และนี่ก็อาจจะไม่ใช่ Assassin’s Creed ที่เราเคยรู้จัก
‘เควส’ หรือภารกิจในเกม Open World นั้นความท้าทายอย่างหนึ่งของทีมพัฒนาเกมในการที่จะสร้างมันให้มีความหลากหลายและมีเนื้อหาที่น่าติดตาม แต่สิ่งที่เราพบเจอในเกมสมัยนี้นั้นก็ยังคงหลีกหนีไม่พ้นความซ้ำซากจำเจของเควสที่เน้นเอาปริมาณเข้าว่ามากกว่าคุณภาพที่เต็มไปด้วยเควสในลักษณะ ‘Fetch’ หรือเควสที่ปฎิบัติกับผู้เล่นเป็นดั่งสารถีผู้ส่งของทั้งๆที่ภารกิจของเราคือการกอบกู้โลก หรือไม่ก็เป็นภารกิจในลักษณะของการถูกตัวละครในเกมไหว้วานให้ไปทำอะไรบางอย่าง และกับเกม RPG หรือเกม Open World ที่เราจะต้องใช้เวลาไปกับมันในระดับ 50-100 ชม. ที่เต็มไปด้วยภารกิจซ้ำๆนั้นก็เป็นความทรมาณบันเทิงไม่น้อย ซึ่งเรื่องราวเหล่านี้ทางทีมงานผู้พัฒนา Assassin’s Creed Odyssey อย่างทีมงาน Ubisoft สาขาควิเบก ก็รู้ซึ้งกันเป็นอย่างดีเพราะสิ่งเหล่านี้ก็ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งพวกเขานั่นแหละที่เป็นคนทำมานานเป็นเวลาหลายปี
ความเปลี่ยนแปลงของระบบเควสใน Assassin’s Creed Odyssey
นับตั้งแต่ Assassin’s Creed Brotherhood จนมาถึง Black Flag หากใครที่เป็นแฟนเกมซีรี่ส์นี้ก็เชื่อได้ว่า คงจะไม่มีทางลืมเนื้อหาของเควสง่อยๆที่ตัวเกมเคยนำเสนออย่างแน่นอน โดยเฉพาะเควสที่เราจะต้องแกะรอยเหล่าตัวละคร NPC ที่เดินทอดน่องไม่รู้อิโหน่อิเหน่ไปเรื่อยๆโดยไม่ให้พวกมันรู้ตัวจนไปถึงจุดๆหนึ่งภารกิจถึงจะสำเร็จ และที่เลวร้ายกว่าก็คือหากมันเป็นภารกิจที่ต้องมีดักฟังบทสนทนาของเหล่า NPC โดยที่เราจะต้องเข้าไปให้ให้ใกล้ที่สุดโดยไม่ให้พวกมันรู้ตัวมันก็ยิ่งทวีความน่าเบื่อยิ่งขึ้นไปอีกระดับ และก็ต้องขอบคุณเกมภาคล่าสุดอย่าง Assassin’s Creed Origins ที่ดูจะให้ความสำคัญของเควสเหล่านี้น้อยลงไป แต่ถึงอย่างไรก็ดีมันก็ยังเต็มไปด้วยเควสที่ซ้ำๆและยังต้องการความหลากหลายอยู่อีกมาก ซึ่งนั่นคือหนึ่งในเป้าหมายของทีมงาน Ubisoft สาขาควิเบก ต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงใน Assassin’s Creed Odyssey
คุณสก็อต ฟิลิปส์ ผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์ของ Assassin’s Creed Odyssey ได้พูดถึงการเปลี่ยนแปลงของระบบเควสในเกม Assassin’s Creed Odyssey ไว้ว่า มันคือสิ่งที่ทีมงานได้พยายามอย่างมากในการปรับปรุงมันให้มีความหลากหลายมากกว่าเดิม
“ผมคิดว่าเราได้ทำการปรับปรุงกันขนานใหญ่ ที่เน้นไปในเรื่อของตัวเลือก (Choice) ที่ผู้เล่นจะได้เป็นผู้ตัดสินใจ ด้วยการที่เราให้ทางเลือกต่างๆรวมไปถึงหนทางในการทำภารกิจ และวิธีการในการปฎิสัมพันธ์กับผู้มอบเควสที่หลากหลาย และด้วยวิธิการที่พวกเขาจะสวมบทบาทเป็นตัวละครในเกม เพราะมันคือครั้งแรกที่เราจะให้ผู้เล่นได้เล่นเป็นตัวของตัวเอง ซึ่งมันคือประสบการณ์ที่แตกต่างไปจากเดิมเป็นอย่างมาก และมันก็มีการปฎิสัมพันธ์ที่มีความเป็นพลวัตมากขึ้นทั้งในส่วนของโลก และตัวละครที่อยู่ในเรื่องราวที่มันจะดำเนินไป ซึ่งเกมเพลย์นั้นก็จะเป็นภาพสะท้อนของมันอีกที”
Assassin’s Creed Odyssey จะเป็นเกมภาคแรกที่มันจะมีระบบ Dialog Wheel หรือวงล้อของการสนทนาที่ผู้เล่นจะสามารถเลือกโต้ตอบกับเหล่าตัวละคร(ด้วยชุดคำตอบที่ตัวเกมเตรียมไว้ในวงล้อ)ได้เป็นครั้งแรก ที่คำตอบของผู้เล่นนั้นก็อาจจะส่งผลต่อการทำภารกิจต่างๆ และเมื่อมันมารวมกับโลกที่เปิดกว้างมากยิ่งขึ้นและวิธีการใหม่ของเกมการเล่นใน Assassin’s Creed Odyssey ก็อาจจะทำให้มันมีความหลากหลายที่มากยิ่งขึ้นกว่าเดิมนั่นเอง และไม่แน่ว่าตัวเลือกของบทสนทนาต่างๆนั่นอาจจะส่งผลกระทบต่อเนื่องไปยังเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นต่อไปก็เป็นได้
แหล่งข้อมูลอ้างอิง :
- Assassin’s Creed Odyssey to Improve the Quest Variety in the Series
- Assassin’s Creed Odyssey Wiki – Everything You Need To Know About The Game
ข่าวอื่นๆที่น่าสนใจในรอบวัน :
- CD Projekt Red อาจจะกลับมาสร้างเกมในจักรวาลของ The Witcher อีกครั้ง
- กลุ่มนักวิจัยด้านการตลาด NPD คาดการณ์ Nintendo Switch จะเป็นเครื่องเกมที่ขายดีที่สุดในปีนี้
- Vampyr เกมแอ็คชั่น RPG ของ Dontnod Entertainment ทำยอดขายไปได้แล้ว 450,000 ล้านยูนิท
- Kalypso Media Group ได้สิทธิ์ในการพัฒาเกม Commandos เกม Tactical Strategy ชื่อดังเมื่อ 10 กว่าปีที่ก่อนแล้ว ที่อาจจะได้กลับมาในรูปแบบ Remaster
- Rocksteady ทีมงานผู้สร้าง Batman Arkham จะไม่มีการเปิดตัวเกมใหม่ในงาน San Diego Comic-Con 2018 อย่างแน่นอน