Bungie ผู้พัฒนาเกม Destiny ประกาศยุติความสัมพันธ์กับทาง Activision ค่ายผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเกมอย่างเป็นทางการแล้ว พร้อมทั้งยังได้ดึงเอาสิทธิ์ในการจัดจำหน่ายเกม Destiny คืนจากทาง Activision เพื่อมาวางจำหน่ายเองอีกด้วย
“วันนี้เราได้ออกแถลงการณ์ถึงแผนงานสำหรับทาง Bungie ในการที่พวกเขาจะได้สิทธิ์ในการวางจำหน่ายเกม Destiny และรวมไปถึงสิทธิ์ในการดูแลตัวเกมโดยพวกเขาเองทั้งหมด” จากรายละเอียดของแถลงการณ์ของทาง Bungie และ Activision พวกเขายังได้ระบุต่ออีกด้วยว่า “เพื่อที่จะก้าวเดินไปข้างหน้าทาง Bungie จะได้เป็นผู้ครอบครองและพัฒนาแฟรนไชส์นี้ และทาง Activision ก็จะได้ไปมุ่งเน้นไปยัง IP ของตนเองและโปรเจกต์อื่นๆ ให้มากขึ้น Activision และ Bungie ได้ยินยอมพร้อมใจในการเปลี่ยนแปลงที่ไร้รอยต่อนี้สำหรับแฟรนไชส์เกม Destiny และจะยังคงมีการทำงานด้วยการอย่างใกล้ชิด ในตลอดช่วงของการเปลี่ยนแปลงในนามของการเป็นตัวแทนของชุมชนผู้เล่นเกม Destiny จากทั่วทุกมุมโลก”
นอกจากนี้ทาง Bungie ได้ออกแถลงการณ์ผ่านทางเว็บไซต์ Official โดยได้กล่าวถึงการถอนตัวจากทาง Activision ซึ่งได้ระบุว่า “เรายินดีไปกับความสำเร็จในตลอดช่วง 8 ปีที่ผ่านมา และเราก็อยากที่จะขอบคุณทาง Activision สำหรับการให้ความร่วมมือในเกม Destiny”
“เมื่อมองไปยังหนทางข้างหน้า เราตื่นเต้นมากในการประกาศแผนการของเราให้กับทาง Activision ในการถ่ายโอนสิทธิ์ของการวางจำหน่ายเกม Destiny ให้มาเป็นของ Bungie และด้วยชุมชนเกม Destiny ที่ไม่ธรรมดานี้ เราก็พร้อมแล้วสำหรับการวางจำหน่ายเกมด้วยตนเอง ในขณะที่ทาง Activision จะได้ไปมุ่งเน้นในการสร้างโครงการ IP ของพวกเขาให้มากยิ่งขึ้น”
แผนการสำหรับกระบวนการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ กำลังอยู่ในช่วงต้นของกระบวนการ ด้วยการที่ทั้ง Bungie และ Activision ยินยอมพร้อมใจกัน ในการที่จะทำให้การส่งต่อในครั้งนี้ ไร้รอยต่อให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
นอกจากนี้ทาง Bungie ยังได้ยืนยันอีกด้วยว่า พวกเขาจะยังคงยึดแผนการเดิมในการปล่อยคอนเทนต์ให้กับเกม Destiny 2 ตาม Roadmap ที่ได้เคยมีการประกาศไว้และยังได้บอกใบ้อีกด้วยว่าพวกเขาอาจจะมีการปล่อยคอนเทนต์ให้กับเกมเพิ่มเติมในอนาคตอีกด้วย
