Embracer Group ค่ายผู้ผลิตเกมยักษ์ในยุโรปยังคงเดินหน้าในการซื้อกิจการตามแผนงาน โดยพวกเขาได้เข้าซื้อกิจการทีมพัฒนาเกมถึง 8 ค่ายมาอยู่ในสังกัดแล้ว โดยมีมูลค่าในการซื้อขายในครั้งนี้ที่สูงถึง 313 ล้านเหรียญ ซึ่งการเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งในแผนงานของที่ทางค่ายได้มีการวางแผนเอาไว้ในรายงานแถลงผลประกอบการของบริษัทเมื่อต้นปีที่ผ่านมา
ซึ่งตัวเลขในการเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้อาจจะเพิ่มขึ้นอีกราว 232 ล้านเหรียญซึ่งขึ้นอยู่กับผลประกอบการของทางค่ายว่าจะสามารถทำได้ตามเป้าหมายที่วางเอาไว้หรือไม่ในอีก 8 ปีหลังจากนี้ ซึ่งสตูดิโอที่พวกเขาซื้อกิจการมาอยู่ในสังกัดก็ประกอบไปด้วย
- Crazy Labs (อิสราเอล)
- Ghost Ship Games (เดนมาร์ก)
- Easy Trigger (สวีเดน)
- Force Field (เนเธอร์แลนด์)
- DigixArt (ฝรั่งเศส)
- Slipgate Ironworks (เดนมาร์ก)
- 3D Realms (เดนมาร์ก)
- Grimfrost (สวีเดน)
ซึ่งในแถลงการ (via. Gamesindustry.biz) ทาง Embracer Group ได้ระบุเอาไว้ว่าการเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้จะช่วยให้ทางบริษัทสามารถทำยอดขายได้ถึง 232 ถึง 348 ล้านเหรียญในปีงบประมาณหน้าที่จะไปสิ้นสุดลงในวันที่ 31 มีนาคม 2023
โดยการเข้าซื้อในครั้งนี้มีค่ายเกมอย่าง Crazy Labs ผู้พัฒนาเกมมือถือที่จะมาช่วยให้ยอดขายของพวกเขาเพิ่มขึ้นจากเดิมเป็นอย่างมากในช่วงปีงบประมาณนี้ก่อนที่จะมีการคิดดอกเบี้ยและภาษี ซึ่งการเข้าซื้อกิจการของ Crazy Labs เสร็จสิ้นอย่างเป็นทางการก่อนวันที่ 30 กันยายน 2021
สำหรับทีมงาน Force Field ทีมพัฒนาเกม VR และ AR ที่ทาง Vertigo เพิ่งจะซื้อกิจการไปไม่นาน ทาง Embracer Group ก็ได้มีการชี้แจงออกมาว่าทาง Vertigo เองก็เป็นหนึ่งในบริษัทในเครือของ Koch Media ที่ Embracer Group เป็นเจ้าของ ซึ่งการเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้ก็จะทำให้ทาง Vertigo มีศักยภาพในการพัฒนาภายในเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าด้วย
โดยทาง DigixArt จะได้ทาง Koch Media ไปทำหน้าที่ดูแลในขณะที่ Slipgate Ironworks จะไปอยู่ในสังกัดของ Saber Interactive สำหรับทีมงาน Ghost Ship Games จะไปทำหน้าที่เป็นบริษัทน้องสาวของ Coffee Stain และ Easy Trigger ก็จะมาอยู่ภายใต้สังกัดของ Coffee Stain เช่นกันในฐานะทีมพัฒนาภายในของทางค่าย
ทาง ลาร์ส วิงก์ฟอร์ส (Lars Wingefors) ผู้ร่วมก่อตั้งและผู้บริหารสูงสุดของ Embracer Group ได้กล่าวในแถลงการณ์เอาไว้ว่า “ผมรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมากที่ได้ต้อนรับทีมงานผู้มากความสามารถกว่า 500 คนจากหลากหลายธุรกิจที่มีความหลากหลายและแข็งแกร่งจากทั่วโลกตั้งแต่วันแรก”
“อิฐก้อนต่อก้อนเราจะพัฒนาการทำงานของเราไปด้วยกันซึ่งจะส่งผลโดยรวมกับ Embracer ทั้งหมด เรามีบัญชีการเงินคงคลังที่แข็งแรง และมีเงินสดสุทธิที่พร้อมจะให้การสนับสนุนการควบรวมและการเข้าซื้อกิจการที่กำลังจะเกิดขึ้นในต่อจากนี้ เรายังคงเดินหน้าในการพูดคุยกับเหล่าผู้ประกอบการ นักสร้างสรรค์ และบริษัทอื่นๆ มาร่วมครอบครัวของเรา ซึ่งรวมไปถึงบริษัทขนาดใหญ่ และหรือบริษัทที่กำลังมีการเปลี่ยนแปลงซึ่งเราต้องการสร้างกลุ่มปฏิบัติการณ์ขึ้นมาใหม่ ผมกำลังมองไปยังอนาคตของ Embracer Group ที่จะเติบโตมากขึ้นทั้งแบบธรรมชาติและไม่ธรรมชาติในอีกทศวรรษต่อจากนี้”