รวมสิ่งที่ผู้เล่นจะได้เจอใน Invasion: Battle for D.C. ของ The Division 2

Tom Clancy’ s The Division 2 ได้เริ่มอัปเดตเนื้อหา Endgame ในส่วนแรกของตัวเกมแล้วในวันที่ 5 เมษายน และมันก็จะเป็นการพาเหล่าเอเจนท์ทั้งหลายเข้าสู่เนื้อหาในส่วนของ Endgame อย่างแท้จริงในอัปเดตที่จะใช้ชื่อว่า Invasion: Battle for D.C. ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเนื้อหาในส่วนของ Year 1 ของตัวเกม โดยในการอัปเดตในครั้งนี้ก็จะประกอบไปด้วย Tidal Basin ภารกิจ Stronghold ตัวสุดท้าย, World Tier 5, Operation Dark Hours ภารกิจ Raid 8 ผู้เล่น, Specialization ใหม่ และอื่นๆ อีกมากมาย

สำหรับเนื้อหาในส่วนแรกของ Invasion: Battle for D.C. ที่จะอัปเดตเพิ่มเติมมาในวันที่ 5 นั้นก็จะประกอบได้รายละเอียดต่างๆ ดังต่อไปนี้

Tidal Basin

Tidal Basin คือภารกิจ Stronghold ตัวสุดท้ายของ The Division 2 ที่จะเปิดโอกาสให้ผู้เล่นได้ไปถล่มฐานที่มั่นของศัตรูตัวฉกาจอย่างพวก Black Tusk และภารกิจนี้ก็จะเปิดให้เล่นได้เฉพาะผู้เล่นที่อยู่ในระดับ World Tier 4 แล้วเท่านั้น และจะต้องมี Gear Score ไม่น้อยกว่า 425 แต้ม

tidal basin

โดยหลังจากที่ผู้เล่นล็อกอินเข้าเกมไปแล้ว หลังจากที่ทางเซอร์เวอร์ได้มีการอัปเดตเสร็จสิ้นในวันที่ 5 เมษายน ผู้เล่นจะได้รับสัญญาณทางวิทยุที่แจ้งเตือนถึงภารกิจใหม่เข้ามา และเมื่อผู้เล่นทำภารกิจ Side Mission เสร็จสิ้นแล้วก็จะเป็นการปลดล็อกภารกิจ Tidal Basin ให้ผู้เล่นได้เล่น

โดยหลังจากที่ผู้เล่นผ่าน Tidal Basin แล้ว Manny Ortega หนึ่งในตัวละครผู้ประสานงานกับเหล่า The Division ในเกมนั้นก็จะรายงานว่า Black Tusk ได้เริ่มออกปฏิบัติการไปทั่วกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. แล้ว และเกมจะทำการปลดล็อกในส่วนของ Invaded Mission รายสัปดาห์มาให้ผู้เล่นได้เล่นกันในความยากทุกระดับที่ตัวเกมมี ซึ่งเกมก็จะมีการรีเซตภารกิจ Invaded Mission ใหม่ในทุกสัปดาห์แทนที่ Story Mission เดิมของเกม และสิ่งที่ผู้เล่นจะได้รับก็คือชุด Gear Set ใหม่ของเกมที่จะมีโอกาสดร็อปง่ายขึ้นเมื่อผู้เล่นทำการต่อสู้กับฝ่าย Black Tusk ใน World Tier 5

World Tier 5

Word Tier 5 คือโลกเกมใน Tier สุดท้ายของ The Division 2 ที่เกมมีในตอนนี้และมันก็เป็นสิ่งที่แฟนๆ รอคอยกันมานานนับตั้งแต่ที่เกมได้ออกวางจำหน่าย ซึ่งผู้เล่นที่ทำภารกิจ Tidal Basin สำเร็จเรียบร้อยแล้วเกมก็จะนำพาผู้เล่นเข้าสู่ World Tier 5 ทันที และเพดานของ Gear Score นั้นก็จะขยับขึ้นไปอยู่ในช่วงคะแนนระหว่าง 450-500 แต้ม

ความยากระดับ Heroic

และที่อยู่เหนือกว่าเนื้อหาในส่วนอื่นๆ ของ Invasion: Battle for D.C. ก็คือความยากในระดับ Heroic สำหรับสุดยอดเอเจนท์แห่ง The Division โดยเฉพาะ ซึ่งผู้เล่นที่ในโหมดความยากนี้ก็จะได้รับอุปกรณ์ต่างๆ ที่ดีกว่าความยากในระดับอื่นๆ แต่อย่างไรก็ดีการเล่นในโหมดนี้ก็ไม่ได้ให้ซึ่งอุปกรณ์ Exclusive เฉพาะสำหรับโหมดนี้แต่อย่างใด แต่จะมีโอกาสในการได้มากขึ้นกว่าในโหมดความยากอื่นๆ อย่างแน่นอน

