวเกม แต่คำถามคือทำไมเกมเพลย์ที่เหล่าสื่อมวลชนได้ชมกันไปนั้น ถึงไม่สามารถถูกปล่อยออกมาให้แฟนๆเกมได้ชมกันได้ล่ะ?
นั่นเพราะเกมเพลย์ของ Cyberpunk 2077 นั้นยังไม่ใช่เกมเพลย์ที่เป็นเกมจริงๆ และทาง CD Projekt Red นั้นก็ไม่ต้องการที่จะปล่อยงานที่ยังไม่ได้รับการขัดเกลาออกไปให้สาธารณชนเห็น เพราะมันก็ยังอยู่ในสถานะ Pre-Alpha ของการพัฒนาเท่านั้น จากบทสัมภาษณ์ของคุณ อดัม คิซินสกี้ (Adam Kiciński) ประธานร่วมของ CD Projekt Red ที่เขาได้ตอบคำถามต่อนักข่าวรายหนึ่งว่า มันยังไม่ใช่แม้แต่จะเป็นเกมในเวอร์ชั่น Alpha เลยในตอนนี้
ไม่เลย มันเป็นเวอร์ชั่นที่ก่อนหน้า Alpha ไปอีก สิ่งที่เราได้โชว์ให้คุณเห็นหลังฉากนั้นมันยังไม่ใช่คุณภาพที่พอจะเป็นท้ายสุดของผลงานของเรา แต่สิ่งที่ได้โชว์ไปนั้นคือสิ่งที่เราขัดเกลามาแล้วเท่าที่เราจะทำได้แล้วในตอนนี้ ที่เป็นการเตรียมมาเพื่อแสดงให้กับผู้คนภายนอกบริษัทของเราได้ชมโดยเฉพาะ
นั่นคือสิ่งที่ CD Projekt Red แตกต่างจากทีมพัฒนาอื่นๆที่อยู่ภายใต้ร่มเงาของผู้ผลิตยักษ์ใหญ่ ที่มักจะต้องนำเอาเกมเพลย์ที่บางครั้งอาจจะไม่ใช่เกมจริงๆที่สามารถเล่นได้มาแสดงในงานเพื่อเหตุผลทางการตลาด และเพื่อสร้างความสนใจให้กับกลุ่มนักลงทุน และกลุ่มผู้ชมรวมไปถึงแฟนๆ
เพราะเกมเพลย์ของ Cyberpunk 2077 ที่อยู่หลังฉากนั้น มันคือสิ่งที่ทางทีมพัฒนาเตรียมไว้เพื่อรองรับความคิดเห็นและเสียงตอบรับจากแฟนๆ โดยผ่านบรรดาสื่อมวลชนที่นำไปบอกเล่าผ่านช่องทางสื่อของแต่ละคน ซึ่งเสียงตอบรับของแฟนเกมนั้นก็จะถูกทาง CD Projekt Red นำไปปรับปรุงซ้ำแล้วซ่ำเล่าอย่างที่คุณ อิวินสกี้ ได้กล่าวไว้นั่นเอง (และอาจจะเพื่อเหตุผลทางการตลาดส่วนหนึ่ง เพราะการนำเกมเพลย์ที่ไม่สมบูรณ์ออกมาแสดงนั้นก็อาจจะทำให้ความเชื่อมั่นที่มีต่อชื่อของทีมพัฒนาเสื่อมคลายลงได้ด้วยเช่นกัน)
ซึ่งก็ดูแล้วก็อาจจะเป็นเวลาอีกนานโขทีเดียวกว่าเราจะได้เล่น Cyberpunk 2077 กันเพราะมันอาจจะยังต้องขัดเกลาอีกมาก เพื่อให้มันออกมาเป็นหนึ่งในเกมระดับมาสเตอร์พีซแห่งยุค ที่ยากจะให้ใครเทียบเคียงได้เหมือนเช่นเกมอย่าง The Witcher ที่พวกเขาเคยปลุกปั้นมันมา แต่การรอคอยในครั้งนี้นั้นก็อาจจะไม่จำเป็นต้องรอกันจนถึงปี 2077 แน่นอน
แหล่งข้อมูลอ้างอิง:
- Why Cyberpunk 2077 Is Taking So Long
- Cyberpunk 2077’s hands-off E3 demo was pre-alpha – “you can wait a few more years”
ข่าวอื่นๆที่น่าสนใจในรอบวัน:
- CD Projekt Red ประกาศรับสมัครทีมพัฒนาเพิ่ม ที่ดูเหมือนว่าจะต้องมารับผิดชอบพัฒนาระบบ Multiplayer ของ Cyberpunk 2077
- เท็ตซึยะ โนมุระ ผู้กำกับของ Final Fantasy 7 Remake ยังยืนยันว่าการพัฒนาเกมยังเป็นไปได้อย่างราบรื่น แม้จะมีข่าวลือไม่ดีออกมาก่อนหน้า
- Mega Man X Legacy Collection 1+2 Bundle เปิดราคามาแล้วที่ 718.20 บาทพร้อมเปิดให้ Pre Order ได้แล้วโดยตัวเกมจะปล่อยให้เล่นกัน 24 กรกฎาคม นี้
- PUBG Corp. ยอมถอนฟ้อง Epic Games กรณีลอกเลียนแบบเกมเพลย์ Battle Royale ไปใช้ในเกม Fortnite
- Capcom ยืนยัน Monster Hunter: World ไม่สามารถลงให้กับเครื่อง Nintendo Switch ได้โดยทางเทคนิค แต่อาจจะมีเกมภาคใหม่มาลงให้แทน