Embracer Group เข้าซื้อกิจการครั้งเดียว 5 รายได้แก่ Middle-earth Enterprises, Limite Run และ Singtrix, Freemode, Tripwire Interactive และ Tuxedo Labs โดยด้วยการจ่ายล่วงหน้าเป็นมูลค่ารวมกว่า 576 ล้านเหรียญ
สำหรับการเข้าซื้อ Middle-earth Enterises ทาง Embracer ได้มีการตกลงกับทาง Saul Zaentz Company บริษัทแม่ที่ถือครองสิทธิ์ของ Lord of the Rings และ The Hobbit มาเป็นเวลากว่า 50 ปี ซึ่งการเข้าถือกิจการในครั้งนี้ยังทำให้พวกเขาได้สิทธิ์ของงานเขียนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ Middle-earth ของทาง Tolkien Estate และ HarperCollins ด้วย
ซึ่งทาง Embracer Group ได้เตรียมความพร้อมสำหรับการผลักดัน IP ต่าง ๆ ของ Middle-earth Enterprises แล้วด้วยที่อาจจะเริ่มต้นด้วยการสร้างภาพยนตร์ที่อิงเรื่องราวจากตัวละครต่าง ๆ ทั้ง แกนดาล์ฟ, อารากอน, กอลลัม, กาลาเดรียล, เอโอวิน และตัวละครอื่น ๆ ในงานเขียนของ เจ. อาร์. อาร์. โทลคีน (J.R.R. Tolkien) เพื่อเปิดโอกาสให้กับแฟน ๆ ที่จะได้เข้ามาสำรวจโลกของงานเขียนเพิ่มเติมผ่านสินค้าและประสบการณ์ในรูปแบบอื่น ๆ
สำหรับการเข้าซื้อกิจการของ Limited Run Games จะทำให้ทาง Embracer Group ได้ถือหุ้น 40% ของ Super Deluxe Games ที่เป็นบริษัททุนร่วมในประเทศญี่ปุ่นด้วย ซึ่งจะมาทำหน้าที่ในการนำเกมของ Limited Run ในตลาดตะวันตกไปวางจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่นให้มากขึ้น
โดยในส่วนของ Singtrix จะมาช่วยในด้านการทำ “เทคโนโลยีเอฟเฟกต์ด้านการให้เสียงสำหรับการร้องคาราโอกะ การเล่นเกม และสื่อบันเทิง” ให้กับทาง Embracer Group โดย Freemode ก็จะมาดูแล “กิจการด้านเกมเรโทร เกมคลาสสิค และเกมเก่าต่าง ๆ รวมไปถึงการลงทุนในสินทรัพย์สื่อบันเทิงอันเป็นสัญลักษณ์” ที่มีคุณค่าอีกด้วย
และอีกสองทีมพัฒนาเกมที่จะได้เข้ามาอยู่ในสังกัดก็คือ Tripwire Interactive ผู้พัฒนาเกม Killing Floor และ Maneater ที่จะได้ทางบริษัทจัดจำหน่าย Tripwire Present มาร่วมด้วย ซึ่งอีกหนึ่งทีมงานก็คือทีม Tuxedo Labs ผู้สร้างเกม Teardown โดยทั้งสองทีมงานนี้จะได้มาอยู่ในสังกัดของ Saber Interactive