Capcom แถลงผลประกอบการครึ่งแรกของปีงบประมาณ 2022 ออกมาแล้ว ด้วยรายได้ที่ตกจากปีที่ผ่านมาเป็นอย่างมากจากการที่ไม่มีเกมฟอร์มยักษ์ออกวางจำหน่าย
- รายได้: 49.1 พันล้านเยน (ลดลง 30% จากปีก่อนหน้า)
- กำไรจากการดำเนินงาน: 21.9 พันล้านเยน (ลดลง 24% จากปีก่อนหน้า)
- กำไรสุทธิ: 16.1 พันล้านเยน (ลดลง 27% จากปีก่อนหน้า)
สำหรับรายได้ที่ลดลงจากปีก่อนเป็นอย่างมาก มาจากการที่ในปีที่ผ่านมาพวกเขาได้มีการวางจำหน่ายเกมฟอร์มยักษ์อย่าง Resident Evil Village และ Monster Hunter Stories 2:Wings of Ruin ในขณะที่ปีนี้พวกเขามีแค่ Monster Hunter Rise: Sunbreak ที่วางจำหน่ายลงให้กับ Nintendo Switch และ PC เท่านั้น ซึ่งสามารถทำยอดขายไปได้ทั้งหมด 4.4 ล้านยูนิต
อย่างไรก็ดี Monster Hunter Rise ภาคหลักก็ทำยอดขายไปได้ 11 ล้านยูนิตแล้ว และได้กลายเป็นเกมขายดีที่สุดในลำดับที่ 2 ของ Capcom อย่างเป็นทางการตามหลังเพียงแค่ Monster Hunter World เท่านั้น
และด้วยมาตรการเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่เริ่มมีการผ่อนปรนแล้ว มันก็ทำให้ภาคธุรกิจในส่วนของเกมตู้มีรายได้เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า โดยมีรายสุทธิได้จาดตู้อาร์เคด 7.3 ล้านเยน (เพิ่มขึ้น 29.7% จากปีก่อน) และมีกำไรจากการดำเนินงานอยู่ที่ 677 ล้านเยน (เพิ่มขึ้นจากเดิมเกือบ 9 เท่า) โดยมีเกมอย่าง Shin Onimusha และ Biohazard ที่สร้างรายได้ไปกว่า 3 ล้านเยน และทำกำไรได้ 1.7 ล้านเยนเลยทีเดียว
สำหรับกิจการอื่น ๆ ของ Capcom ที่น่าพูดถึงก็มีซีรีส์คนแสดงของ Resident Evil ที่ลงให้กับ Netflix แต่มันกลับทำรายได้ลดลงจากปีก่อนถึง 9% และยังมีกำไรจากการดำเนินงานที่ลงลง 8% อีกด้วย
ในส่วนของการประมาณการผลประกอบการของปี 2022 ทาง Capcom ได้มีการปรับตัวเลขรายได้ทั้งปีจาก 120 พันล้านเยนมาเป็น 125 ล้านเยนจากการคาดการณ์ว่ากำไรจากการดำเนินงานจะเพิ่มขึ้นจาก 48 พันล้านเยน มาเป็น 50 พันล้านเยน โดยยังคงตั้งเป้าทำสถิติเป็นปีที่ 10 ต่อเนื่องเหมือนเช่นเดิม