Focus Home Interactive ทำยอดขายเพิ่มขึ้น 20 เปอร์เซ็นต์จากปีก่อน

Focus Home Interactive ได้มีการแถลงผลประกอบการณ์ประจำปีออกมาแล้ว ด้วยยอดขายที่เพิ่มขึ้นถึง 20 เปอร์เซ็นต์ และทำรายได้ทั้งหมด 204 ล้านเหรียญ แต่ก็ยังคงประสบปัญหาจากค่าปรับที่พวกเขาต้องจ่ายให้กับสหภาพยุโรปเป็นจำนวนเงินกว่า 3.6 ล้านเหรียญ

ในปีที่ผ่านมาเกมของทางค่ายที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากก็คือเกม SnowRunner ที่สามารถทำยอดขายไปได้ถึง 1 ล้านก็อปปี้ภายในเวลาหนึ่งเดือนหลังการวางจำหน่าย แต่อย่างไรก็ดีแม้จะมียอดขายที่เพิ่มมากขึ้นแต่ทางค่ายก็ยังไม่พอใจกับผลประกอบการณ์ในปีนี้มากนัก จากการที่เกมหลายเกมของพวกเขาไม่สามารถออกวางจำหน่ายได้มากอย่างที่ควร จากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสที่ยังส่งผลกระทบอย่างต่อเนื่องจนทำให้เกมของพวกเขาไม่มีคุณภาพเพียงพอในระดับมาตรฐาน และมีหลายเกมที่ต้องยกเลิกการสร้างไปด้วย

ซึ่งก็ยังโชคดีที่เกมเก่าของพวกเขายังทำยอดขายได้เพิ่มขึ้นถึง 63 เปอร์เซ็นต์จากปีที่แล้ว และก็เป็นรายได้หลักที่มาขับเคลื่อนธุรกิจของพวกเขาในปีนี้ และยอดขายเกมในรูปแบบดิจิทัลเองก็ยังเติบโตขึ้นด้วยโดยคิดเป็นรายได้ถึง 89 เปอร์เซนต์ของบริษัท เทียบกับปีก่อนหน้าที่พวกเขามีรายได้จากในส่วนนี้อยู่ที่ 59 เปอร์เซนต์เท่านั้น

แต่การเติบโตของตัวบริษัทนั้นยังไม่เป็นที่น่าพอใจนัก ด้วยการที่บริษัทสามารถทำกำไรไปได้เพียง 15.9 ล้านเหรียญโดยเติบโตขึ้นจากปีก่อนเพียง 2 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ซึ่งทาง Focus Home Interactive ได้ให้เหตุผลว่าที่กำไรสุทธิของบริษัทเติบโตน้อยกว่าที่ควรจะเป็น ก็เป็นเพราะพวกเขาต้องจ่ายค่าปรับให้กับสหภาพยุโรปเป็นจำนวนเงินกว่า 3.6 ล้านเหรียญทีเดียว จากการที่พวกเขาได้ละเมิดข้อตกลง ‘ตลาดเดียว’ (single market) ของสหภาพยุโรปด้วยการจำกัดการขายเกมบนแพลตฟอร์ม Steam ข้ามพรมแดน ร่วมกับค่ายเกมอื่นๆ เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา

ซึ่งในช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมาทางสหภาพยุโรปได้มีการประกาศเตือนทาง Valve และค่ายผู้จัดจำหน่ายเกมถึง 5 รายด้วยกัน ว่าพวกเขาได้มีการละเมิดกฏหมาย ‘ต่อต้านการผูกขาด’ ของสหภาพยุโรป ด้วยการจำกัดการขายเกมโดยอิงจากภูมิประเทศของผู้ซื้อที่อยู่ในเขต ‘EEA’ หรือ ‘European Economic Area’ ที่ประกอบไปด้วย เช็กเกีย, โปแลนด์, ฮังการี, โรมาเนีย, สโลวาเกีย, เอสโตเนีย, ลัตเวีย, และลิทัวเนีย ด้วยวิธีการ ‘geo-blocking’ ที่ส่งผลให้ผู้ที่อยู่ในอาศัยในประเทศกลุ่มนี้ไม่สามารถนำคีย์ของเกมบน Steam ที่ซื้อจากผู้จัดจำหน่ายรายอื่นมาแอคติเวทกับ Steam ได้

โดยทางสหภาพยุโรปได้มีการสั่งปรับทาง Valve เป็นจำนวนเงินมากกว่า 1.9 ล้านเหรียญ โดยผู้ที่ให้ความร่วมมือจะสามารถลดหย่อนโทษปรับได้ราว 10 ถึง 15 เปอร์เซ็นต์ โดยมี Focus Home Interactive ที่โดนค่าปรับไปมากที่สุดตามมาด้วย ZeniMax Media ที่โดนค่าปรับอยู่ที่ 1.9 ล้านเหรียญ, Koch Media ที่ 1.1 ล้านเหรียญ, Capcom ที่ 471,374 เหรียญและ Bandai Namco ที่ 404,715 เหรียญ

สำหรับปีนี้ทาง Focus Home Interactive ได้มีการประมาณการณ์เอาไว้ว่ารายรับของพวกเขาอาจจะลงมาถึง 179 ล้านเหรียญ หรืออาจจะเพิ่มขึ้นได้ถึง 239 ล้านเหรียญโดยขึ้นอยู่กับปัจจัยภายนอกต่างๆ นั่นเอง

Share this article
0
Share
0 Share
0 Tweet
0 Share
0 Share
Shareable URL
0
Share