EA ปล่อยรายงานผลประกอบการในไตรมาสที่ 2 ที่สิ้นสุดลงเมื่อวันที่ 30 กันยายน ออกมาแล้ว โดยยังคงทำกำไรและเติบโตได้จากความสำเร็จของเกม FIFA 23 ที่เพิ่งจะได้ออกวางจำหน่ายไปเมื่อไม่นานมานี้
ผลประกอบการโดยรวม
- รายได้ 1.9 พันล้านเหรียญ (เพิ่มขึ้น 4% จากปีก่อน)
- รายได้สุทธิทางบัญชี 1.75 พันล้านเยน (ลดลง 5% จากปีก่อน)
- กำไรสุทธิ 299 ล้านเยน (เพิ่มขึ้น 2% จากปีก่อน)
สาระสำคัญ
สำหรับความสำเร็จในไตรมาสที่ผ่านมาทาง EA ให้เครดิตเกม FIFA 23 ที่เปิดตัวได้ยอดเยี่ยมที่สุดในประวัติศาสตร์ของแฟรนไชส์ โดยทาง คริส ซูห์ (Chris Suh) ประธานฝ่ายการเงินของ EA ได้แถลงว่าไตรมาสที่ 2 ที่ผ่านมาเป็น “ไตรมาสที่แข็งแรงทีเดียว” ซึ่งเป็นผลมาจากเกมต่าง ๆ ของ EA Sports และกิจการด้าน Live service ในหลากแพลตฟอร์ม ซึ่งเขายังคงเชื่อว่ามันจะเป็นรากฐานให้กับการเติบโตในระยะยาวของบริษัทเช่นเดิม
ซึ่ง FIFA 23 เปิดตัวด้วยยอดขายที่มากกว่าเกมภาคก่อนถึง 10% และมีผู้เล่น Ultimate Team เติบโตขึ้นถึง 6% จากปีก่อนหน้า และเกมอย่าง Madden NFL 23 เองก็ยังคงทำยอดขายได้ดีเหมือนเช่นเดิม โดยในไตรมาที่ผ่านมาพวกเขามีรายได้จาก live service เพิ่มขึ้น 8% ในขณะที่เกมเต็มที่วางจำหน่ายก็มีรายได้เพิ่มขึ้นอยู่ที่ 2%
โดยรายได้จากการขายเกมคอนโซลยังคงกินรายได้ 2 ใน 3 ของรายได้ทั้งหมด แต่ก็ลดลงมา 3% โดยมีรายได้จากเกมมือถือที่เติบโตขึ้นอย่างมากถึง 27% และเกม PC ที่เติบโตขึ้น 12%
ประมาณการในไตรมาสที่ 3
- รายได้ 1.82 – 1.93 พันล้านเหรียญ (เพิ่มขึ้นราว 2-8% จากปีก่อน)
- กำไรสุทธิ 120 – 164 ล้านเหรียญ (เพิ่มขึ้นราว 81-148% จากปีก่อน)