“ด้วยการมาของ Forsaken (ส่วนเสริมของเกม Destiny 2 ที่ออกวางจำหน่ายเมื่อปลายปีที่แล้ว) เราได้เรียนรู้และรับฟัง และยังได้พึ่งพาในสิ่งที่ผู้เล่นต้องการในทำให้เกมมีประสบการณ์เล่นที่ยอดเยี่ยม โดยในส่วนที่เหลือนั้นมั่นใจได้เลยว่ามันจะมาอีกมากกว่าเดิมแน่นอน เราจะทำการส่งมอบสิ่งที่มีอยู่แล้วไปตาม Roadmap และเราก็กำลังมองไปยังหนทางข้างหน้าในการปล่อยประสบการณ์การเล่นแบบฤดูกาลในเดือนข้างหน้าที่กำลังจะมาถึง พร้อมทั้งยังจะมีความประหลาดใจที่ได้เตรียมไว้ให้กับชุมชนเกมอีก ด้วยการประกาศของอะไรบางอย่างที่น่าตื่นเต้นและกำลังรอคอยอยู่ข้างหน้านี้”
โดยในส่วนของผู้ที่ซื้อเกม Destiny 2 ไปแล้วทาง Blizzard ได้ออกมายืนยันผ่านทาง Twitter อีกด้วยว่า “ตัวเกมจะยังได้รับการสนับสนุนโดยบริการ Battle.net และเราก็คาดหวังว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ มาเปลี่ยนแปลงบริการของเราหรือประสบการณ์ในการเล่นที่คุณจะได้รับ” อีกด้วย
โดยทาง Bungie นั้นได้ทำสัญญาในการให้สิทธิ์ในการจัดจำหน่ายเกมกับทาง Activision ในปี 2010 ซึ่งตามแผนการเดิมแล้ว เกม Destiny จะมีเกมส่วนเสริมขนาดใหญ่ออกมาเพื่ออัปเดตเนื้อหาให้กับเกมถึง 4 ตัวที่จะออกวางจำหน่ายตั้งแต่ปี 2013 จนถึงปี 2020 แต่แล้วแผนการดังกล่าวก็ไม่เป็นไปอย่างที่ทั้งคู่คิด เพราะตัวเกม Destiny มีการเลื่อนการออกวางจำหน่ายไปเกือบหนึ่งปีเต็ม โดยเกมได้ออกวางจำหน่ายในเดือนกันยายน 2014 ซึ่งได้รับกระแสตอบรับจากผู้เล่นไปในทางที่ไม่ดีนักในช่วงแรก จนกระทั่งเกมได้ปล่อยส่วนเสริมทั้ง 4 ตัวออกมาภายในเวลาอันรวดเร็ว และก่อนที่ Destiny 2 จะได้ออกวางขายในเดือนกันยายน 2017
ซึ่งในปี 2018 ที่ผ่านมาทาง Bungie ได้มีการทำสัญญากับทางบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่จากประเทศจีนอย่าง NetEase ในการลงหลักปักฐานเพื่อทำให้พวกเขาได้กลายเป็น “บริษัทผู้ผลิตเกมในหลายแฟรนไชส์ที่จะออกวางจำหน่ายไปทั่วโลก” โดยทาง Bungie ได้รับเงินลงทุนจากทาง NetEase เป็นจำนวนถึง 100 ล้านเหรียญสหรัฐในการที่จะทำให้พวกเขาได้ไปถึงเป้าหมายที่ได้วางไว้
และหากย้อนกลับไปก่อนนั้น มันก็เป็นเหตุการณ์ที่คล้ายคลึงกับเมื่อครั้งที่พวกเขาได้แยกตัวออกมาจากทาง Microsoft ในปี 2007 เพื่อมาสร้างทีมพัฒนาอิสระของตนเอง แต่ในครั้งนั้นสิทธิ์ในการผลิตและจำหน่ายเกม Halo ผลงานก่อนหน้าของ Bungie ก็ได้กลายเป็นของ Microsoft ไปพร้อมกับการที่ได้ทางทีมงาน 343 Industries มารับช่วงต่อในการพัฒนาเกม Halo ภาคต่อจากนั้นเป็นต้นมา
แหล่งข้อมูลอ้างอิง:
Bungie splits with Activision, acquires rights to Destiny
Bungie gets $100 million investment from Chinese gaming company NetEase