Nintendo แถลงผลประกอบการในไตรมาสแรก โดยมียอดขายลดลง 4.7% ซึ่งปัจจัยหลักมาจากยอดขายฮาร์ดแวร์ที่ลดลงแม้ทางบริษัทจะยืนยันว่ายังอยู่ในสถานะที่มั่นคงอยู่
ผลประกอบการโดยรวมในไตรมาสแรก
- รายได้ (Net sales) : 307.5 พันล้านเยน (2.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) ลดลง 4.7% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
- กำไรจากการดำเนินงาน (Operating profit) : 101.6 พันล้านเยน (762.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) ลดลง 15.1%
- กำไรจากการดำเนินงานปกติ (Ordinary profit) : 166.7 พันล้านเยน (1.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) เพิ่มขึ้น 29.6%
- กำไรขั้นต้น (Gross profit) : 184.5 พันล้านเยน (1.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) ลดลง 4.3%
ยอดขายโดยรวมในไตรมาสแรก
- Nintendo Switch ทำยอดส่งเพิ่ม 3.43 ล้านยูนิต ลดลง 22.9%
- ยอดขายซอฟต์แวร์แบบรีเทล 41.41 ล้านยูนิต ลดลง 8.6%
- ยอดขายดิจิทัล 88 พันลานเยน (660.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) เพิ่มขึ้น 16%
- รายได้จาก IP และมือถือ 10.9 พันล้านเยน (81.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) ลดลง 16.8%
สาระสำคัญ
แม้ยอดขายเครื่อง Nintendo Switch จะตกลงแต่ในตอนนี้ทาง Nintendo สามารถส่งเครื่องออกไปวางจำหน่ายได้ 111.08 ล้านยูนิตแล้วนับตั้งแต่วางจำหน่ายในเดือนมีนาคม 2017 และกำลังจะทำยอดขายแซง Game Boy ไปแล้วที่มียอดขาย 118.69 ล้านยูนิต แต่ยังคงห่างไกลจากเครื่อง Nintendo DS รุ่นแรกที่มียอดขายอยู่ที่ 154.02 ล้านยูนิต
ซึ่งยอดขายที่ลดลงเป็นที่ตามที่ Nintendo คาดการณ์จากปัญหาการขาดแคลนชิปเซมิคอนดักเตอร์ ปัญหาจากโรงงานประกอบ Hosiden Corp ที่ไม่สามารถหาชิ้นส่วนมาประกอบได้ตามยอด ซึ่งทาง Nintendo ยืนยันว่าตัวเครื่องยังคงมีความต้องการจากผู้บริโภคในระดับที่ทรงตัวในทุกภูมิภาค แม้จะวางจำหน่ายมาเป็นปีที่ 6 แล้ว
โดยในไตรมาสที่ผ่านมาเครื่องในรุ่น OLED สามารถทำยอดขายได้มากที่สุดในบรรดารุ่นทั้งหมด โดยมียอดส่งออกไปถึง 1.5 ล้านยูนิต ตามมาด้วยรุ่นธรรมดาที่ 1.3 ล้านยูนิต ทำให้ในตอนนี้เครื่อง OLED มียอดส่งรวมทั้งหมด 7.3 ล้านยูนิตแล้วนับตั้งแต่วางจำหน่ายไปเมื่อเดือนตุลาคม 2021
สำหรับยอดขายซอฟต์แวร์ที่ลดลงทาง Nintendo ยืนยันว่ามันก็ยังคงเป็นยอดขายเฉพาะในไตรมาสแรกที่สูงเป็นอันดับ 2 ตั้งแต่วางจำหน่าย Nintendo Switch เป็นต้นมา โดยเป็นรองแค่ไตรมาสแรกของปี 2020 เท่านั้นที่ได้แรงส่งมาจาก Animal Crossing และการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส
ซึ่งมี Nintendo Switch Sports ที่เป็นเกมที่ทำยอดขายได้มากที่สุดในไตรมาสที่ผ่านมาด้วยยอดส่งไปวางจำหน่าย 4.84 ล้านยูนิต โดยมีอีก 3 เกมที่ทำยอดขายได้มากกว่า 1 ล้านยูนิตซึ่งได้แก่ Mario Strikers: Battle League ที่ทำยอดขายได้ 1.91 ล้านยูนิต, Kirby and the Forgotten Land ที่ 1.88 ล้านยูนิต และ Mario Kart 8 Deluxe ที่ทำยอดขายได้ 1.48 ล้านยูนิต
โดยในตอนนี้เกม Kirby and the Forgotten Land ได้กลายเป็นเกม Kirby ที่ทำยอดขายได้สูงที่สุดไปแล้วด้วยยอดรวม 4.53 ล้านยูนิต และ Mario Kart 8 Deluxe ก็มียอดรวม 46.82 ล้านยูนิตแล้ว นอกจากนี้ทาง Nintendo ยังได้รายงานอีกด้วยว่ายอดผู้ใช้งาน Nintendo Switch Online ก็ยังคงเพิ่มขึ้นด้วย
ประมาณการผลประกอบการทั้งปี
- รายได้ (Net sales) : 1.6 ล้านล้านเยน (12 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) ลดลง 5.6% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
- กำไรจากการดำเนินงาน (Operating profit) : 500 พันล้านเยน (3.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) ลดลง 15.6%
- กำไรจากการดำเนินงานปกติ (Ordinary profit) : 480 พันล้านเยน (3.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) ลดลง 28.4%
สำหรับแผนงานในปีนี้ทาง Nintendo ยังไม่มีการปรับเปลี่ยนไปจากแผนการเดิม โดยจะยังคงพยายามส่งเครือ่ง Nintendo Switch ทั้ง 3 รุ่นให้ออกไปวางจำหน่ายให้ได้เพื่อคงโมเมนตัมและขยายฐานผู้ใช้งาน ซึ่ง Nintendo ยังมีเกมอย่าง Xenoblade Chronicles 3, Splatoon 3 และ Pokémon Scarlet and Violet ที่จะออกวางจำหน่ายในปีงบประมาณนี้อีกด้วย