Edge of Eternity เป็นผลงานของทีมงาน Midgar Studio โดยตัวเกมมีเป้าหมายในการปลุกจิตวิญญาณของเกมแนว JRPG กลับมาอีกครั้ง ซึ่งเกมได้ออกวางจำหน่ายรูปแบบ early access มาเป็นเวลาสองปีแล้ว และหลังจากพัฒนามาอย่างยาวนานเกมก็จะวางจำหน่ายในเวอร์ชันเต็มแล้วในวันที่ 8 มิถุนายนนี้
เรื่องราวใน Edge of Eternity จะเล่าถึงโลกแฟนตาซีที่แตกสลาย เมื่อหลายผู้คนแห่ง “เฮเรียน” (Heryon) ต้องตกอยู่ท่ามกลางไฟสงครามที่ไม่รู้จบการความขัดแย้งระหว่างเทคโนโลยีและเวทมนตร์ ที่เกิดจากการรุกรานของสิ่งมีชีวิตปริศนาจากนอกโลก และภัยร้ายใหม่ก็ได้ก่อกำเนิดขึ้นมาท่ามกลางความขัดแย้ง มันถูกเรียกขานในชื่อ “Corrosion” ที่จะมากัดกินและครอบงำสิ่งมีชีวิตต่างๆ ในโลกจนหมดสิ้น โดยเกมจะเล่าเรื่องราวการผจญภัยของ “ดาเรียน” (Daryon) และ “เซลีน” (Selene) ในการออกผจญภัยเพื่อช่วยเหลือเหล่าผู้ถูก Corrosion ครอบงำและกอบกู้ดินแดนเฮเรียนให้ได้
โดยตัวเกมจะเป็นเกม JPRG ที่มาพร้อมกับแนวทางที่หลากหลายในการผ่านเควสต่างๆ ซึ่งการตัดสินใจของผู้เล่นยังส่งผลกับเนื้อเรื่องของเกม โดยในส่วนของระบบการเล่นเองก็จะยังคงเป็นเกมแนวผลัดตาเดิน (turn-based) ตามแบบฉบับของเกมแนว JRPG ที่เพิ่มเติมในส่วนของการวางแผนเชิงกลยุทธ์เข้ามา และยังมาพร้อมกับระบบการคราฟต์และระบบคริสทัลที่จะมอบพลังและความสามารถให้กับผู้เล่นในการปลดล็อกสกิลและความสามารถต่างๆ มาใช้งาน
และตัวเกมเองก็ยังได้ทาง ยาสึโนริ มิตสึดะ (Yasunori Mitsuda) ผู้ประพันธ์เพลงชื่อดังจากเกมในซีรีส์ Xenoblade Chronicles และ Chrono Trigger มาทำเพลงประกอบให้กับเกม
Edge of Eternity เริ่มต้นจากการเป็นโปรเจกต์เกมบนเว็บไซต์ Kickstarter ของทีมงาน Midgar Studio ที่มีผู้ร่วมสนับสนุนกว่า 4,000 คนหลังจากที่ก่อนหน้านี้โปรเจกต์ของพวกเขาได้เคยล้มเหลวมาแล้วเมื่อปี 2013 จากการที่มีผู้มาร่วมสนับสนุนไม่พอ แต่หลังจากประสบความสำเร็จกับแคมเปญ Kickstarter เมื่อปี 2015 เกมก็ได้ออกวางจำหน่ายบน Steam ในรูปแบบ early access เมื่อปี 2018 ที่ผ่านมา และก็จะได้ออกวางจำหน่ายในเวอร์ชันเต็มอย่างเป็นทางการบน PC ในวันที่ 8 มิถุนายน 2021 โดยการตัวเกมในเวอร์ชันเต็มจะมาพร้อมกับเนื้อหาบทสรุปที่จะมาพร้อมกับเวลาในการเล่นที่เพิ่มมากขึ้นถึง 20 ชั่วโมงเลยทีเดียว