CD Projekt แถลงผลประกอบการในไตรมาสแรกออกมาแล้วโดยพวกเขาทำรายได้รวมทั้งหมด 216.1 ล้านซวอตือโปแลนด์ (50.4 ล้านเหรียญ) เพิ่มขึ้น 9% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยมีกำไรอยู่ที่ 68.9 ล้านซวอตือโปแลนด์ (16.1 ล้านเหรียญ) ซึ่งมากกว่าเท่าตัวของไตรมาสแรกของปี 2021 โดยเพิ่มขึ้นสูงกว่า 112%
โดยในส่วนของ GOG สามารถทำรายได้ทั้งหมด 40.4 ล้านซวอตือโปแลนด์ (9.4 ล้านเหรียญ) และในส่วนของ CD Projekt Red ที่ทำรายได้ไป 179.3 ล้านซวอตือโปแลนด์ (41.8 ล้านเหรียญ)
ซึ่งสาเหตุที่ทำให้รายได้ของพวกเขาเพิ่มขึ้นจากเดิมเป็นอย่างมากก็เป็นเพราะการอัปเดตใหม่ของเกม Cyberpunk 2077 สำหรับเครื่องเกมรุ่นใหม่ทั้ง PlayStation 5 และ Xbox Series X|S ที่ทำให้ตัวเกมสามารถทำยอดขายได้มากขึ้น
โดยทางอดัม คิซินสกี (Adam Kiciński) ซีอีโอของ CD Projekt ได้กล่าวถึงความสำเร็จในครั้งนี้ว่าในตอนนี้ตัวเกม Cyberpunk 2077 กำลังมีทิศทางที่ดีแล้วทั้งในแง่ของภาพลักษณ์ของตัวเกมและยอดขายโดยเฉพาะบนเครื่องคอนโซล ซึ่งทาง CD Projekt ได้แสดงนำกราฟมาโชว์ให้กับเหล่านักลงทุนได้ชม ที่แสดงให้เห็นว่าในช่วงเดือนมกราคมถึงกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาแพลตฟอร์ม PC เป็นแหล่งรายได้หลักของเกม Cyberpunk 2077 แต่หลังจากที่มีการอัปเดตตัวเกมเวอร์ชันใหม่เข้าไปมันก็ทำให้ยอดของผู้เล่นบนเครื่องคอนโซลสูงขึ้นเป็นเท่าตัวในช่วงวันที่ 15 กุมภาพันธ์ถึง 31 มีนาคมที่ผ่านมา โดยมีแพลตฟอร์ม PlayStation เป็นหลัก ตามมาด้วย Xbox และ PC ที่ยังทำยอดขายได้เรื่อยๆ
ซึ่งเดิมทีการอัปเดตตัวเกมในเวอร์ชันสำหรับเครื่องเกมยุคใหม่ เดิมมีกำหนดปล่อยในช่วงปลายปีที่ผ่านมาก่อนที่จะมีการเลื่อนมาปล่อยในไตรมาสแรกของปีนี้ โดยนอกจากการอัปเดตนี้แล้วทางอดัม คิซินสกี ยังได้มายืนยันอีกคั้งด้วยว่าในตอนนี้ การทำงานส่วนใหญ่ของทีมงานคือการสร้างส่วนเสริมที่จะมีเส้นเรื่องเป็นการขับเคลื่อนให้กับตัวเกม ซึ่งปล่อยออกมาในปีหน้า
โดยในส่วนของ The Witcher ภาคใหม่เองก็กำลังอยู่ในระหว่างการเตรียมงานสร้างแล้ว เช่นเดียวกับ The Witcher 3: Wild Hunt สำหรับเครื่องเกมรุ่นใหม่ที่มีแผนจะออกวางจำหน่ายในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ในรูปแบบ ‘Complete Edition’ ที่จะรวมส่วนเสริมทั้งหมดของตัวเกมมาไว้ด้วยกัน และยังมาพร้อมกับ DLC ใหม่ที่จะได้รับแรงบันดาลใจมาจากเรื่องราวในฉบับซีรีส์ของ Netflix มาเพิ่มเติมด้วย
