Assassin’s Creed Valhalla: Wrath of the Druids จะเป็นส่วนเสริมตัวแรกที่จะปล่อยออกมาในวันที่ 13 พฤษภาคมนี้ โดยในส่วนเสริมตัวนี้ เอวอร์ ตัวเอกของเกมจะต้องเดินทางไปช่วยเหลือกษัตริย์ แกลิค (Gaelic) แห่งไอร์แลนด์ ในการกำราบลัทธิดรูอิดให้ได้นั่นเอง
ในส่วนเสริมตัวนี้ เอวอร์ จะได้นำทัพเหล่าไวกิ้งไปยังเกาะมรกตที่เต็มไปด้วยปริศนา ซึ่งฐานที่มั่นของผู้เล่นในส่วนเสริมตัวนี้จะย้ายมาอยู่ในเมืองดับลินแทน ซึ่งจะมีสถานที่มากมาให้สำรวจที่ผู้เล่นจะได้พบเจอกับมิตรและศัตรูมากมาย โดยที่ไอร์แลนด์นั้นเกมจะมีโทนและบรรยากาศที่มืดหม่นมากกว่าแผนที่เดิมในประเทศอังกฤษเป็นอย่างมาก ซึ่งพื้นที่ส่วนใหญ่นั้นมันจะถูกปกคลุมไปด้วยป่าและหนองบึง ที่จะเป็นการสะท้อนภาพของความลึกลับและศาสตร์มืดของลัทธิดรูอิด (Druidic) ที่แฝงตัวอยู่ ที่พวกมันจะเป็นศัตรูหลักของเกมในส่วนเสริมตัวนี้ที่มีชื่อว่าเหล่า “บุตรแห่งดานุ” (Childrean of Danu) นั่นเอง
และในส่วนเสริมตัวนี้ผู้เล่นจะได้พบเจอกับฝั่งฝ่ายมากมายที่ผู้เล่นจะสามารถเลือกให้ความช่วยเหลือได้ พร้อมกับการกลับมาอีกครั้งของระบบ Conquest ที่เกมจะเปิดโอกาสให้ผู้เล่นช่วยเหลือฝั่งฝ่ายในการถล่มปราการแหวน (Ringed Forts) ที่เป็นสถานที่ทางการทหารในประวัติศาสตร์ที่เป็นเอกลักษณ์ของประเทศไอร์แลนด์ ที่แม้ว่าผู้เล่นจะสามารถยึดครองปราการแหวนได้แล้ว มันก็มีโอกาสที่ฝั่งฝ่ายที่เป็นศัตรูจะสามารถเข้ามายึดปราการกลับคืนได้ด้วย
นอกจากนี้แน่นอนว่าเกมจะมาพร้อมกับอาวุธและชุดเกราะใหม่ๆ ให้ผู้เล่นได้ใช้งานที่อิงมาจากปกรณัมและเซลติก และด้วยการที่เกมมีฉากหลังอยู่ในเมืองดับลินที่เป็นย่านการค้าขนาดใหญ่ในประวัติศาสตร์ เกมยังมีการเพิ่มระบบการค้าขายเข้ามา และยังมีกลไกของการลักลอบ เพิ่มเติมเข้ามาอีกด้วยและสุดท้ายกลไกการต่อสู้ภายในเกมนั้นจะมีการปรับปรุงใหม่เช่นกัน โดยระบบการต่อสู้แบบอาวุธคู่ (Dual-wielding) จะมีบทบาทมากขึ้น และหลังจากรอคอยกันมานานในที่สุดเกมจะมีอาวุธอย่าง ดาบสั้น เพิ่มเข้ามาให้ใช้งานกันอีกด้วย โดยเดิมทีส่วนเสริมตัวนี้มีแผนจะปล่อยออกมาให้ได้เล่นกันเมื่อในวันที่ 29 เมษายนนี้ แต่ทางทีมงานก็ตัดสินใจเลื่อนกำหนดการปล่อยออกไปเป็นวันที่13 พฤษภาคม เพื่อขัดเกลาและเพิ่มเติมเนื้อหาให้สมกับที่แฟนๆ รอคอยให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้นั่นเอง