สิ่งที่มาแรงที่สุดของวีดีโอเกมในยุคสมัยนี้ก็คงหนีไม่พ้นระบบหลายผู้เล่นหรือเอาแบบอินเตอร์ก็เรียกว่า Multiplayer โดยในแนวเกม Multiplayer นั้นก็มีการแตกแขนงไปอีกมากมายเช่น Competitive ที่เน้นการแข่งขันเป็นหลัก Co-Op ที่ให้ผู้เล่นช่วยกันเล่น หรือจะเป็น MMORPG ที่เป็นเกมหลายผู้เล่นขนาดใหญ่หรือที่เราเรียกกันว่าเกมออนไลน์นั่นเอง แต่เกมแนวนี้มักจะมีปัญหาอยู่ มีจุดหนึ่งที่เห็นได้ชัดเลยก็คือ
เล่นคนเดียวแล้วไม่สนุก
แต่ก็เกมมันเป็นทำมาให้เล่นแบบหลายผู้เล่น การเล่นคนเดียวมันจะไปสนุกได้ไงล่ะ ก็เกมมันไม่ได้ออกแบบมาแบบนั้นนี่หน่า ตรงนี้ก็เป็นข้อเท็จจริงที่ใครก็คงไม่อาจเถียงได้ แต่ลองคิดในแนวกลับกันดูสิ ถ้าคุณไม่มีคนเล่นด้วยล่ะ? หรือว่าวันหนึ่งเล่นแล้วเกมเกิดร้างขึ้นมา คุณจะหาความสนุกจากเกมนี้ได้ยังไงกันล่ะ?
นึกย้อนไปหน่อย สมัยที่เกม FPS แนว Competitive กำลังอยู่ยั้งยืนยง สิ่งที่ทุกเกมขาดไม่ได้เลยก็คือ “บอท” ที่ทำหน้าที่แทนผู้เล่นเสมือนให้ผู้เล่นที่ไม่มีอินเทอร์เน็ตหรือไม่มั่นใจในความสามารถตัวเองได้ฝึกฝนตัวหรือเล่นแก้เซ็งเวลาหัวร้อนมาจากออนไลน์ โดยในช่วงที่บอทมาใหม่ ๆ นั้นจะเป็นฝีมือการพัฒนาจากผู้เล่นเองเสียมากกว่า และมีระบบที่ง่ายคือเดินตามทางที่ผู้เล่นเดิน แถือว่ามีประสิทธิผลได้ดีเพราะยิ่งผู้เล่นเก่งเท่าไหน บอทก็จะยิ่งเก่งขึ้นเท่านั้นหรือมุ่งหน้าไปที่ปืนและเลือดที่เกิดตามแมพ อันนี้เป็นการช่วยเพิ่มโอกาสการปะทะกันระหว่างผู้เล่นและบอท เพราะทั้งสองต่างมีเป้าหมายเดียวกัน เมื่อมีอย่างนี้ ทำให้เกมยุคนั้นถึงขั้นซื้อตัวผู้พัฒนาสมัครเล่นเหล่านั้นมาพัฒนาบอทให้กับเกมตัวเองแบบจริงจังและนำมาเป็นจุดขายเลยด้วย โอ้อวดได้เลยว่าต่อให้เซิฟปิดก็เล่นได้ยันแก่ตายกันเลยทีเดียว
Mod Reaper Bot สำหรับเกม Quake พัฒนาโดย Steven Polge
ถ้าพูดถึงเกมที่ใหม่มาก็คงเป็น Call of Duty: Black Ops 4 ที่ตัวเกมยังคงมีบอทให้ผู้เล่นเข้าไปยิงได้อยู่ โดยระบบบอทนี้มีมาตั้งแต่ Black Ops เป็นต้นไป (Modern Warfare 2-3 ไม่มี แต่ MW1 Remastered มี) และยิ่ง Black Ops 4 นั้นผันตัวไปเป็นเกมออนไลน์เต็มตัวแบบนี้ การที่มีบอทนั้นช่วยให้ผู้เล่นสามารถฝึกฝนก่อนลงไปเล่นของจริงได้ดีเลย รวมถึงภาคนี้มีบอทใน Zombies ด้วย เล่นได้คนเดียวแบบชิว ๆ ไปเลย