อาวุธ Exotic ชิ้นใหม่

นอกฟีเจอร์ต่างๆ ใน World Tier 5 ที่เพิ่มเข้ามาแล้ว ในอัปเดตครั้งนี้เกมยังได้มีการเพิ่มอาวุธระดับ Exotic เข้าไปในเกมอีกด้วยถึง 2 ชนิด ซึ่งได้แก่ Pestilence ปืนกล Light Machine Gun และ Nemesis ปืน Sniper Rifle และยังรวมไปถึง Gear Sets ใหม่ของเกมอีก 3 แบรนด์อันได้แก่ True Patriot, Hardwired และ Ongoing Directive ที่แต่ละเซตนั้นก็จะให้ค่าโบนัสที่แตกต่างกันออกไปตามแยกตามสไตล์การเล่นอย่างชัดเจน

The Invasion Apparel Event

The Invasion Apparel Event คืออีเวนต์แรกของเกมที่เปิดโอกาสให้ผู้เล่นได้ทำการเก็บสะสมเครื่องแต่งกายต่างๆ ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากฝั่งฝ่ายของศัตรูใน The Division 2 โดยผู้เล่นนั้นจะมีโอกาสที่จะได้รับหน้ากากและสกินสำหรับอาวุธใหม่ๆ ได้จากอีเวนต์นี้ และผู้ที่มี Year 1 Pass นั้นก็จะได้รับสิทธิพิเศษเหนือกว่าผู้เล่นทั่วไปอีกด้วย โดยเมื่อผู้เล่นเข้าเกมไปแล้วก็จะได้รับ Special Event Caches ทันทีสำหรับสัปดาห์อีเวนต์ในสัปดาห์แรก โดยในส่วนของผู้เล่นที่มี Year 1 Pass นั้นก็จะได้รับไปฟรีๆ อีก 3 ชิ้นเพิ่มเติมจากปกติ

แผนที่ Fort Mcnair

และสิ่งสุดท้ายที่จะเพิ่มเข้ามาในการอัปเดตวันที่ 5 นี้ก็คือแผนที่ PvP ใหม่ที่ชื่อว่า FortMcNair ให้ผู้เล่นเข้าห้ำหั่นกันเพิ่มเติมจากแผนที่เดิมที่เกมมีนั่นเอง

สิ่งที่จะมาเพิ่มเติมในภายหลังของ Invasion: Battle for D.C.

 

division 2 dark hours

Operation Dark Hours

โดยการอัปเดตในวันที่ 5 เมษายนนี้ จะเป็นเพียงแค่เนื้อหาในส่วนแรกของ Invasion: Battle for D.C. เท่านั้น และสิ่งที่เกมจะเพิ่มเติมเข้ามาในวันที่ 25 เมษายนนี้ก็คือภารกิจ Raid ที่ยากที่สุดของเกมที่จะต้องใช้ผู้เล่นถึง 8 คนในการทำภารกิจที่ชื่อว่า Operation Dark Hours นั่นเอง อย่างไรก็ดียังไม่มีรายละเอียดยืนยันอย่างเป็นทางการว่าเนื้อหาของภารกิจและรูปแบบการเล่นของ Operation Dark Hours นั้นจะเป็นอย่าง แต่จากข่าวลือที่ออกมาและจากการคาดการณ์เชื่อได้ว่ามันจะเป็นภารกิจที่ท้าทายที่สุดและจะต้องใช้การประสานงานกันเป็นทีมมากที่สุดใน The Division 2 อย่างแน่นอน

Specialization คลาสที่ 4

และสิ่งสุดท้ายที่จะเพิ่มเติมเข้ามาใน Invasion: Battle for D.C. ก็คือคลาส Specialization คลาสที่ 4 ของเกมที่จะมี Signature Weapon เป็นปืนมินิกันอย่างที่เราได้เห็นในตัวอย่าง แต่ยังไม่มีรายละเอียดเพิ่มเติมออกมาอย่างเป็นทางการในตอนนี้

division 2 plan

Invasion: Battle for D.C. นั้นเป็นเพียงแต่การเติมเต็มเนื้อหาในส่วนของ Endgame เท่านั้น และในปีนี้เกมก็จะมีการอัปเดตเนื้อหาเพิ่มเติมกันตามแผนของ Massive Entertainment และ Ubisoft อีกถึง 3 Episode ให้ผู้เล่นได้เล่นกันฟรีๆ ในช่วง Summer. Autumn และ Winter ที่เราต้องรอดูรายละเอียดของแต่ละ Episode กันต่อไปว่ามันจะทำให้ The Division 2 ไปได้ไกลขนาดไหนด้วยเนื้อหามากมายที่ทางผู้พัฒนาได้เตรียมไว้ให้เราได้เล่นกันอย่างไม่หยุดหย่อนในตอนนี้

แหล่งข้อมูลอ้างอิง:

Share this article
0
Share
0 Share
0 Tweet
0 Share
0 Share
Shareable URL
0
Share