หนึ่งในเสน่ห์ของเกมแนวสวมบทบาทก็คือการปรับแต่งตัวละครที่สามารถทำได้อย่างหลากหลาย และมันก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ขาดหายไปพอสมควรในเกม Diablo 3 แต่ในการกลับมาอีกครั้งใน Diablo 4 “การปรับแต่ง” ก็อาจเรียกได้ว่ามันคือแก่นของตัวเกมเลยก็ว่าได้
คุณ John Mueller ผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์ของ Diablo 4 ได้มีออกมายืนยันอย่างเป็นทางการแล้วว่าระบบตัวละครและการปรับแต่งคลาสต่างๆ นั้นจะเป็นสิ่งที่ทีมงานเพิ่มเติมรายละเอียดเข้าไปในแบบที่พวกเขาไม่เคยได้ทำมาก่อนเลยทีเดียว
คุณสามารถสร้างตัวละคร Barbarian ในฝันของคุณได้
โดยใน Diablo 4 นั้นแทนที่ผู้เล่นจะทำได้เพียงแค่การเลือกคลาสของตัวละครเท่านั้นเหมือนเกมในภาคก่อนๆ ตัวเกมในภาคนี้จะมาพร้อมกับรูปแบบที่หลากหลายที่ผู้เล่นสามารถสร้างตัวละครที่ตนเองต้องการได้ และจะมีความแตกต่างไปจากผู้เล่นคนอื่นๆ อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นทรงผม, สีผิว, เครื่องประดับ, รอยแผลเป็นและอื่นๆ มันสามารถปรับเปลี่ยนได้หมดตามที่ผู้เล่นต้องการ และยังมาพร้อมกับเครื่องแต่งกายและอาวุธชุดเกราะที่มีตัวเลือกหลากหลายอีกด้วย และมันก็ไม่ใช่เพียงแค่รูปลักษณ์ตัวละครเพียงเท่านั้น
คุณ Luis Barriga ยังได้ออกมาอธิบายเพิ่มเติมอีกด้วยว่า
การปรับแต่งคือแก่นของเกม Diablo 4
ตัวเกมยังมีระบบไอเทม “Trifecta” ที่มีความสามารถในการปรับแต่งและตัวเลือกที่หลากหลายมากขึ้น ระบบผังความสามารถเองก็กลับมาด้วยเช่นกัน และยังมีความใกล้เคียงกับระบบการอัปเกรดใน Diablo 2 อีกด้วย
“การปรับแต่งได้กลับมาและมันยังมาล้างแค้นอีกด้วย” คุณ Barriga เสริม ซึ่งด้วยระบบผังความสามารถพิเศษ (Talent Tree) ผู้จะสามารถนำแต้ม Ability ไปใช้กับการเพิ่มพูนทักษะได้อย่างหลากหลายทั้งพลังที่อยู่ในรูปแบบ passive และ active ตัวอย่างเช่นผู้เล่นอาจจะใช้แต้มไปเป็นจำนวน 5 แต้มเพื่อเพิ่มพลังในการสร้างความเสียหายเฉพาะสกิล Frostbite ของคลาส Sorceress เลยก็ได้
นอกจากนี้ Talent Tree แล้วมันยังมาพร้อมกับระบบ Skill Rank และ Rune Word อีกด้วยที่เป็นระบบที่ยกยอดต่อมาจาก Diablo 2: Lord of Destruction นั่นเองหลังจากที่มันได้หายไปในเกมภาค 3 “เราได้รับแรงบันดาลใจจาก Diablo 2 และได้นำมันมาตีความให้มีความสดใหม่” คุณ Barriga อธิบาย
ต้องการให้ผู้เล่นสร้างตัวละครที่อยู่ในหัวของพวกเขา ซึ่งเป็นตัวละครที่คุณอยากจะเล่น
สำหรับเกม Diablo 4 นั้นยังคงอยู่ในระหว่างการพัฒนาอยู่ในตอนนี้ และมันก็อาจจะต้องมีการขัดเกลาอีกอย่างยาวนานเพื่อให้เกมออกมาสมการรอคอย นั่นจึงทำให้ตัวเกมนั้นยังไม่มีกำหนดการวางจำหน่ายออกมาในตอนนี้ แต่เชื่อได้ว่ามันจะเป็น Diablo ในแบบที่เราไม่เคยได้สัมผัสกันมาก่อนและจะเป็นสิ่งที่แฟนๆ น่าจะพึงพอใจได้อย่างแน่นอนด้วยการนำเอาองค์ประกอบต่างๆ จากเกมในภาคที่เคยประสบความสำเร็จกลับมาตีความใหม่อีกครั้งแต่ยังเป็นการก้าวเดินไปในทิศทางใหม่ๆ พร้อมกันอีกด้วยนั่นเอง