ในทางกลับกัน Battlefield เป็นเกมที่มีบอทมาตั้งแต่ภาคแรกที่ใช้ชื่อว่า Battlefield 1942 มาจนถึงภาค Battlefield 2142 แล้วหลังจากเกม Battlefield Bad Company เป็นต้นไป บอทก็หายเกลี้ยงและไม่กลับมาอีกเลย ในยุคสมัยที่ Battlefield 2 และ 2142 ออก ผมใช้เวลา 90% ของการเล่นทั้งหมดไปกับการตีบอท เนื่องจากอินเทอร์เน็ตบ้านผมนั้นไม่ดีพอที่จะเล่นออนไลน์ได้ แต่มันก็เป็นสิ่งที่ดีนะ เนื่องจากผมสามารถสร้างห้องที่มี 64 ผู้เล่นเต็มได้ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นเมื่อ 10 ปีก่อน หรือเป็นตอนนี้ก็ตาม แต่เมื่อยุคคอนโซลที่ 7 เข้ามา ระบบออนไลน์และอินเตอร์เน็ตได้รับการพัฒนาขึ้น ทีมงาน DICE จึงไปโฟกัสที่ระบบออนไลน์และระบบการพังทลายของตึกแทน และอาจทำให้ใช้งาน CPU เยอะเกินจนไม่สามารถรองรับบอทได้ ซึ่งก็เป็นสิ่งที่น่าเสียดาย เพราะ Battlefield เป็นเกมที่เล่นกับบอทแล้วสนุกมาก ด้วยจำนวนคนที่เยอะ ยานพาหนะมากมายและแมพที่กว้างใหญ่
แล้วพวกแนว Co-op กับ MMORPG ล่ะ?
ในด้านเกม Co-op กับ MMORPG นั้นความสนุกส่วนหนึ่งอยู่กับการเล่นกับเพื่อนที่คุณสนิทกันก็จริง แต่หลายเกมก็แสดงให้เห็นว่าการเล่นคนเดียวก็ไม่ได้แย่เสมอไปนัก
ยกมาเกมสองเกมก็คงเป็น Left 4 Dead กับ Borderlands โดยทั้งสองเกมนี้ต่างทำมาให้ผู้เล่นรวมกลุ่มกันเล่นทั้งนั้น โดย L4D นั้นคุณสามารถเล่นกับบอทได้ โดยบอทนั้นนอกจากจะคอยฮีลและเป็นที่เก็บของให้นั้น แทบจะไร้ประโยชน์เลยก็ว่าได้ เผลอ ๆ พางานเข้ากว่าเดิมอีก ส่วนใน Borderlands ถ้าคุณมาคนเดียวก็กระเทียมลีบเลย เกมไม่มีบอทอะไรให้ทั้งนั้น และทำให้เกมยากขึ้นมากโขเลยทีเดียว แต่ถ้าถามว่าเกมเหล่านี้ถ้าเล่นคนเดียวเลยยังสนุกอยู่ไหม ผมก็พูดได้เต็มปากเลยนะว่ายังสนุกอยู่
L4D โชคดีที่มีระบบ AI Director มาคอยเปลี่ยนให้การเล่นแต่ละครั้งมีความสดใหม่อยู่เสมอ โดย AI Director เป็นตัวที่จะคอยวัดว่าผู้เล่นนั้นทำได้ดีแค่ไหน และจะทำการเสกซอมบี้ อาวุธหรือของเพิ่มเลือดเพื่อช่วยให้เล่นง่ายขึ้นหรือทำให้เกมนั้นยากกว่าเดิม แต่ก็สามารถจับทางได้ง่ายอยู่เหมือนกัน
ส่วนใน Borderlands นั้นการเล่นคนเดียวเหมือนกับหายนะเมื่อต้องสู้กับบอส และแทบจะบังคับให้เล่นคลาสที่มีดาเมจและเลือดเยอะที่สุด แต่เกมก็ยังมีระบบที่ช่วยให้ผู้เล่นคนเดียวสามารถกัดฟันทนได้ เช่นระบบ Second Wind ที่จะขึ้นเมื่อผู้เล่นล้ม ระบบนี้คือการชุบชีวิตเมื่อผู้เล่นฆ่าศัตรูได้หนึ่งตัว ซึ่งมีประโยชน์เวลาตีบอสที่มีตัวกี้ ๆ ออกมาถมพื้นที่ แต่ข้อเสียของระบบนี้คืออาวุธจะส่ายมากขึ้นและไม่สามารถเล็งเป้าได้แถมยังมีเวลาให้ยิงจำกัด ในเกมมีปืนหลายกระบอกที่สามารถฟื้นเลือดผู้เล่นได้ รวมถึงอุปกรณ์บางชนิดที่ช่วยบัฟผู้เล่นหรือมีเอฟเฟคแจกดาเมจให้ศัตรูเมื่อทำ Second Wind สำเร็จด้วย นั่นหมายความว่าเกมนี้สามารถเล่นคนเดียวได้ หรือเล่นกับเพื่อนเพื่อความสนุกเพิ่มเติม เพราะตัวเกมเองก็มีตัวละครและเรื่องราวที่มีสีสันเฮฮา ระบบการยิงปืนที่สนุก และมีปืนนับล้านกระบอกให้เลือกใช้
แต่ถ้ามองในอีกมุมนึง Aliens: Colonial Marines กับ Shadow Warrior 2 ก็เป็นตัวอย่างที่สวนทางกับเกมที่กล่าวไปด้านบนได้ดี สองเกมนี้อาจจะสนุกได้เพราะเพื่อนก็จริง แต่พอเล่นคนเดียวแล้วอาจจะเป็นอีกเรื่องเลย เช่น Colonial Marines ที่ตัวเกมและระบบ AI เรียกได้ว่าง่อยและไม่สมราคาคุยเลย ทำให้การเล่นคนเดียวเหมือนการโดนทรมานโดยฆาตกร Jigsaw มากกว่าเล่นเกมเพื่อความบันเทิง การเล่นกับเพื่อนมันก็อาจจะสนุกเพราะคุณนั่งขำกับบัคเกมและระบบพัง ๆ ของมันเสียมากกว่า ในส่วน Shadow Warrior 2 นี่เกมก็ไม่ได้แย่ แต่เนื่องจากภาคแรกเป็นเกมผู้เล่นเดี่ยวที่ระบบดีพอควร แต่ภาคสองกลายเป็นเกมแนว Borderlands ซะงั้น อันนี้เกมอาจจะไม่ได้แย่ แต่เป็นการเปลี่ยนแนวที่ทำให้คนเล่นเงิบแล้วงงเสียมากกว่า
สุดท้าย MMORPG อันนี้เป็นเกมที่บังคับให้ผู้เล่นนั้นต้องเล่นร่วมกับผู้อื่นจริง ๆ แต่ถ้าถามว่าเล่นคนเดียวแบบไม่แคร์เวิร์ลเลยจะได้ไหม คำตอบก็คือ
ได้
แต่มันจะเป็นอะไรที่มหาโหดเลยล่ะ
เอาเกมดัง ๆ เลยก็คงเป็นอย่าง World of Warcraft/Final Fantasy XIV หรือ Ragnarok Online สามเกมคุณสามารถเล่นคนเดียวได้ยันเลเวลตันหรือจบเนื้อเรื่องหลักโดยไม่มีปัญหา แต่ถ้าคุณคิดจะทำคอนเทนท์หลังจบเกมคนเดียวแล้วล่ะก็ คุณรนหาที่ตายแล้วล่ะ เพราะคอนเทนท์เหล่านั้นถูกวางให้เล่นกันเป็นทีมเท่านั้นโดยเฉพาะการลง Raid (การลงดันเจี้ยนระดับมหาโหดที่มีบอสเลือดเฟ้อและมอนโหดจนต้องมีคนครบทีม) หรือว่ากิลด์ วอร์ของ RO ซึ่งมันก็แหงสิ ถ้าไม่เล่นกับคนอื่นจะมีกิลด์ได้ไงล่ะ…. อันนี้เป็นเกมหนึ่งที่ผมยอมเลยว่าถ้าไม่มีเพื่อนเล่นนั้นทำให้ไม่สามารถได้คอนเทนท์ครบถ้วน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเกมไม่สนุกนะ
แต่สมัยนี้ก็มีแนวเกมอีกเกมที่มาแรงไม่แพ้กันในโลกของเกม AAA ก็คือเกมที่เหมือนจะคล้าย MMORPG แต่ก็ไม่ใช่เสียทีเดียว ซึ่งจะเป็นเกมแนว Warframe, Destiny หรือล่าสุดก็คือ Fallout 76 นั่นแหละ
โดยเกมนั้นมีจุดขายที่สามารถเล่นทั้งแบบคนเดียวและหลายผู้เล่นได้เลย ตามใจผู้เล่น จุดแตกต่างของเกมนี้จากเกมแนวอื่นคือจะมีจุดที่ผู้เล่นสามารถรวมตัวกันได้ แต่ก็สามารถจะแยกไปเล่นด้วยตัวเองก็ได้ตามใจยูเลย พอมันมาเป็นแบบนี้ ผู้เล่นส่วนหนึ่งก็คงลองที่จะเล่นด้วยตัวเองก่อน หรือไม่ก็คิดจะโซโล่ทั้งเกมเลย เกมเหล่านี้จะเป็นการผสมกันระหว่างการเล่าเรื่องแบบเกมผู้เล่นเดี่ยวที่มีส่วนผสมของระบบออนไลน์เข้ามา ยกตัวอย่างเช่น Destiny จริง ๆ แล้วจะเล่นเดี่ยวก็เล่นได้นะ ไม่มีปัญหาอะไรมากมาย เพราะตัวเกมเองก็ค่อนข้างดี เพียงแค่คอนเทนท์น้อยและซ้ำเยอะ อาจจะทำให้เบื่อง่ายหน่อย Warframe นี่โซโล่ได้ชิว ๆ เลย ถ้ามือถึง ส่วน Fallout 76 นี่เสียงแตกพอควร เพราะเกมพยายามจะเอาความเป็นผู้เล่นเดี่ยวของภาค 4 มาผสมกับการเป็นออนไลน์โดยการให้ผู้เล่นเดินในแผนที่เดียวกันและนำเอา NPC ที่เป็นมนุษย์ออกทั้งหมด ซึ่งคนที่เล่น Fallout มาตลอดก็จะรู้ดีว่าเกมซีรี่ส์นี้มีจุดแข็งที่เนื้อเรื่อง ระบบสนทนา และการสวมบทบาท พอเป็นแบบนี้กลายเป็นว่าสองในสามระบบสำคัญหายไป เหลือแค่สวมบทบาท ไม่มีตัวละครคอยช่วย ไม่มีคนให้คุย กลายเป็นเกมค่อนข้างแห้งไปโดยปริยายถ้าคิดจะเล่นแบบคนเดียว จนผู้เล่นหลายคนเปรียบเกมนี้เป็นดั่ง Mod ของ Fallout 4 ไปเลย…
โดยส่วนตัวแล้ว ผมมองว่าเกมทุกเกมที่มีการพัฒนา ควรจะต้องมีการพัฒนาโดยคิดถึงการเล่นคนเดียวไว้ก่อนเป็นหลัก เพราะถ้าระบบเล่นคนเดียวแล้วสามารถสนุกได้ การเล่นแบบหลายผู้เล่นก็คงไม่มีปัญหามากนัก คล้ายกับ Red Dead Redemption 2 ที่เอาระบบของเกมเล่นคนเดียวแล้วยกมาใส่ในออนไลน์เลยทั้งดุ้น เนื่องจากระบบเกมแบบคนเดียวนั้นสนุกอยู่แล้ว สนุกจนแทบไม่ได้ยุ่งกับเนื้อเรื่อง การจะนำมาใส่ในออนไลน์ก็เป็นเรื่องที่ไม่ยากนัก แต่การที่ฝากความสนุกของเกมไว้กับผู้เล่นอื่น หรืออยากจะให้ “ผู้เล่นสร้างความสนุกด้วยตัวเอง” นั้นมันดูเป็นคำพูดที่ดูขี้เกียจมากกว่า เกมออนไลน์ที่ดีสำหรับผมคือเกมที่สามารถเล่นได้ทั้งคนเดียวและหลายคน เพราะแน่นอน เพื่อนคุณคงไม่ว่างมาเล่นกับคุณตลอดเวลา คุณเองก็คงไม่ว่างมาเล่นกับเขาตลอดเวลาเช่นกัน ฉะนั้นการเล่นคนเดียวก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้เกมมีอายุยืนยาว และอาจทำให้มีผู้เล่นมากขึ้นอีก เพราะไม่ต้องกลัวว่าเล่นคนเดียวแล้วจะเบื่อ เพราะเกมอะไรก็ตาม ต่อให้ดีหรือแย่แค่ไหน
การเล่นกับเพื่อนก็สนุกกว่าเล่นคนเดียวอยู่ดี